เปิดตำนานซุปต้องห้าม “ซุปสวรรค์” ของซูสีไทเฮา ที่ทำให้หัวหน้าพ่อครัวถูกประหารทันที
เมื่อรสชาติอาหารแลกด้วยอำนาจ ซูสีไทเฮากับ “ซุปต้องห้าม” ซึ่งนำไปสู่โทษประหารพ่อครัว เรื่องจริงหรือเรื่องเล่าในราชสำนักจีน?”
ในประวัติศาสตร์ราชสำนักจีน มีเรื่องเล่าลึกลับมากมายเกี่ยวกับอาหารต้องห้ามของฮ่องเต้และไทเฮา หนึ่งในนั้นคือ “ซุปสวรรค์” เมนูโปรดของซูสีไทเฮา ที่เธอเสวยต่อเนื่องมานานกว่า 10 ปี แต่เมื่อทรงทราบถึงสูตรลับเบื้องหลัง กลับมีคำสั่งประหารหัวหน้าพ่อครัวในทันที เรื่องนี้กลายเป็นหนึ่งในตำนานอาหารที่สะท้อนความเข้มงวดและลึกลับของราชสำนักชิงได้อย่างน่าสนใจ
ซูสีไทเฮาและความพิถีพิถันในรสชาติอาหาร
ซูสีไทเฮา เป็นสตรีผู้ทรงอิทธิพลสูงสุดในราชสำนักปลายราชวงศ์ชิง พระนางขึ้นชื่อเรื่องความพิถีพิถันในอาหารการกิน ทุกเมนูต้องผ่านการคัดสรรอย่างเข้มงวดจากพ่อครัวชั้นนำทั่วประเทศ เพื่อให้รสชาติและวัตถุดิบมีคุณภาพดีที่สุด โดยเฉพาะเมนู “ซุปสวรรค์” ที่เชื่อว่าช่วยบำรุงสุขภาพและเพิ่มพลังชีวิต พระนางจึงทรงโปรดเสวยแทบทุกวันตลอดสิบปี
ซุปนี้มีลักษณะใส กลิ่นหอมละมุน และรสกลมกล่อมอย่างประหลาด แม้จะผ่านกาลเวลานานหลายปี แต่ซูสีไทเฮาก็ยังโปรดปรานไม่เสื่อมคลาย จนกระทั่งเกิดเหตุไม่คาดคิดเมื่อมีการเปิดเผย “ส่วนผสมลับ” ที่แท้จริงของซุปจานนี้
สูตรลับเบื้องหลังที่นำไปสู่โทษประหาร
ตำนานเล่าว่า วันหนึ่งซูสีไทเฮาทรงตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดรสชาติของซุปสวรรค์จึงแตกต่างจากเมนูอื่น ๆ แม้ใช้วัตถุดิบชนิดเดียวกัน จึงสั่งให้ตรวจสอบสูตรอย่างละเอียด ผลการตรวจสอบทำให้ทั้งราชสำนักตกตะลึง เพราะพบว่าวัตถุดิบหลักที่ให้กลิ่นหอมละมุนและรสหวานลึกนั้น คือ “เนื้อทารกแรกเกิด” ที่ถูกนำมาเคี่ยวรวมกับสมุนไพรหายาก
เมื่อทรงทราบความจริง ซูสีไทเฮาทรงตกพระทัยและกริ้วอย่างรุนแรง ถึงขั้นมีพระบัญชาให้ประหารชีวิตหัวหน้าพ่อครัวทันที พร้อมสั่งห้ามปรุงเมนูนี้ในราชสำนักอีกตลอดไป แม้เรื่องราวจะถูกเล่าขานต่างยุค แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงความเข้มงวดและความโหดร้ายของสังคมราชสำนักในยุคนั้น
เหตุใด “ซูสีไทเฮา” กินไข่วันละ 20 ฟอง แต่พ่อครัวต้องเบิกถึง 500 ฟอง ที่เหลือเอาไปไหน? ฮือฮา! หลานสาวรุ่นที่ 5 ของ “ซูสีไทเฮา” ใบหน้าสร้างความตะลึง งามถอดแบบราวย้อนเวลา ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์และการตีความ
นักประวัติศาสตร์หลายคนมองว่าเรื่อง “ซุปสวรรค์” อาจเป็นเพียงตำนานที่แต่งขึ้นในภายหลัง เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ความโหดเหี้ยมของซูสีไทเฮาในสายตาประชาชน เพราะไม่มีหลักฐานทางราชการหรือบันทึกทางการแพทย์ใดยืนยันว่ามีเมนูดังกล่าวอยู่จริง อย่างไรก็ตาม เรื่องเล่านี้ยังคงถูกพูดถึงในหมู่ผู้ศึกษาวัฒนธรรมอาหารจีนว่าเป็นอุทาหรณ์ของ “ความลุ่มหลงในรสชาติที่แลกมาด้วยศีลธรรม”
ซูสีไทเฮา: จากหญิงในวังสู่ผู้ปกครองจักรวรรดิจีน
เพื่อให้เข้าใจบริบทของเหตุการณ์มากขึ้น ด้านล่างคือตารางสรุประยะเวลาและเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของซูสีไทเฮา ซึ่งแสดงให้เห็นเส้นทางจากหญิงในวังสู่ผู้นำสูงสุดของราชวงศ์ชิง
ปี (ค.ศ.) เหตุการณ์ รายละเอียด 1835 ประสูติ ประสูติในกรุงปักกิ่ง ชื่อเดิมคือ เย่เหอหนาลา (Yehe Nara) 1852 เข้าวังเป็นนางสนมของจักรพรรดิเสียนเฟิง ได้รับตำแหน่งสนมชั้นที่ 5 และเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ 1856 ให้กำเนิดโอรสองค์เดียว โอรสคือจักรพรรดิถงจื้อ (Tongzhi) ซึ่งภายหลังขึ้นครองราชย์เมื่ออายุเพียง 6 ปี 1861 เริ่มมีอำนาจทางการเมือง หลังจักรพรรดิเสียนเฟิงสิ้นพระชนม์ ซูสีไทเฮาขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการแทนโอรส 1875–1908 ปกครองจีนในฐานะผู้อยู่เบื้องหลังราชบัลลังก์ ใช้อำนาจผ่านจักรพรรดิถงจื้อและกวงซวี่ จนถึงสิ้นพระชนม์ในปี 1908
แม้ตำนาน “ซุปสวรรค์” ของซูสีไทเฮาจะไม่อาจยืนยันได้ว่าเป็นความจริงทางประวัติศาสตร์ แต่เรื่องเล่านี้ก็ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเข้มงวดของวังหลวง ความเชื่อเรื่องอาหารบำรุงชีวิต และอำนาจเด็ดขาดของสตรีผู้ครองราชบัลลังก์สูงสุดในยุคนั้น เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ยังคงตราตรึงในหน้าประวัติศาสตร์จีนจวบจนปัจจุบัน

อ้างอิง
Dân Việt Encyclopaedia Britannica World History Encyclopedia
 
                 
		