ก่อนหน้านี้ทำเอาหลายๆ คนช็อกเป็นอย่างมาก สำหรับผู้กำกับภาพยนตร์ สัปเหร่อ Story จักรวาลไทบ้าน อย่าง ต้องเต ธิติ และอดีตแฟนสาว ณิชา ณิชามล ได้ปิดฉากรักลงแล้ว โดยฝ่ายชายเป็นคนตัดสินใจบอกเลิก
ล่าสุด ต้องเต ได้ออกมาเปิดใจครั้งแรก ถึงสาเหตุเลิกรากับแฟนสาว ณิชา ณิชามล หลังคบหากันมานาน 2 ปี
ถามถึงเรื่องที่อดีตแฟนของเรา ออกมาโพสต์บอกว่าเลิกรากับเราแล้ว ซึ่งเราเป็นฝ่ายบอกเลิก?
“ผมต้องขอโทษเขาครับ แล้วก็ขอบคุณมากๆ เลย ไม่ใช่ว่าเราดังหรือมีเงินแล้วทิ้งเขา ปัจจุบันเราก็ไม่ได้มีเงินเลย แต่ด้วยความที่ผมไม่ค่อยเก่งเรื่องทำงาน พอมาทุ่มกับงานหนังเยอะๆ ก็จะลืมคนที่อยู่ข้างๆ ไป คิดว่าเราไม่ได้ตั้งใจรักเขาเหมือนที่เราตั้งใจทำหนังก็เลยรู้สึกว่าตัวเองเห็นแก่ตัว ไม่คู่ควรที่จะทำแบบนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นมันคือการตัดสินใจของผมคนเดียวเลย”
ในการที่จะไปขอเลิกเขามันยากไหมที่จะเอ่ยออกมา?
“ยากครับ เราเป็นคนขี้เกรงใจไม่ค่อยบอกเลิกใครก่อน ตัวเขาเองคงไม่มีสัญญาณอะไรจากเรา แต่เราก็เตรียมใจมา เหมือนเราเป็นฝ่ายเดียวที่คิดเองเออเองไปหมด ยอมรับว่าค่อนข้างเห็นแก่ตัว ถามว่าเขามียื้อไหม มีครับ น้องเป็นคนดีมากๆ แล้วก็รักเรามากๆ เลย แต่เรารู้สึกว่าการตัดสินใจนี้มันทำให้คนสองคนมีช่องว่างและเส้นทางการเติบโต ที่อาจจะคนละเวย์กัน”
ไม่สามารถที่จะจัดการเวลาในการมีแฟนและทำงานไปด้วยได้เหรอ?
“คนอื่นน่าจะได้ แต่ผมไม่ค่อยเก่ง เวลาทำงานก็จะลืมอะไรไปหมดเลย ตอนนี้ก็กำลังเรียนรู้อยู่ ช่วงที่ผ่านมาน้องเขาก็ไม่ได้เรียกร้องเวลาหรืออะไร แต่เราก็รู้ว่าสิ่งที่คนรักเขาต้องการมันน่าจะเป็นแบบนี้ แต่เราทำให้เขาไม่ได้”
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายคนก็เข้าใจผิดว่าเพราะดังแล้ว มีเงินแล้ว หรือมีมือที่สามหรือเปล่า?
“ไม่เกี่ยวกับเรื่องชื่อเสียง เรื่องเงิน และมือที่สามเลยครับ ปัจจุบันเงินน้อยกว่าตอนที่ทำสัปเหร่อสำเร็จด้วยซ้ำ แต่ก็ห้ามความคิดใครไม่ได้ ขอโทษด้วยจริงๆ ครับ จริงๆ เราก็ผิด เราเห็นแก่ตัวทุกอย่าง น้อมรับทุกอย่าง เพราะเราบาลานซ์ชีวิตไม่ได้เอง”
เฮิร์ตไหม?
“เฮิร์ตมากครับ เป๋เลยครับ เดือนนี้เพิ่งกลับมาเขียนบทได้ คือ 8 เดือนที่แล้วทำงานไม่ได้เลย ในตอนนั้นความคิดของเราก็คือถ้าเราเห็นแก่ตัวแบบนี้ก็เลิกกับเขาแล้วมาทำงานดีกว่า พอเลิกจริงๆ แล้วอ่ะทำงานไม่ได้ (แฟนเราเขาก็บอกว่าเสียใจมากเหมือนกัน?) ใช่ครับ ถามว่าหลังจากที่เลิกกันแล้วมีโอกาสได้พูดคุยกันบ้างไหม มีครับพูดคุยกันเหมือนเป็นเพื่อนเป็นน้องกันปกติ ไม่ได้ตัดขาดกันขนาดนั้น”
ในอนาคตข้างหน้าถ้าเราสามารถ บาลานซ์ชีวิตได้แล้ว มีโอกาสจะกลับไปรีเทิร์นกับเขาไหม?
“อู้ย…เขามีแฟนใหม่แล้วครับ ให้เขาเจอสิ่งที่เขามีความสุขดีกว่า ชีวิตผมมันน่าเบื่อครับ(ยิ้ม) ถามว่าผมเปิดใจกับความรักครั้งใหม่หรือยัง ผมเปิดตลอดอยู่แล้วครับ ต้องการกำลังใจมาก (ถ้ามีคนใหม่เข้ามาไม่กลัวว่าจะเจอลูปปัญหาเดิมเหรอ?) ไม่เป็นไรครับ ชีวิตก็ต้องเจออะไรแบบนี้บ้าง ผมเองก็พยายามปรับตัว ไม่รู้ว่าจะแย่ลงหรือดีขึ้นก็แล้วแต่เลย”
ตอนนี้เราเป็นต้องเตที่มีชื่อเสียงแล้ว การที่มีคนใหม่เข้ามาต้องสกรีนเยอะขึ้นไหม?
“แล้วแต่คนที่เข้ามาเลย ไม่ใช่เชิงติสต์ แต่ผมเป็นคนมีความคิดเป็นของตัวเองสูง เลยอาจจะไม่ค่อยมีคนกล้าเข้าหาหรือคนมารักเท่าไหร่ แต่ก็เปิดใจอยู่ เพราะผมก็อยากหากำลังใจในการใช้ชีวิตนี่แหละครับ”
