เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 ตุลาคม 2568 ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมงานสัมมนาวิชาการแพทยสภาและสถาบันมหิตลาธิเบศร 2568 พร้อมรับมอบโล่เกียรติยศในฐานะศิษย์เก่าหลักสูตร ธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง (ปธพ.) รุ่นที่ 5
ภายในงานยังมีศิษย์เก่าหลักสูตร ปธพ. เข้าร่วม อาทิ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ (รุ่นพิเศษ 1), นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ (รุ่น 10), นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ (รุ่น 2) และนายพัฒนา พร้อมพัฒน์ (รุ่น 12)
นายอนุทิน กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ ธรรมาภิบาลทางการแพทย์กับการพัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืน โดยระบุว่า การรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐาน เช่น การฟอกไต ต้องให้ฟรีอย่างถ้วนหน้า ไม่ใช่ให้บางส่วนหรือบางกรณี พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่เพิกเฉยต่อสิทธิในการเข้าถึงการรักษาของประชาชน
อย่าเอาชีวิตคนไทยมาแลกกับคะแนนเสียงกระจอก ๆ เรามี สปสช. แล้ว ให้ไปแล้วจะมาเอาคืนไม่ได้
นายกฯ ระบุว่า ประเทศไทยต้องมีแผนรับมือภัยสุขภาพอย่างเป็นระบบ พร้อมตั้งเป้าหากเกิดโรคระบาดใหม่ ต้องมีวัคซีนผลิตในประเทศภายใน 180 วัน โดยมอบหมายให้ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ดำเนินการและแสวงหาความร่วมมือในทุกด้าน
กรณีสถานการณ์ชายแดน นายอนุทินกล่าวถึงความขัดแย้งกับกัมพูชาว่า รัฐบาลยืนยันไม่ยอมให้ไทยเสียเปรียบ และจะไม่เปิดจุดผ่านแดนหากยังเป็นภัยต่อความมั่นคง โดยระบุว่า
คนตามแนวชายแดนบอกผมว่า ยอมเดือดร้อน แต่ไม่ให้เปิดด่าน เราจะเปิดเมื่อภัยหมดไปเท่านั้น
พร้อมชี้แจงถึงเสียงวิจารณ์ว่ารัฐบาลเงียบเกินไปว่า จะวางแผนรบแล้วบอกแผนให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ได้อย่างไร?
นายอนุทินยังกล่าวว่า ไม่มีเหตุรุกรานตามแนวชายแดนในขณะนี้ เพราะฝ่ายตรงข้ามทราบดีว่าหากล้ำเส้น ไทยจัดเต็มแน่นอน
นายกฯ ทิ้งท้ายว่า แม้จะเผชิญปัญหาหนักอย่างต่อเนื่อง แต่ยืนยันว่าจะทำหน้าที่อย่างสุขุม รอบคอบ ไม่ยอมให้เกียรติภูมิของประเทศต้องมัวหมอง
เคยผ่านสถานการณ์โควิดมาแล้ว รู้ว่าอะไรควรเร่ง อะไรควรรอ เชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง
