เงินช่วยพิเศษข้าราชการ เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2568 กรมบัญชีกลาง สังกัดกระทรวงการคลัง ได้อัปเดตข้อมูล ชี้แจงข้อสงสัย กรณีหากข้าราชการเสียชีวิตโดยไม่ได้ทำหนังสื่อแสดงเจตนาระบุตัวบุคคลไว้ ใครจะเป็นผู้ได้รับเงินช่วยพิเศษ (เงินจัดการศพ) โดยเฉพาะในกรณีที่ข้าราชการเสียชีวิตในระหว่างรับราชการ ซึ่งทายาทจะได้รับ เงินช่วยพิเศษ หรือ เงินจัดการศพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น โดยเงินจำนวนนี้จะคิดจาก 3 เท่าของเงินเดือน เดือนสุดท้าย
ตามพระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จบำนาญ และเงินอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน พ.ศ.2535 ระบุ ข้าราชการผู้ใดถึงแก่ความตายในระหว่างรับราชการ ให้จ่ายเงิน 3 เท่าของเงินเดือนเต็มเดือน ที่ข้าราชการผู้นั้นมีสิทธิได้รับในเดือนที่ถึงแก่ความตาย
หากข้าราชการผู้นั้นมีสิทธิได้รับ
เงินเพิ่มพิเศษค่าวิชา
เงินประจำตำแหน่งที่ต้องฝ่าอันตรายเป็นปกติ
เงินเพิ่มพิเศษสำหรับการสู้รบ
เงินเพิ่มพิเศสำหรับการปราบปรามผู้กระทำผิด
ให้รวมเงินดังกล่าวพร้อมกับเงินเดือน เพื่อคำนวณเป็นเงินช่วยพิเศษ จำนวน 3 เท่า
ทั้งนี้ ผู้ที่จะได้รับเงินช่วยพิเศษ คือ บุคคลที่ข้าราชการผู้เสียชีวิตได้แสดงเจตนาระบุตัวบุคคลไว้เป็นหนังสือ ตามแบบที่กระทรวงการคลังกำหนดไว้ ก่อนเสียชีวิต
ส่วนกรณีหากข้าราชการที่เสียชีวิตไม่ได้แสดงเจตนาไว้ ให้จ่ายแก่ทายาทตามกฎหมายตามลำดับดังนี้
คู่สมรส
บุตร
บิดา มารดา
หากผู้มีสิทธิลำดับก่อนยังมีชีวิตอยู่ บุคคลลำดับถัดไป ไม่มีสิทธิได้รับเงินช่วยพิเศษ หรือหากว่าผู้มีสิทธิในลำดับเดียวกันมีมากกว่า 1 คน ให้จ่ายแก่บุคคลซึ่งได้รับมอบหมาย หรือ บุคคลใดบุคคลหนึ่งที่เป็นผู้จัดการศพ เช่น
กรณีข้าราชการเสียชีวิตโดยไม่ได้แสดงเจตนาและไม่มีคู่สมรส แต่มีบุตร 3 คน ให้จ่ายเงินช่วยพิเศษให้แก่บุตรคนใดคนหนึ่งใน 3 คนนี้ตามที่ตกลงกัน หรือหากตกลงกันไม่ได้ ก็จะจ่ายให้บุตรคนที่เป็นผู้จัดการศพ
ขั้นตอนและเอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นขอ
สามารถยื่นขอรับเงินภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ข้าราชการเสียชีวิต ยื่นแบบได้ที่หน่วยงานต้นสังกัด พร้อมเอกสารหลักฐานดังนี้
สำเนาใบมรณบัตร
หนังสือแสดงเจตนาระบุตัวผู้รับเงินช่วยพิเศษ (ถ้ามี)
สำเนาทะเบียนบ้าน/สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
สำเนาทะเบียนสมรสหรือใบสำคัญการสมรส (กรณคู่สมรส)
สำเนาสมุดบัญชีเงนฝากธนาคาร (หน้าที่มีชื่อและเลขที่บัญชี)
กรณีลูกจ้างชั่วคราว แนบคำสั่งจ้างลูกจ้างชั่วคราว
