วันที่ 26 ต.ค.2567 นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี/ผู้อำนวยการจังหวัด กล่าวเตือนประชาชนชาวจังหวักกาญจนบุรีว่า

ด้วยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางแจ้งว่า ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง กอปรกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 4 (237/2567) ลงวันที่ 25 ต.ค.2567 เวลา 11.00 น. แจ้งว่า พายุโซนร้อนกำลังแรง “จ่ามี” บริเวณทะเลจีนไต้ตอนบบน เคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้าๆ คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งสาธารณรัฐสังคนิยมเวียดนามตอนกลาง ในช่วงวันที่ 26-28 ต.ค.2567

โดยพายุนี้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย แต่จะทำให้มีลมฝ่ายตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดเข้าหาศูนย์กลางของพายุมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้น ฝนตกกหนักบางพื้นที่ และมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเลียงเหนือ ภาคกลาง

หลังจากนั้น พายุจะเปลี่ยนทิศทางเคลื่อนตัวออกห่างจากชายฝั่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามกลับไปทางทะเลจีนใต้ตอนบนบน

ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงไต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้ง ทำให้ภาคไต้มีฝนตกต่อเนื่องและฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 26-29 ต.ค.2567 ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น

โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

โดยจังหวัดกาญจนบุรีมีพื้นที่แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขัง ระหว่างวันที่ 26-29 ต.ค.2567 ได้แก่ อ.เมืองกาญจนบุรี และ อ.ด่านมะขามเตี้ย

ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ จึงให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาล กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยองค์การบริหารส่วนตำบล และหน่วยงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยดำเนินการ ดังนี้

1.กรณีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง ให้ดำเนินการแจ้งไปยังกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาล กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยองค์การบริหารส่วนตำบล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชน

ให้ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการ ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับประชาชน ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งก่อสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรควรป้องกันผลิตผลทางการเกษตรที่อาจได้รับความเสียหายด้วย

2.กรณีน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ให้ติดตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่แต่ละจุดอย่างใกล้ชิด รวมถึงเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักหรือบริเวณฝนสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัยได้

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำ น้ำตก ถ้ำลอด หากมีฝนตกหนักมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัยให้ผู้อำนวยการอำเภอสั่งการหน่วยงานที่รับผิดชอบ ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว ตลอด 24 ชั่วโมง

3.ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทุกระดับ และหน่วยงานด้านการป้องกังกัน และบรรเทาสาธารณภัย ประสานหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบการก่อสร้าง บำรุงรักษาถนน ในการตรวจสอบปรับปรุง กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาโครงการที่ส่งผลกระทบต่อปัญหาการระบายน้ำในช่วงฝนตกหนัก

พร้อมทั้งให้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกการจราจร ติดตั้งป้ายสัญญาณจราจรแจ้งเตือนประชาชนใช้ความระมัดระวัง หรือหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวให้ชัดเจน

และ 4.หากมีแนวโน้มจะเกิดสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ ให้ถือปฏิบัติตามข้อสั่งการและมาตรการ ตามหนังสือกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี ด่วนที่สุด ที่ กจ (กอปภ.จ)0021/ว194 ลงวันที่ 13 มิ.ย.2567

และสามารถแจ้งเหตุผ่านทางโทรศัพท์สายด่วน 1784 หรือแจ้งผ่านไลน์ ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784 โดยดำเนินการเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM ตลอด 24 ชั่วโมง

และรายงานการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบรี ทราบทันที ที่หมายเลขโทรศัพท์ 034-515998 โทรสาร 034-516795 เพื่อรายงานผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here