Home ท้องถิ่น เสธ.เบิร์ด ลั่นไม่เห็นด้วยเปิดด่าน ต้องทำให้กัมพูชาสิ้นสภาพคุกคามไทยก่อน ค่อยเจรจา

เสธ.เบิร์ด ลั่นไม่เห็นด้วยเปิดด่าน ต้องทำให้กัมพูชาสิ้นสภาพคุกคามไทยก่อน ค่อยเจรจา

3

วันที่ 11 ก.ย. 2568 พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวถึงกรณีการเปิดด่านเนื่องจากถูกกดดันจากประเทศที่สามว่า เข้าใจได้ว่าเพราะประเทศที่สาม ก็ทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศตนเอง แต่เราต้องทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศเราเช่นกัน วันนี้เราคิดถึงครอบครัวผู้บริสุทธิ์ที่เสียชีวิต รวมถึงผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ครอบคลุมไปถึงทหารแนวหน้าที่บาดเจ็บและเสียชีวิตเช่นกัน

ประเทศที่สามที่กดดันเราเข้าใจว่าเขาทำเพื่อประเทศเขา แต่เราก็ทำเพื่อประเทศเรา อยากให้คิดถึงครอบครัวผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ทั้งประชาชนและทหาร กัมพูชาต้องสิ้นสภาพการเป็นภัยคุกคามกับไทย ถึงจะเริ่มเจรจา และควรที่จะไปกดดันกัมพูชา เพราะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ขนกำลังมาประชิดชายแดน และหากกัมพูชามีการถอนกำลังออก ไทยมีความเป็นสุภาพบุรุษเพียงพอ ไม่มีการตลบหลังแน่นอน และพร้อมที่จะถอนกำลังเช่นเดียวกัน

สิ่งที่จะจบปัญหานี้ได้ทางกัมพูชา จะต้องสิ้นสภาพภัยคุกคามต่อประเทศไทย เราถึงค่อยเจรจา และตนก็ไม่เห็นด้วยที่มาบอกว่าพื้นที่ที่ไม่มีการปะทะให้เปิดด่านก่อน เพราะฝ่ายตรงข้ามก็ยังเป็นกัมพูชาอยู่วันยังค่ำ

ดังนั้น ต้องทำทุกวิถีทางให้กัมพูชาสิ้นสภาพการเป็นภัยคุกคามต่อไทย จึงไม่ใช่ข้ออ้างที่จะมาเปิดด่านตรงจุดที่ไม่ปะทะ และในวันนี้กัมพูชายังไม่มีความจริงใจ แต่ก็ให้โอกาส ที่กัมพูชาระบุว่าจะทำตามข้อตกลง การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC)

จะเห็นได้ว่าการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ในกรอบทวิภาคี จะโยนไปมาระหว่าง GBC, RBC และJBC ซึ่งหากปล่อยเอาไว้แบบนี้ ก็จะยื้อกันต่อไปเรื่อยๆ ปัญหาไม่จบ วันนี้ให้ไปสอบถามประชาชนที่อยู่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทุกคนอยากให้ปัญหาชายแดนจบเร็ว

คำว่ากัมพูชาสิ้นสภาพต่อภัยคุกคามต่อไทย ไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำลายจนสิ้นซาก เพียงแต่จะต้องทำให้กัมพูชาได้รับผลกระทบ ทั้งกำลังทหาร เศรษฐกิจและความน่าเชื่อถือ เพื่อลดทอนการเป็นภัยคุกคามต่อประเทศไทยต่อไปในอนาคตได้

วันนี้ถอนเพียงอาวุธหนักออกจากพื้นที่ยังไม่เพียงพอ เพราะกำลังทหารยังคงอยู่ในพื้นที่ เช่นเดียวกับทางกัมพูชาเรียกร้องให้เราส่งเชลยศึกกลับไป แต่ในขณะเดียวกันยังมีกำลังเผชิญหน้าพร้อมที่จะปะทะกันอยู่ หากทางกัมพูชาต้องการตัวเชลยศึกเขาต้องถอนกำลังทหารกลับไป

ตนไม่ทราบว่าการเปิดด่านเป็นนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ แต่อยากให้คิดถึงประชาชนและทหารที่เสียชีวิต และบาดเจ็บรวมถึงครอบครัวของเขา การเปิดด่านในจุดที่ไม่ปะทะ ตนไม่เห็นด้วย เพราะว่าจะปะทะหรือไม่ปะทะ ฝั่งตรงข้ามก็คือกัมพูชา ดังนั้นเราจะต้องทำให้เขาสิ้นสภาพการเป็นภัยคุกคามต่อประเทศไทยก่อน