เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2568 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกระบี่ รับแจ้งมีเหตุคนยิงตัวเองเสียชีวิต ภายในบ้านพักแห่งหนึ่งใน ซอยเจริญสุข4 ถนนเจริญสุข ต.กระบี่ใหญ่ อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย จนท.ชุดสืบสวน จนท.พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.กระบี่ และกู้ภัยมูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา เดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว หน้าบ้านพบ ด.ญ.สายฝน อายุ 10 ปี ยืนรอตำรวจด้วยอาการช็อก บอกว่า คนเสียชีวิตคือพ่อของเธอ ชื่อนายเทียนชัย นุ่นสังข์ อายุ 59 ปี เป็นอดีตข้าราชการป่าไม้ สังกัดสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 จ.กระบี่ ปัจจุบันลาออกจากราชการก่อนเกษียณ จนท.ตรวจสอบห้องนอนในบ้าน พบร่างผู้เสียชีวิตนอนอยู่บนเตียง มือขวากำอาวุธปืน แบบแม็กกาซีนขนาด 9 มม.ในแม็กกาซีน ยังมีกระสุนอยู่ 3 นัด ใกล้ศพพบปลอกกระสุนปืนขนาดเดียวกันตกอยู่ ที่ศีรษะมีบาดแผลถูกยิง 1 นัด บริเวณขมับขวา จนท.นำร่างไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ตรวจสอบในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้ แต่บนชั้นวางของเหนือเตียงมีโทรศัพท์มือถือเป็นเสียงเทศนาธรรมะทิ้งไว้คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิตจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม ด.ญ.สายฝน ให้การกับตำรวจเบื้องต้นว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุ ตนเองอยู่บ้านกัน 2 คนกับพ่อ ส่วนแม่ซึ่งเป็นภรรยาผู้เสียชีวิต คือน.ส.จันทร์เพ็ญ อินทร์นาค อายุ 36 ปี กลับไปบ้านที่จ.พัทลุง ช่วงที่ตนกำลังนั่งกินขนมที่พ่อซื้อไว้ให้ที่ห้องนั่งเล่นหน้าบ้าน ได้ยินเสียงคล้ายเสียงปืน 1 นัด ดังมาจากห้องด้านหลังบ้าน จากนั้นได้กลิ่นเหม็นไหม้ก็รีบวิ่งเข้าไปดูในครัว และวิ่งไปเคาะประตูห้องนอนเรียกพ่อ แต่พ่อไม่ตอบจึงเปิดประตูเข้าไปดูก็พบพ่อยิงตัวเองไปแล้ว
ก่อนพ่อจะยิงตัวเอง พ่อก็ยังบ่นๆเรื่องหนี้สิ้นของแม่ และบอกกับตนว่า หากไม่มีหนูพ่อคงx่าตัวxายไปแล้ว เพราะพ่อเป็นห่วงตน ส่วนเรื่องหนี้สินของแม่ทราบแค่เป็นหนี้ จากการเทรดหุ้น ทำให้ติดหนี้กว่า 7 ล้านบาท ต้องเอาบ้านไปจำนอง ขายรถเพื่อใช้หนี้ แต่ก่อนเกิดเหตุพ่อจะมีปัญหาทะเลาะกับแม่หรือไม่ตนเองไม่รู้ เพราะคืนก่อนเกิดเหตุก็ไม่เห็นทะเลาะอะไรกัน
ทางด้าน พ.ต.อ.สุทธิภัค ผกก.สภ.เมืองกระบี่ เผยว่า เบื้องต้นญาติไม่ติดใจสาเหตุอื่น เชื่อว่าผู้เสียชีวิตตัดสินใจยิงตัวเอง ด้วยอาวุธปืนประจำตัวจึงมอบศพ ให้นำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป ส่วนปมเหตุจะเกิดจากภรรยาผู้เสียชีวิตถูกแก๊งสแกมเมอร์หลอกให้ลงทุนเทรดหุ้นหรือไม่ ต้องรอเรียกตัวภรรยากลับมาสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งอาจมีความเป็นไปได้เพราะเพิ่งมีหนี้สินในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาอย่างไรก็ตามต้องให้พนักงานสอบสวนสอบอย่างละเอียดก่อนจะฟันธง