Home บันเทิง “สรยุทธ” ขอโทษกรณีดรามาเขมร เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ “น้องไบรท์” ผมผิดเองคนเดียว

“สรยุทธ” ขอโทษกรณีดรามาเขมร เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ “น้องไบรท์” ผมผิดเองคนเดียว

50

สรยุทธ-ไบรท์ ถูกวิจารณ์หนัก ปมอ่านข่าวล้อสำเนียงกัมพูชา — สรยุทธชี้ขอโทษ รับผิดเต็มที่
เกิดอะไรขึ้น
กลายเป็นประเด็นดราม่าในโลกออนไลน์ หลังคลิปจากรายการ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ ช่วงวันที่ 22 ก.ย. ถูกแชร์ในโซเชียล โดยในคลิปมีช่วงที่ ไบรท์ พิชญทัฬห์ อ่านข่าวพร้อมใส่สำเนียงกัมพูชา ขณะที่ สรยุทธ สุทัศนะจินดา หัวเราะประกอบ และมีแคปชันที่พูดถึงการสื่อสารไปยัง “ฮุน เซน” ทำให้ผู้ชมบางส่วนมองว่าเป็นการล้อเลียนอัตลักษณ์ทางภาษาและเป็นการบูลลี่ ส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรวดเร็ว

เสียงวิจารณ์จากชาวเน็ตและผู้เชี่ยวชาญ
คลิปถูกวิจารณ์ว่าล้ำเส้นความเหมาะสมของสื่อและอาจกระทบความรู้สึกของคนกลุ่มหนึ่งในพื้นที่ชายแดน รวมถึงคนจากจังหวัดที่มีสำเนียงใกล้เคียง มีผู้ใช้โซเชียลจำนวนมากตั้งคำถามว่า การนำสำเนียงของชาติอื่นมาเล่นเป็นมุกกลางรายการข่าวนั้นเหมาะสมหรือไม่ และมีครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนหนึ่งออกมาโพสต์แสดงความไม่พอใจ ระบุว่าเป็นการเหยียดชาติพันธุ์ที่ไม่ควรปรากฏบนสื่อระดับชาติ

คำชี้แจงและคำขอโทษของสรยุทธ
เมื่อวันที่ 25 ก.ย. สรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้ออกมาขอโทษกลางรายการ โดยยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดจากการ “อิน” กับเนื้อหาเกินไป และอธิบายที่มาว่าเนื้อหาต้นทางเกี่ยวข้องกับสารคดีของกองทัพที่พูดถึงการอพยพของคนกัมพูชาในช่วงเขมรแดง แต่เมื่อนำมาพูดในรายการ กลับกลายเป็นการล้ำเส้นหลักการทำหน้าที่ของสื่อ

สรยุทธยืนยันว่า “ผิดเองทั้งหมด” พร้อมสั่งลบคลิปเพื่อแสดงความรับผิดชอบ และขอให้สังคมวิจารณ์ตนได้อย่างเต็มที่ แต่ขอแยกประเด็นว่าไม่อยากให้การวิจารณ์เกี่ยวพันถึงตัว น้องไบรท์ มากนัก เนื่องจากมองว่าเป็นการบังคับให้ทำในสถานการณ์นั้น

มุมมองเชิงสื่อและสิ่งที่ควรระวัง
กรณีนี้ชี้ให้เห็นความสำคัญของจรรยาบรรณสื่อในการนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับชาติพันธุ์และอัตลักษณ์ภาษา แม้บางครั้งผู้จัดรายการตั้งใจจะใช้มุกหรือพยายามสร้างสีสัน แต่เมื่อเป็นสื่อมวลชนที่มีผู้รับชมจำนวนมาก ควรระมัดระวังไม่ให้ไปข้ามเส้นที่อาจทำให้กลุ่มคนถูกล้อหรือถูกลดทอนความนับถือ

บทสรุป
เหตุการณ์ครั้งนี้นำไปสู่การตั้งคำถามถึงขอบเขตของความบันเทิงบนพื้นที่ข่าว และเป็นการเตือนใจสื่อให้ยึดหลักความเคารพอัตลักษณ์ของผู้อื่น สรยุทธได้ยอมรับผิดและขอโทษแล้ว ขณะที่สังคมยังคงมีการถกเถียงกันต่อไปในเรื่องความเหมาะสมและบทบาทของสื่อในการรักษามาตรฐานการสื่อสารที่ไม่ก่อให้เกิดการแบ่งแยก