จากกรณี หญิงไทยถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมืองปอยเปตทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ผู้เสียชีวิตคือ นางสาวสุดา อายุ 26 ปี ชาวจังหวัดพังงา ถูกทรมานอย่างรุนแรง ทั้งบังคับให้ลุก-นั่งนับพันครั้ง และถูกไฟฟ้าช็อตจนหมดสติและเสียชีวิต ขณะเดียวกันแฟนหนุ่มของผู้ตายก็ถูกทำร้ายอย่างหนักเช่นกัน
ก่อนเกิดเหตุ เฟซบุ๊ก ก็แค่ คนธรรมดา ศูนย์ประสานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน เปิดเผยว่าสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากสถานที่ที่เตรียมจะเผาที่วัดแห่งหนึ่งในกรุงพนมเปญ พร้อมระบุข้อความว่า
((ตอนนี้พบร่างน้องแล้ว))
มันเอาไปไว้วัดวัดหนึ่ง ในเขตพนมเปญ เพื่อที่จะทำการเผา
ถ้าผมไม่เล่นข้อมูลนี้ น้องก็ถูกเผาฟรี ตอนนี้ร่างน้องอยู่ในการดูแลของสถานทูตไทยในพนมเปญแล้ว รอกระบวนการรอสถานทูต ส่งร่างน้องกลับมาประเทศไทย
กลับคืนสู่ภูมิลำเนาบ้านเกิด
สาเหตุการเสียชีวิตของน้อง สายข่าวแจ้งมา
น้องทำยอดไม่ได้และถูกทำโทษให้ลุกนั่ง 1000 ถึง 2000 ครั้ง จนหมดสติและใช้ไฟฟ้าแรงสูงช็อตเพื่อให้ตื่น แต่น้องไม่ตื่น จนเสียชีวิตในที่สุด
ส่วนตัวสามีน้องที่มีลูกด้วยกันตอนนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม
พิกัดที่ผมลงไปก่อนหน้านี้มีการทำร้ายร่างกาย ทุบตีช็อตไฟฟ้า ชกต่อยตาปูตาบวม แบบนี้กับคนไทยหลายหลายคน มาตลอด
แถมยังอ้างตัวเองว่าบริษัทเสียหาย ทำคอลเซ็นเตอร์หลอกคน ยังจะอ้างตัวเองว่าเป็นบริษัท ผมใช้คำว่าบริสัตว์ ได้ไหม เดี๋ยวมาดูกันว่าตึกนี้ระหว่างย้ายไปไพลิน ก่อนย้ายหรือระหว่างย้ายหรือหลังย้ายแล้ว จะเจออะไร เดี๋ยวรู้เรื่อง มีเรื่อง
ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 เพจเดียวกัน ก็แค่ คนธรรมดา โพสต์ความคืบหน้าเกี่ยวกับแฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิต ระบุว่า
ได้ข่าวมาว่า พวก ซ้อมแฟนของน้องที่เสียชีวิต จนอาการปางตาย ทำแบบนี้ เพื่อจะบังคับให้เขาทำยอด วัน ๆ นึงเป็นแสน
ไหนล่ะครับที่รัฐบาลกัมพูชา พูดนักหนาว่า สแกมเมอร์ไม่มี พิกัดผมก็ชี้ชัดเจน
และตึกนี้ก็จะย้ายไปที่ไพริน ผักกาด ไม่คืนนี้ก็พรุ่งนี้ 2 ทุ่ม แต่ไม่ต้องห่วงครับ ทีมงานผมฝังตัวอยู่แถวนั้น รถทุกคันผมสแกนหมด
อยากพังเดี๋ยวจัดให้ ฆ่.คนเป็นผักปลาแบบนี้ ใช้เงินซื้อกฎหมาย สั่งใครก็ได้ นี้เหรอที่บอกว่า ประเทศเพื่อนบ้าน

โพสต์ดังกล่าว




















