เวลา 17.00 น.วันที่ 7 พ.ย.67 หลังจาก แซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ สืบพยานฝ่ายจำเลยเสร็จสิ้น ได้ลงมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว กรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ถูกเจ้าหน้าทึ่ตำรวจจับกุมพร้อมภรรยา ขณะขับรถมุ่งหน้าไปจังหวัดสระแก้ว ก่อนตำรวจนำตัวกลับมาที่กองปราบ
แซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ กล่าวว่า รู้สึกปลื้มปิติค่ะ รู้สึกมีกำลังใจเรื่องสืบพยานของตัวเองมากขึ้น รู้สึกว่าในที่สุดแล้วความยุติธรรมก็มีอยู่จริง กฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอเหมือนกับลูกความคนดังของเขาได้กล่าวเอาไว้ก่อนหน้านี้ ถูกรวบระหว่างทางไปสระแก้ว ทางที่จะไปกัมพูชา เขาอาจจะอยากไปเล่นเสี่ยงโชคเสี่ยงดวง เขาลอกข้อสอบเพื่อนหรือเปล่า ที่เขาบอกว่าเขาเรียนจบเนอะไรสักอย่าง วันนี้รู้แล้วเนไหนที่เรียนจบ อยากจะฝากอะไรดี ฝากเพิ่มไปอีก 2 คู่แล้วกันแค่นี้ที่ฝาก เขาไม่ใช่ทนาย ประพฤติตัวเยี่ยงนั้น เอาอะไรมาเป็นทนายก่อน เป็นทนายช่วยเหลือประชาชนใช่ไหม บางทีบางคนตนไม่ได้พูดถึงใคร เป็นคนดีให้ได้ก่อน ไม่ต้องดีหรอกเป็นคนให้ได้ก่อนไม่ประพฤติผิดศีลธรรม ช่วยเหลือตัวเองให้ประพฤติดีให้ได้ก่อน แล้วค่อยไปเป็นทนายช่วยเหลือประชาชน พี่ตุ๋ยอย่าไปเปรียบกับเขา
นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายของแซน กล่าวว่า ทราบเรื่องดังกล่าวระหว่างการพิจารณาคดี ถ้าเขารู้ว่าเขาจะลำบากเขาไม่น่าพูดท้าทายอะไร แล้วค่อยๆแก้ปัญหาไปน่าจะดีกว่า เพราะว่าตนเป็นนักกฎหมายเขาก็เป็นนักกฎหมาย เห็นบอกว่าจบเนติบัณฑิตด้วย น่าจะมีสมาธิที่ดี ในฐานะอาชีพเดียวกันตนก็ขอให้เขามีสติมีสมาธิและต่อสู้ไปในแนวทาง
นายพรศักดิ์ กล่าวอีกว่า สภาทนายความต้องทำหน้าที่ ออกมาควบคุมการทำงานของทนายความ ส่วนตัวมองว่าไม่ต้องรอผลคดี พฤติกรรมที่เกิดขึ้นมันเดือดร้อนแล้ว ถ้าไปรอผลคดีว่าคดีหลักที่เขาโดนดำเนินคดีแล้วต้องรอตัดสินก่อน สภาทนายความถึงจะออกมาลงโทษ ตนไม่เห็นด้วย ลงโทษไปก่อนได้ ส่วนคำสั่งทางปกครองไปยื่นศาลอุทธรณ์อันนั้นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะอย่างน้อยต้องให้เขายุติในการทำหน้าที่ทนาย เพื่อไม่ไปก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับคนอื่นอีก ส่วนลูกความของเขาที่มีพฤติการณ์แบบนี้ ตนว่าเขาไปร้องสภาทนายความแล้วก็ปฏิบัติตามขั้นตอน ลูกความคงต้องคุยกับทางทนายความเขา แล้วต้องหาทนายความเข้ามาทำหน้าที่ใหม่ เปลี่ยนทนายไปเลย ทำได้โดยยื่นคำร้องต่อศาลว่าทนายถูกดำเนินคดี ซึ่งทำได้หมด
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.นนทบุรี รายงาน