Home ข่าว ข่าวสังคม เขยแก้ปัญหาฉลาด! แม่เมียยืมทองคำไป 5 ปี จะขอคืนเป็น “เงินสด” เท่าราคาทองในอดีต

เขยแก้ปัญหาฉลาด! แม่เมียยืมทองคำไป 5 ปี จะขอคืนเป็น “เงินสด” เท่าราคาทองในอดีต

114

แม่ยายยืม “ทองของขวัญงานแต่ง” เพื่อใช้แก้ปัญหาครอบครัว ผ่านมา 5 ปีลูกเขยขอคืน กลับได้รับคำตอบที่ไม่คาดคิด
เรื่องราวของผู้ชายวัย 40 ปีชาวเวียดนาม ที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เมื่อแม่ยายยืมทองงานแต่งของเขาไปแก้ปัญหาครอบครัว และเมื่อเวลาผ่านไป 5 ปี เขาต้องการทองคืนนั้น กลับได้รับคำตอบที่ทำให้เขาต้องคิดทบทวนอย่างลึกซึ้ง

เริ่มต้นจากความช่วยเหลือ “ครอบครัว” ในยามยาก
ผู้ชายคนนี้เล่าว่า เขาและภรรยาแต่งงานกันเมื่อ 5 ปีก่อน ทั้งสองมีอายุเกินวัยรุ่นที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อน เขาทำงานในสายเทคนิคที่มั่นคง ส่วนภรรยาทำงานเป็นพนักงานบัญชี ในวันแต่งงาน ครอบครัวของทั้งสองฝ่ายมอบของขวัญเป็นทองคำ 5 บาท เพื่อเป็นของขวัญและของหมั้น

หลังจากงานแต่งประมาณหนึ่งสัปดาห์ แม่ยายของเขามาเยี่ยมและขอทองคำที่ได้รับเป็นของขวัญจากงานแต่งไปยืม เพื่อใช้จ่ายในการส่งลูกชายคนเล็กไปเรียน โดยสัญญาว่าจะคืนเมื่อมีความพร้อม เขาและภรรยาตัดสินใจยอมให้ยืม โดยไม่มีข้อกังวลใดๆ

“พวกเธอสองคน แม่ต้องหาเงินมาจ่ายค่าเล่าเรียนน้องชายของเธอ แม่จะยืมทองของพวกเธอไปก่อน เมื่อจัดการได้ แม่จะคืนให้เต็มจำนวน แม่จะไม่ยอมให้ใครต้องสูญเสียทรัพย์สินของครอบครัวไป”

5 ปีขอทองคืน ได้คำตอบที่ทำให้ต้องคิดทบทวน
เมื่อเวลาผ่านไป 5 ปี เขาและภรรยาตัดสินใจเปิดร้านกาแฟเล็กๆ และคิดว่าการนำทองคำที่ยืมไปขายจะช่วยให้มีเงินทุนเริ่มต้น เขาจึงไปขอทองคืนจากแม่ยาย แต่ได้รับคำตอบที่ทำให้เขาต้องคิดทบทวน

แม่ยายตอบว่า “ฉันจะคืนทอง 5 บาทที่ใครบางคนให้เธอสองคน ส่วนทอง 5 บาทที่แม่ให้แกในวันแต่งงาน แม่จะส่งเป็นเงินสดให้ในราคาเดียวกับราคาทองเมื่อก่อน” คำพูดนี้ซึ่งทำให้ทั้งคู่อึ้ง เพราะมูลค่าของทองคำในปัจจุบันสูงกว่าเมื่อวันแต่งงานมาก

เมื่อเขามองภรรยาแล้วเห็นน้ำตาคลอเบ้า ก็เข้าใจว่าเธอรู้สึกขุ่นเคืองแม่ แต่ก็รู้สึกอับอายกับสามีของตนเองด้วย ส่วนเขาเองก็สับสน เพราะถ้าพูดออกไปตรงๆ ก็กลัวจะทำร้ายภรรยา แต่ถ้าเงียบไว้ ก็รู้สึกไม่สบายใจ

คืนนั้นเขาครุ่นคิดอยู่นาน เข้าใจว่าในสายตาของแม่ยาย ทองคำนี้คือ “ของขวัญที่แม่มอบให้ลูกสาว” เธอจึงคิดว่าสามารถแปลงเป็นราคาปัจจุบันได้ แต่สำหรับเขา มันคือทรัพย์สินร่วมกันของทั้งคู่ เป็นสัญลักษณ์ของวันที่เราเป็นสามีภรรยากัน การทำเช่นนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการปฏิเสธคุณค่าที่แท้จริงของของขวัญชิ้นนี้

การตัดสินใจที่ยากลำบาก และบทเรียนที่ได้เรียนรู้
ไม่กี่วันต่อมา เขาจึงเริ่มชวนแม่ไปดื่มกาแฟ แล้วค่อยๆ เริ่มพูดว่า “ไม่ใช่ว่าผมโลภนะ แค่กลัวว่าจะเกิดความเข้าใจผิดกัน ถ้าแม่ไม่สะดวกคืน ผมก็รอได้” เพราะเขาคิดว่าไม่ควรให้ทองคำมาทำให้ครอบครัวต้องเย็นชาต่อกัน

แม่ยายมองมาที่ผม เงียบไปครู่หนึ่ง แล้วถอนหายใจ “แม่รู้ว่าแม่พูดไม่ถูก วันนั้นแม่ใจร้อนมากจนคิดไม่ตก ขอแม่คิดดูก่อนนะ แล้วแม่จะส่งทองคืนให้ครบ” ฉันยิ้มแล้วตอบไปสั้นๆ ว่า“ขอบคุณนะแม่”

คืนนั้น ภรรยาผมจับมือผมไว้แล้วกระซิบว่า“ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันคงไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เหมือนคุณ”

ท้ายที่สุดเขาได้เรียนรู้ว่า การรักษาความสัมพันธ์ในครอบครัวนั้นสำคัญกว่าทรัพย์สิน และการพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ แม้จะเป็นเรื่องที่ยากลำบากก็ตาม เพราะครอบครัวไม่ใช่สนามรบ แค่ทำให้หัวใจของแม่สงบ และเราทั้งคู่สงบสุขก็พอแล้ว