เจ้เล้ง ดอนเมือง สั่งก่อนตาย หมดลมเมื่อไหร่ ทำบุญแจกเงินคนจนวันละ 1 ล้าน เผยเคยถูกกิ๊กอดีตสามีบุกถึงบ้าน ส่องห้องทำงานตัวเอง!

เหลือกินเหลือใช้ไม่มีวันหมด สำหรับเศรษฐินีหมื่นล้านย่านดอนเมือง เจ้เล้ง ดอนเมือง หรือ คุณอารียฉัตร อภิสิทธิ์อมรกุล ล่าสุด วางแผนสร้างสุสานให้กับตัวเองในวันสิ้นลมหายใจ รายการ คนดังนั่งเคลียร์ ทางช่อง 8 ไม่รอช้า เชิญเจ้าตัวมาเปิดใจ หลังถูกสังคมมองว่ามันเป็นการสาปแช่งตัวเองให้อายุสั้นลง พอถามถึงอดีตสามี เจ้าตัวยังเล่าเคยถูกผู้หญิงของอดีตสามีมายืนส่องตัวเองในห้องทำงาน พร้อมตอบประสบการณ์มูเตลูนั่งสมาธิจนได้พบพระสังกัจจายน์

ได้ข่าวเจ๊เล้งเตรียมตัวจะตาย สร้างสุสาน ?

“อายุ 77 แล้วค่ะ เวลามันก็แย้มฝาโลงทีละนิด เพราะฉะนั้นเราจะไปสวยอย่างนี้ตลอดได้ไหม ก็พยายามคงที่ความสวยของตัวเองไว้ แต่เรามีทุกอย่างแล้ว สบาย ๆ เงินก็มี และสมบัติก็เยอะ เราอยู่ปัจจุบัน เราก็อยู่สบาย แล้วตอนตายไม่หาที่อยู่ให้สบายบ้างล่ะ”

เจ้เล้งจะไปรู้ได้ไง ตายแล้วจะไปที่ไหน ?

“ช่างมันเหอะ ยังไม่ตายก็หาที่หลุมลงไปก่อน ให้มันมีที่ลงให้สวยงาม”

เจ้เล็งมีปัญหาอะไรหรือเปล่า มีอะไรไม่สมหวังกับชีวิต ?

“ไม่ค่ะ เตรียมตัวตาย ก็บอกลูกไว้เลย เวลาตายนะเนี่ยนะ งานศพเนี่ย ไม่ให้รับซอง ใครจะมาก็มา ไม่มาก็ไม่มา เราแจกเงินคนจนทุกวันวันละล้านเลย ให้แจกทุกวัน 7 วัน จิ๊บ ๆ”

มีคนเขาคิดว่าเจ้เล็งแช่งตัวเอง ยังไม่ตายเลยก็แช่งตัวเองแล้ว ?

“ไม่หรอกค่ะ ก็ดูตัวอย่างจากคุณแม่เจ้เล้งสมัยก่อนนะคะ คุณแม่เจ้เล้งสมัยก่อนก็ไปซื้อโลง ซื้อทำวัดเล่งเน่ยยี่ จำได้เมื่อก่อนเราไม่ได้มีตังค์ ฐานะไม่ได้ดี แต่ก็มีกินมีใช้ ตอนนั้นไม่ลำบากแล้ว คุณแม่ก็ไปวัดเล่งเน่ยยี่ ก็ถามแม่ไปทำไม เขาก็บอกไปซื้อโลง เราก็บอกไปซื้อทำไม แม่บอกเขาให้ทำแบบนี้ มันเป็นการสะเดาะเคราะห์ คุณแม่ซื้อโลงเสร็จ ใส่ชุดตายด้วยนะ ชุดงิ้วที่ตายแบบนั้น แล้วก็ลงไปนอนในโลง แล้วเขาก็ปิดฝาโลงคิดไว้กี่นาที แล้วท่านก็ลุกขึ้นมา แล้วชุดนั้นก็เก็บกลับบ้าน พอท่านตายก็ใส่ให้ท่าน เราก็แบบแม่เราเตรียม แม่เราเตรียมหมด แม่เราต้องไปพระบาท (วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร จ.สระบุรี) ฮู้หรืออะไร ไปปั๊มตราทุกปีจะได้ขึ้นสวรรค์ ลูกจะต้องไป แม่ไม่ไปลูกก็ต้องไปพระบาทไปปั๊มตราให้แม่ตลอด จนแม่เสียชีวิต เขาบอกเวลาฉันตาย เธอถือใส่มือฉันนะ ให้ฉันไปสั่งหมด”

เจ้เล้งไม่ชอบที่เขามีกิ๊กใช่ไหมคะ ?

“ไม่รู้ค่ะ ไม่รู้เลยว่าเขามี ไม่มี ไม่เคยสนใจ เจ้เล้งบอกตรงๆ ตัดเขาออกจากวงจรชีวิตมา 2 ปีเต็ม ๆ ไม่คุย ไม่พูดด้วยเลย เขาจะเอาใครมาที่บ้านอย่างไง ก็ไม่สนไม่มอง เขาจะมีเพื่อนสาวเขามา เขาอยู่ออฟฟิศชั้น 4 เจ้เล้งอยู่ชั้น 1 เขาก็เอาเข้าไปมั่วสุมกันบนนั้นเยอะแยะไปหมด ฉันก็ไม่สนใจนะ ก็มีเพื่อนสาวเขาบางคนมายืนตรงหน้าเคาน์เตอร์ใกล้ห้องทำงานฉัน มายืนซื้อ แล้วก็มองเข้ามา ฉันก็บอกอันนี้กิ๊กเขาเหรอ ก็สาวแก่ ๆ ทั้งนั้น พวกหาผัวไม่ได้”

ทำไมเป็นคนที่มีความอดทน ยอมรับความเป็นจริงไม่โวยวาย ถ้าเป็นคนอื่น คงเอาไม้ไปตีคนพวกนั้นออกไปหมดบ้าน ?

“ก็เราคิดว่าเราไม่ควรมีเขาอยู่ในสารบบเราแล้ว”

คนยังเชื่อว่า เจ้เล้ง ขายของปลอม กวนครีมปลอม ภาพและคำแบบนี้ยังมีอยู่ เจ้เล้งจะว่าอย่างไร ?

“เจ้เล้งว่าเดี๋ยวนี้น่าจะเลิกไปแล้วนะคะ สมัยก่อนจะโดนนักการเมืองท่านหนึ่งเป็นคนออกข่าว เพราะจะดึงเจ้เล้งเข้าไปให้ได้ ถ้าเจ้เล้งกวนครีมปลอมดูหน้าเจ้เล้งสิคะ อายุ 77 ครีมที่ขายอยู่เจ้เล้งใช้ทุกตัว 77 นี่ เจ้เล้งไม่ได้ไปดึงไปทึ้งนะคะ ไม่ได้ทำอะไรเลย คนที่ว่าส่วนมากคงจะทำเอง เดี๋ยวนี้ของออนไลน์ที่ไหนใครกล้าซื้อล่ะ ไม่กล้า แต่ของร้านเจ้เล้งออนไลน์ห่อไม่ทันค่ะ”

ช่วงโควิดที่ผ่านมาร้านเจ้เล้งมีผลกระทบไหม ?

“น้อยมาก เปิดร้านทุกวันไม่ได้ปิด มีปิดอยู่ประมาณ 18 วัน ลูกน้องเป็นโควิด 30 คน อันนั้นกลัวล่ะ เจ้เล้งกระเจิงไปนอนบ้านที่พัทยา บ้านพัทยาซื้อไว้ไม่เคยนอนเลย ไปนอนวันนั้นคือนานสุด 10 วัน หมอบอกพี่ พี่ต้องออกจากตรงนี้นะ พี่อยู่ตรงนี้ไม่ได้ ถึงพี่จะอยู่ชั้น 7 เชื้อโรคมันขึ้นลงไปมาได้ พี่จะอยู่ทำไม พี่อายุมากแล้วนะ หมอโทรมา 3 ครั้งให้เราออกจากบ้าน เราออกก็ออก”

เจ้เล้ง ดอนเมือง

เจ้เล้งขายของพูดไปคนก็ซื้อ เจ้เล้งมีของดีอะไรไหมคะ ?

“จะเล่าให้ฟัง เจ้เล้งไม่ชอบพวกที่เข้าทรง ไม่ชอบเลยนะ ฉันไม่ชอบ ฉันไม่เชื่อ วันหนึ่งไปบ้านเพื่อน ทำบุญเลี้ยงพระ สมัยก่อนข้างบ้านทำบุญเลี้ยงพระ พวกเราข้างบ้านก็ต้องไปเจอกัน ก็ไปนั่ง ทุกคนนั่งหน้าพระหมด เจ้เล้งนั่งอยู่ตรงบันไดบ้านเขา ก็นั่งมองทำอะไรกัน เราก็ดูยิ้ม ๆ แต่เราไม่ชอบเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เพราะพระท่านนั้นเห็นเจ้เล้งเสร็จ ท่านก็กวักมือเรียก โยม ๆ มานี่ เราก็นึกในใจเรียกเราเข้าไปทำอะไร ปรากฎท่านก็เรียกลูกศิษย์ท่านมา ท่านก็มีไม้คล้ายดินสออันนึง เจ้เล้งก็ไม่รู้ท่านก็แต้มไปที่ทอง ท่านก็บอกแลบลิ้นมา เราก็แบบนึกในใจ ท่านจะทำอะไร เราก็ถามแลบลิ้นด้วยเหรอคะ ท่านก็บอกโยมแลบลิ้นมา แล้วเขาก็ให้ผู้ชายคนนั้นจับไม้ แล้วท่านถือข้างบน แล้วท่านก็เขียนที่ลิ้นฉัน และก็สวดมนต์ไปเรื่อย ๆ ท่านก็บอกต่อนั่งดี ๆ หลับตา ทำที่หน้าผากฉัน เขียนอีก และหลังจากนั้นฉันก็ไม่รู้คืออะไร แล้วท่านก็ให้พระมาองค์นึง เป็นนางกวัก ตอนนี้ลูกเป็นคนใส่อยู่”

“เสร็จแล้วเราก็ไม่รู้ นางกวักองค์นั้น เมื่อก่อนใครไปร้านเจ้เล้งสมัยก่อน จะเห็นว่ากระป๋องที่เจ้เล้งใส่ตังค์คือกระป๋องฮอลล์ ไม่มีตังค์ทำลิ้นชัก กระป๋องฮอลล์ตั้งไว้ เศษนี้ใส่ในกระป๋องลิตร ที่ตวงข้าว พอเต็มก็ใส่ถุงพลาสติกไว้ข้างล่าง ฉันก็เอาแม่นางกวักใส่ไว้ในกระป๋องลิตร วันหนึ่งก็ขายดีมากเลยก็ไม่รู้เรื่อง มือไปสะบัดกระป๋องหล่นลงไปเหรียญกระจายไปหมด นางกวักหาย ฉันก็หา ควานไม่เจอ ฉันเป็นคนของหายต้องตามให้เจอ อยู่ในร้านหายได้อย่างไรล่ะ ฉันก็อธิษฐานในใจว่า ถ้านางกวักองค์นี้มีอิทธิฤทธิ์จริง ขอให้ได้เจอ เจอตรงไหนก็ได้ในที่ไม่คิดที่น่าจะเจอ ฉันก็หาใหม่ เอาไม้เขี่ยใต้ตู้ไม่มี เปิดลิ้นชัก ฉันก็ดึงฉันบนที่มีแบงค์อยู่ก็ไม่มี ชั้น 2 ที่ใส่กระเป๋า ที่เก็บแบงค์ไว้แน่นอีก ก็ไม่มี ชั้น 3 ก็จะมีกระเป๋าเล็กกระเป๋าน้อยเวลาไปข้างนอกจะมีใส่ตังค์ใส่อะไร พอเปิดมา อ้าว อยู่ในกระเป๋าเล็ก ๆ เราก็แบบอ้าว อันนี้ของดีจริง ก็เก็บแล้วเอาไปเลี่ยมทองมาห้อย เสร็จแล้วก็ยังไม่รู้อีกพูดอะไรก็คนเชื่อ ไปไหนก็มีแต่คนช่วยเหลือ”

เขาบอกว่าเจ้เล้งเป็นคนนับถืออาแปะโรงสี ?

“คือตอนนั้นเจ้เล้งอายุประมาณ 20 แม่บอกว่าวันนี้ไปไหว้เจ้ามานะ อาแปะคนที่เข้าทรงเนี่ย เขาบอกให้มาบอกเธอให้เลิกกินเนื้อ ถ้าเธอเลิกกินเนื้อเมื่อไร เธอจะรวยเมื่อนั้น เราก็บอกจริงเหรอแม่ พรุ่งนี้หนูเลิกละ แล้วเลิกจริง ๆ นะ เลิกใหม่ ๆ ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ยังไม่รู้ว่าอะไร มีอยู่วันนึงผ่านตรงไดมารู สมัยก่อนจะมีตึกแถวจะมีก๋วยเตี๋ยว เด๋อ ดู๋ ดี๋ ฉันก็แบบมันหอม อยากกินจังเลย ทำไงดีล่ะ ไม่กินเนื้อ แต่กินน้ำกับเส้นก็ได้ (หัวเราะ) กินเสร็จอ้วกตรงนั้นเต็มโต๊ะเลย หลังจากนั้นเลยเลิกกินเลย”

มีองค์มาเข้าฝัน ?

“ไม่ใช่มาเข้าฝัน องค์นี้จะอย่างนี้ วันนึงเจ้เล้งนั่งวิปัสนาครั้งเดียวเองในชีวิต อยู่ ๆ แต่งงานไปอยู่บ้านแม่ผัว อดีตแม่ผัว ใจไม่สงบต้องเลิกกันไหมเนอะ ท่องจิตตัวเองว่าต้องอยู่ หรือจะต้องเลิก จะตัดสินใจอย่างไร นั่งวิปัสนาจะได้สบายใจ สมัยก่อนเขาท่องพุทโธ นั่งแป๊บเดียวตัวเบาเหมือนนุ่นลอยขึ้น ลอยลงตลอดเวลา สักพักจะมีคนแต่งตัวเป็นพราหมณ์แบบนั้นมาจูงพาลอยขึ้นลอยลง และก็ไปตกอยู่กลางลานใหญ่ ๆ ก็มีพระสังกัจจายน์องค์ใหญ่ แต่เป็นพระสังกัจจายน์สีทองใหญ่ที่พูดได้ ท่านถามว่ามาทำไม เราก็ตอบอยากรวยค่ะ ท่านก็ตอบเรามาว่า กลับไปรวยเลย แล้วเราก็สะดุ้งขึ้นมาเลย จากนั้นก็รวยจริง ๆ เงินทองมันได้ง่ายจริง แล้วมาทำอพาร์ทเมนท์ที่ลาดกระบังก็ฝันว่าพรุ่งนี้ บ่ายโมงกว่า ๆ จะมีผู้หญิงคนหนึ่งเอาที่มาขายให้ ซื้อไว้นะ มันจะเป็นธุรกิจใหม่ที่ทำเงินให้โดยที่เราจะไม่เหนื่อยเลย ตอนแรกก็ลืมไปแล้ว ยืนตรงแถวหน้าร้านก็เจอคนมาสวัสดี ก็คุยกันเรื่องที่ดินของเขา แล้วบอกเขาพาไปดูหน่อยสิ ปกติตัวเองจะไม่ไปดูที่ดินกับใครเลย พอดูเสร็จก็ให้ทนายไปดูว่าเขามีเรื่องฟ้องกันก่อนหน้านี้เรียบร้อยจริงไหม”

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here