เฉิงเจียวฮุ่ย จากสาวสวยทำให้สองเศรษฐีล้มละลาย สู่ชีวิตใหม่ในวัย 62
เฉิงเจียวฮุ่ย เคยเป็นที่รู้จักในฐานะ “สาวสวยทำให้สองเศรษฐีล้มละลาย” ของฮ่องกง หลังจากที่เธอมีส่วนทำให้สามีทั้งสอง ต้องประสบกับความล้มเหลวทางการเงินและชีวิตส่วนตัวที่ย่ำแย่
ชีวิตหรูหราก่อนวิกฤต และจุดเปลี่ยนที่ทำให้ชีวิตพลิกผัน
เฉิงเจียวฮุ่ย (Zhang Xiaohui – 張曉蕙) ชื่อที่เมื่อใครได้ยิน ต่างนึกถึงยุครุ่งเรืองของสังคมชั้นสูงและวงการบันเทิงฮ่องกง เธอเกิดมาในครอบครัวที่มั่งคั่ง และได้รับการเลี้ยงดูราวกับเจ้าหญิง ตั้งแต่เด็กเธอได้สัมผัสกับแบรนด์หรู และเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอย่างหรูหรา คุณแม่มักพาเธอไปช้อปปิ้งตามร้านค้าระดับไฮเอนด์ตั้งแต่ยังเล็ก ตู้เสื้อผ้าของเธอเต็มไปด้วยเสื้อผ้านำเข้า จนกลายเป็นนิสัยการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยที่ยากจะเลิกได้
เธอเกิดเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 1963 ที่ฮ่องกง เติบโตในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีและมีชีวิตที่หรูหรา ตั้งแต่เด็กเธอได้สัมผัสกับแบรนด์หรูและการใช้ชีวิตที่สะดวกสบาย ก่อนที่จะไปศึกษาต่อที่แคนาดาและสหรัฐอเมริกา ในช่วงเวลานี้ เธอได้สัมผัสกับวงการศิลปะและแฟชั่นระดับนานาชาติ สร้างรสนิยมเฉพาะตัวและความรู้พื้นฐานที่มั่นคง ซึ่งช่วยให้เธอสามารถเข้าร่วมงานแฟชั่นได้อย่างมั่นใจ
ในช่วงที่ศึกษาอยู่ที่แคนาดา เธอได้รู้จักกับนักร้อง จุงเจินเต้า (Chung Jin Tao – 鍾鎮濤) เมื่อวงดนตรี Wynners ของเขามาแสดงที่นั่น ทั้งสองต่างมีความรู้สึกดีต่อกัน แต่เนื่องจากตอนนั้นเธอมีแฟนอยู่แล้ว ความสัมพันธ์จึงไม่ได้พัฒนาไปไกลกว่านั้น ต่อมา เมื่อเธอเลิกกับแฟนและกลับมาฮ่องกง เขาก็เริ่มตามจีบเธออย่างจริงจัง และทั้งสองก็เริ่มคบหาดูใจกันในเวลาต่อมา
หลังจากคบกันได้ไม่นาน เขาได้ขอเธอแต่งงาน แม้ว่าพ่อของฝ่ายหญิงจะไม่ค่อยเห็นด้วยนัก เพราะมองว่าเขาไม่น่าจะเลี้ยงลูกสาวตัวเองได้ เนื่องจากเธอใช้จ่ายฟุ่มเฟือยมาก แต่เขาก็ยืนยันว่าสามารถดูแลเธอได้ไปตลอดชีวิต ทั้งคู่จัดพิธีแต่งงานอย่างหรูหราในปี 1988 และจากนั้นเธอก็เริ่มต้นชีวิตในฐานะภรรยาที่ได้รับการปรนเปรออย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องทำงาน ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการช้อปปิ้งและใช้ชีวิตอย่างหรูหราทุกวัน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงกลางทศวรรษ 1990 อาชีพของสามีเริ่มตกต่ำ เขาไม่สามารถหารายได้มากพอที่จะรักษาวิถีชีวิตอันฟุ่มเฟือยของภรรยาไว้ได้ ในช่วงเวลานั้น ที่งานแฟชั่นโชว์งานหนึ่ง เธอได้รู้จักกับนักธุรกิจผู้มั่งคั่งชื่อ จั่นเหว่ยเหมิน (Chan Wai Man – 陳偉文) ซึ่งหลงใหลในความงามของเธอและพร้อมจะทุ่มเงินให้ไม่อั้น ในเวลาใกล้เคียงกัน ด้วยคำแนะนำของชายคนนี้เอง เธอจึงได้ชวนสามีลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยทุ่มเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์ฮ่องกงไปกับการซื้อบ้านและที่ดิน
แต่ไม่นานก็ต้องเผชิญวิกฤตการเงินในปี 1997 จนกลายเป็นหนี้กว่า 250 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 825 ล้านบาท) ท้ายที่สุดทั้งคู่หย่ากันในปี 1999 จุงเจินเต้า ล้มละลาย ส่วน จั่นเหว่ยเหมิน เองก็หมดตัวไปเช่นกัน ขณะที่หญิงสาวจากเคยเป็นสาวไฮโซผู้ทรงอิทธิพล กลับกลายเป็นเป้าโจมตีในสังคม ถูกสื่อเรียกว่า “ผู้หญิงที่ทำให้มหาเศรษฐี 2 คนล้มละลาย”
ทั้งนี้ ตามรายงานของสื่อจีนยังระบุด้วยว่า หลังจากที่ จั่นเหว่ยเหมิน ตกอยู่ในหนี้สิน เขายังใช้ความรุนแรงกับเฉิงเจียวฮุ่ย ทำให้ทั้งคู่ต้องเลิกรากันอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา
การเปลี่ยนแปลงในชีวิตและอาชีพ ปัจจุบันในวัย 62 ปี
ชีวิตที่ดูเหมือนจะถึงทางตันแล้ว แต่ เฉิงเจียวฮุ่ย กลับไม่ยอมแพ้ เมื่ออายุ 41 ปี เธอตัดสินใจรับเล่นภาพยนตร์เรต 18+ ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในชีวิต ช่วยให้เธอสามารถใช้หนี้และกอบกู้ชื่อเสียงกลับคืนมาได้ แม้ว่าตัวหนังจะถูกวิจารณ์อย่างมากจากเนื้อหาที่ค่อนข้างอ่อนไหว แต่การแสดงของเธอกลับได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ฮ่องกง ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการลุกขึ้นสู้อีกครั้ง และความกล้าที่จะลองสิ่งใหม่ๆ ของเธอ
อย่างไรก็ตาม เธอก็ไม่ได้ยึดอาชีพนักแสดงไว้นาน ไม่นานหลังจากนั้น เธอหันเหไปทำธุรกิจและแฟชั่นแทน โดยเปิดบริษัทในลอสแอนเจลิส และร่วมลงทุนในการผลิตภาพยนตร์ พร้อมทั้งใช้ชื่อเสียงของตัวเองเปิดคอลัมน์แฟชั่น ขายเสื้อผ้าและเครื่องประดับแบรนด์เนม กระทั่งในปี 2010 เธอกลับมาฮ่องกง เปิดร้านขายของแฟชั่นนำเข้าจากยุโรป และค่อยๆ ใช้หนี้จนหมด
ปี 2018 เธอเข้าสู่วงการออนไลน์เต็มตัว เริ่มต้นธุรกิจบนแพลตฟอร์มดิจิทัล กลายเป็น “เจ้าแม่ไลฟ์สตรีม” (Livestream Queen) ที่มีรายได้มหาศาล โดยการไลฟ์ขายของของเธอสามารถทำยอดขายได้หลายสิบล้านดอลลาร์ฮ่องกงภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากนั้น เธอได้หันมาทำธุรกิจและแฟชั่น โดยเปิดบริษัทในลอสแองเจลิสและผลิตภาพยนตร์ รวมถึงการขายสินค้าแฟชั่นออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ซึ่งทำให้เธอมีรายได้สูงและสามารถชำระหนี้ทั้งหมดได้ในที่สุด
ปัจจุบัน สาวงามในวัย 62 ปี ยังคงมีชีวิตที่เป็นอิสระและประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจและแฟชั่น เธอยังคงรักษาความงามและความมั่นใจของตนเอง และเป็นตัวอย่างของการไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคในชีวิต