Home บันเทิง พลอย เฌอมาลย์ เล่านาทีตอนรู้ป่วย สูญเสียตัวตนเป็นปี

พลอย เฌอมาลย์ เล่านาทีตอนรู้ป่วย สูญเสียตัวตนเป็นปี

7

แม้หลายคนจะมองว่าเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง แต่ความจริงแล้ว พลอย เฌอมาลย์ ยอมรับว่าเธออ่อนแอมากกว่าที่ใครคิด ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาเธอต้องเผชิญวิกฤตรอบด้าน ทั้งโรคมะเร็งเต้านม ภาวะซึมเศร้า น้ำหนักลดลงถึง 13 กิโลกรัม รวมถึงช่วงเวลาที่รู้สึกสูญเสียความเป็นตัวเอง แต่วันนี้เธอค่อยๆ กลับมายืนได้อีกครั้ง พร้อมเล่าทุกเหตุการณ์ในรายการ WOODY FM

พลอยเผยว่าตอนนี้อาการดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา แต่ยังไม่สมบูรณ์ 100% ทุกอย่างยังต้องค่อยๆ ฟื้นฟู พร้อมยอมรับว่าแม้จะอยู่ในวงการบันเทิงกว่า 30 ปี แต่ก็ยังมีหลายเหตุการณ์ที่จัดการจิตใจตัวเองไม่ได้ การทำตัวเหมือนเข้มแข็งเป็นเพียง เกราะป้องกัน ที่ซ่อนความอ่อนไหวจริงๆ ไว้ข้างใน

เมื่อถูกถามถึงบทเรียนจากการป่วยมะเร็งเต้านม พลอยเล่าว่าทั้งหมดเกิดจาก ความประมาท เธอพบก้อนเนื้อ แต่กลัวการเจาะตรวจจึงปล่อยไว้กว่า 1 ปีครึ่ง ก่อนกลับมาตรวจอีกครั้งและพบว่าเป็นมะเร็งระดับ 4B วันที่ได้ยินคำว่า เป็นมะเร็ง เธอถึงกับทรุด น้ำตาไหลทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับคนที่ดูแลสุขภาพมาตลอด

เธอเข้ารับการผ่าตัดเต้านมซ้าย และตรวจพบเป็นมะเร็งสองชนิด ทั้ง ductal และที่ต่อมน้ำเหลือง ระยะที่ 2 จากนั้นต้องฉายแสง 25 ครั้งและกินยากดฮอร์โมนจนเข้าสู่วัยทองเร็วกว่าปกติ ไม่มีประจำเดือนเกือบสองปีและมีอารมณ์แปรปรวนหนักในช่วงแรก

ผลกระทบจากการรักษาและปัญหาชีวิตต่างๆ ทำให้พลอยเข้าสู่ภาวะซึมเศร้ารุนแรง น้ำหนักลดกว่า 13 กิโลภายใน 3 เดือน นอนไม่ได้ เครียดจัด และเก็บตัวอยู่ที่บ้านเป็นปี แม้จะยังรับงาน แต่ก็ต้องยกเลิกละครหนึ่งเรื่องเพราะสภาพใจและกายไม่ไหว

เธอเล่าว่าเคยเครียดจน ไม่รู้ว่าตัวเองคือใคร และเป็นครั้งแรกในชีวิตที่รู้สึกสูญเสียความมั่นใจจนเกือบจะใช้ชีวิตต่อไม่ได้ อาการวิตกกังวลและ panic attack เกิดขึ้นบ่อย มือไม้สั่น ไม่มีรอยยิ้ม จนคนใกล้ตัวทักว่าจำเธอไม่ได้

แม้จะดิ่งสุดขนาดนั้น แต่สุดท้ายพลอยพบแสงสว่างจากการตั้งใจ รักตัวเอง อย่างจริงจัง เธอเริ่มดึงใจกลับบ้าน ออกกำลังกาย กอดตัวเองทุกวัน พยายามดูแลความคิด และลากตัวเองออกจากความทุกข์ทีละนิด

บางวันก็เผลอย้อนคิดเรื่องเจ็บปวด แต่พอรู้ตัวก็หยุดทันที บอกตัวเองว่าต้องเดินหน้าต่อไป ไม่อยู่ที่เดิมอีกแล้ว

เธอฝึกมีสติ ดึงตัวเองกลับมาปัจจุบันซ้ำๆ จนกลายเป็นนิสัย และพบว่าหลังผ่านความมืดมนที่สุด ชีวิตก็เริ่มดีขึ้นอย่างช้าๆ แต่มั่นคง

พลอยบอกว่า ทุกคนล้มได้ แต่ไม่ควรจมอยู่กับความล้มเหลวนาน ขอให้ลุกขึ้นมาสู้เพื่อดูแลหัวใจของตัวเอง

เราควบคุมอดีตไม่ได้ แต่เราควบคุมความคิดตัวเองได้ อย่าบังคับชีวิตให้สมบูรณ์แบบ แค่ยังมีลมหายใจอยู่ ก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว

ปิดท้าย พลอยย้ำว่า อย่าลืมรักตัวเองและให้เกียรติตัวเอง เพราะนั่นคือพลังเล็กๆ แต่สำคัญที่สุดที่ช่วยให้เธอกลับมายืนได้อีกครั้ง