นักวิทยาศาสตร์เผย “เวลานอนที่ดีที่สุด” ต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ไม่ใช่ก่อน 4 ทุ่ม หรือหลังเที่ยงคืน!
หลายคนเชื่อว่าการเข้านอนก่อน 4 ทุ่มเป็นสิ่งดีต่อสุขภาพ แต่ผลการศึกษาจากต่างประเทศกลับพบข้อมูลที่น่าประหลาดใจว่า เวลานอนที่ “เร็วเกินไป” หรือ “ดึกเกินไป” อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
เวลานอนที่เสี่ยงหัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมองมากที่สุด
รายงานจากสำนักข่าว Mirror ของสหราชอาณาจักร อ้างถึงงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร European Heart Journal ซึ่งศึกษาพฤติกรรมการนอนของกลุ่มตัวอย่างกว่า 88,000 คน อายุระหว่าง 43–79 ปี เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างเวลานอนกับสุขภาพหัวใจ
นักวิจัยได้เก็บข้อมูลจากอุปกรณ์ติดตามการนอนแบบสวมข้อมือ และสอบถามพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพิ่มเติม ก่อนแบ่งผู้เข้าร่วมออกเป็น 4 กลุ่มตามช่วงเวลานอน ได้แก่ ก่อน 4 ทุ่ม, 4 ทุ่ม–4 ทุ่ม 59 นาที, 5 ทุ่ม–เที่ยงคืน และหลังเที่ยงคืน จากนั้นติดตามผลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดเป็นเวลา 6 ปี
ผลการศึกษาพบว่า 3.6% ของกลุ่มตัวอย่าง (3,172 คน) มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ เช่น โรคหัวใจขาดเลือดเรื้อรัง หัวใจล้มเหลว หัวใจวาย หรือโรคหลอดเลือดสมอง โดยกลุ่มที่เข้านอนหลังเที่ยงคืนมีความเสี่ยงสูงสุด เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่นอนระหว่าง 4 ทุ่ม–4 ทุ่ม 59 นาที ส่วนผู้ที่นอนก่อน 4 ทุ่มก็มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 24% ขณะที่กลุ่มนอนช่วง 5 ทุ่ม–เที่ยงคืน มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 12%
สรุปได้ว่า ช่วงเวลานอนที่เหมาะสมที่สุดต่อสุขภาพหัวใจคือระหว่าง “4 ทุ่มถึง 4 ทุ่ม 59 นาที” ซึ่งเป็นเวลาที่ช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตและจังหวะชีวภาพของร่างกายทำงานสอดคล้องกัน
ทำไมการนอนเร็วหรือดึกเกินไปถึงเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ
ดร.เดวิด แพลนส์ (David Plans) หัวหน้าทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเอ็กซีเตอร์ ประเทศอังกฤษ อธิบายว่า “การเข้านอนเร็วเกินไปหรือดึกเกินไป ล้วนเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ เพราะจะรบกวนจังหวะชีวภาพของร่างกาย (Circadian Rhythm) ซึ่งมีผลต่อคุณภาพการนอน การควบคุมความดันโลหิต และการทำงานของระบบหัวใจ”
ความเชื่อมโยงระหว่างคุณภาพการนอนกับสุขภาพหัวใจ
ดร.อภินาฟ ซิงห์ (Abhinav Singh) ผู้อำนวยการด้านการแพทย์แห่งศูนย์การนอน Indiana และผู้เชี่ยวชาญจาก Sleep Foundation ซึ่งไม่ได้ร่วมงานวิจัยดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า “คุณภาพการนอนเป็นรากฐานสำคัญของสุขภาพทั้งร่างกายและหัวใจ การนอนที่ดีช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูสมดุล ระบบเผาผลาญทำงานปกติ เสริมภูมิคุ้มกัน ซ่อมแซมกล้ามเนื้อ และยืดอายุขัย”
เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วง “หลับลึก” (NREM Sleep) หัวใจจะได้พักจากความเครียดในระหว่างวัน โดยอัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต และการหายใจจะลดลงอยู่ในระดับคงที่ หากการนอนถูกขัดจังหวะหรือนอนหลับไม่สนิท จะเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ภาวะไขมันในเลือดสูง โรคอ้วน เบาหวาน และโรคหลอดเลือดสมอง
งานวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่า “เวลานอนที่เหมาะสม” มีผลโดยตรงต่อสุขภาพหัวใจ การนอนในช่วง 4 ทุ่ม–4 ทุ่ม 59 นาที เป็นเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการพักผ่อนและลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ควบคู่กับการรักษาคุณภาพการนอนและการใช้ชีวิตอย่างสมดุล