เผยโฉมรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมสร้างถนนตรวจการณ์เลียบรั้ว ราดลูกรังบดอัดแน่น รวมราคาก่อสร้างรั้วไทย-กัมพูชา กิโลเมตร ละ 7,360,000 บาท คืบหน้าล่าสุด แม่ทัพภาคที่ 2 ลุยทันที ลงพื้นที่แนวชายแดน ตรวจการก่อสร้างหลุมหลบภัย พร้อมติดตามแผนการสร้างกำแพงรั้วชายแดน 6 จุด ภายใต้กองทุนหทัยทิพย์
โดยทาง Wassana Nanuam เผยว่า เปิด แบบ รั้วชายแดนไทย-กัมพูชา รั้วคอนกรีตสำเร็จรูป ครึ่งตระแกรงเหล็ก ซุบ อลูซิงค์ลวดหนามหีบเพลงโดยหน่วยทหารพัฒนาพร้อมถนนตรวจการณ์
กองบัญชาการกองทัพไทย เปิด รูปแบบการสร้างรั้วคอนกรีตสำเร็จรูป ครึ่งตระแกรงเหล็ก ซุบ อลูซิงค์ ติด ลวดหนามหีบเพลง ที่ จะสร้างกั้นชายแดนไทย-กัมพูชาโดยติดตั้งลาดหนามหีบเพลง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 45 ซม. รั้วตะแกรงเหล็กซุบอลูซิงค์ ระยะห่าง 2 ซม. พร้อมอุปกรณ์ยึดป้องกันปืนป่ายทับหลังสำเร็จรูป แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป พร้อมสร้างถนนตรวจการณ์เลียบรั้ว ราดลูกรังบดอัดแน่น
ด้าน กองทัพภาคที่2 ในวันที่ 17 ตุลาคม 2568 ทาง พลโท วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่ตรวจแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี เพื่อตรวจความก้าวหน้าการก่อสร้างหลุมหลบภัยและหลุมบุคคลภายใต้กองทุนหทัยทิพย์ รวมถึงติดตาม แผนการสร้างกำแพงรั้วชายแดน จำนวน 6 จุดตามลำดับความเร่งด่วน
แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วยหน่วยทหารช่างที่รับผิดชอบ ลงพื้นที่สำรวจจุดที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ การเตรียมการสร้างหลุมหลบภัย ตรวจความพร้อมในด้านต่างๆ รวมถึงความปลอดภัยของพื้นที่ โดยเฉพาะจุดที่อยู่ใกล้ชุมชน ซึ่งเป็นพื้นที่ในการเสริมความมั่นคง และความปลอดภัยให้กับประชาชนตามแนวชายแดน
แผนการดำเนินการการก่อสร้างหลุมหลบภัยขนาดรองรับ 40 คน จำนวน 10 แห่ง และ หลุมบุคคลคู่ จำนวน 328 แห่ง ถูกออกแบบให้ใช้ได้ทั้งในภารกิจป้องกันชายแดน และการหลบภัยจากสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อเกิดเหตุปะทะ ในส่วนของแผนการสร้างกำแพงรั้วชายแดน 6 จุด ระยะทางรวมกว่า 20 กิโลเมตรนั้น แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจจุดแนวพื้นที่ พร้อมกำหนดลำดับความเร่งด่วนในการดำเนินการ
การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นการติดตามการดำเนินการ เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการภายใต้กองทุนหทัยทิพย์ได้ดำเนินไปอย่างโปร่งใสและเกิดผลเป็นรูปธรรม โดยกองทัพภาคที่ 2 ได้น้อมนำพระดำรัสของ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ที่ทรงย้ำว่า “การสร้างกำแพงระหว่างไทย-กัมพูชา ต้องเป็นของที่มั่นคงถาวร และในเรื่องบังเกอร์ (หลุมบุคคล) ก็เป็นความเร่งด่วนจำเป็นสำหรับทหาร และประชาชน” มาขับเคลื่อนการดำเนินการ เพื่อความมั่นคง และความปลอดภัยให้กับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ และพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนอย่างแท้จริง
cr.Wassana Nanuam