Home ต่างประเทศ ลูกสาววัย 12 ขโมยแหวนมาขาย ร้านทองจับโป๊ะพูดแรง แม่กลับ “สอนใจ” ด้วยวิธีที่ไม่มีวันลืม!

ลูกสาววัย 12 ขโมยแหวนมาขาย ร้านทองจับโป๊ะพูดแรง แม่กลับ “สอนใจ” ด้วยวิธีที่ไม่มีวันลืม!

10

เด็กหญิงวัย 12 แอบเอาแหวนแม่ไปขาย เจอร้านทองพูดแรงสะเทือนใจ แต่สิ่งที่แม่ทำกลับเหนือความคาดหมาย
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในประเทศจีนนี้ เคยกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ เมื่อเด็กหญิงวัยเพียง 12 ปี แอบนำแหวนทองของแม่ไปขาย เพื่อแลกกับโทรศัพท์มือถือที่เธอใฝ่ฝัน แต่สิ่งที่เธอได้รับกลับเป็นบทเรียนล้ำค่าเกี่ยวกับ ความซื่อสัตย์ และ ความรับผิดชอบ ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตของเธอ

แอบนำแหวนแม่ไปขาย หวังซื้อโทรศัพท์
เมื่อช่วงบ่ายของเดือนกรกฎาคม ปี 2020 ที่เมืองหนานจิง ประเทศจีน เด็กหญิงชื่อ เสี่ยวลี่ วัย 12 ปี แอบหยิบแหวนทองจากลิ้นชักของแม่ แล้วนำไปซ่อนไว้ในผ้าเช็ดหน้า ก่อนเดินเข้าไปยังร้านทองแห่งหนึ่งด้วยหัวใจเต้นรัว เธอเชื่อว่าแหวนวงนี้จะสามารถแลกเป็นเงินเพื่อซื้อโทรศัพท์มือถือที่เธอใฝ่ฝันมานาน

เมื่อถึงเคาน์เตอร์ เสี่ยวลี่ยื่นแหวนให้เจ้าของร้านตรวจสอบ ชายสูงวัยหยิบแหวนขึ้นมาส่องดูอย่างละเอียด ก่อนจะหัวเราะเบาๆ และพูดแทงใจว่า “เด็กน้อยอย่าล้อเล่น นี่มันแหวนปลอม! ไม่มีค่าแม้แต่สตางค์แดงเดียว!” คำพูดนั้นทำให้เสี่ยวลี่หน้าแดงและตกใจ เธอพยายามอธิบายว่า “ทำไม… มันจะเป็นของปลอมได้ยังไงกัน นี่แหวนของแม่ฉันนะ!”

ทันใดนั้น แม่ของเสี่ยวลี่เดินเข้ามาในร้านอย่างสงบนิ่ง เธอปรากฏตัวพร้อมแสดงท่าทีไม่คาดคิด กล่าวขอโทษเจ้าของร้าน ก่อนจะพาลูกสาวออกจากร้านอย่างอ่อนโยน ตลอดทางกลับบ้าน เสี่ยวลี่ก้มหน้าด้วยความรู้สึกผิด คิดว่าแม่ต้องโกรธมากแน่นอน

“แหวนปลอม” ที่แม่จงใจวางไว้ เพื่อสอนบทเรียนสำคัญ
แต่เมื่อถึงบ้าน แม่กลับไม่ได้ดุด่าเธออย่างที่คิด กลับนั่งลงข้างๆ แล้วมองลูกสาวด้วยสายตาอ่อนโยน “ลูกสงสัยไหมว่าทำไมแม่ถึงไม่ห้ามลูกนำแหวนไปขาย?” แม่ถาม เสี่ยวลี่ตอบเสียงสั่นว่า “ไม่รู้ค่ะ” จากนั้นแม่ก็เฉลยว่า แหวนวงนั้นเป็นของปลอม และเธอจงใจวางไว้ในลิ้นชักเพราะรู้ถึงความตั้งใจของลูก

แม่กล่าวว่า “สิ่งที่ลูกทำ ไม่ใช่แค่การหยิบของไปขาย แต่คือการเลือกที่จะ ไม่ซื่อสัตย์ ต่อสิ่งที่ถูกต้อง” คำพูดนั้นแทงใจเสี่ยวลี่อย่างจัง เพราะมันสะท้อนถึงความผิดพลาดที่เธอเพิ่งก่อ การสอนด้วยความเข้าใจ มากกว่าการลงโทษ

แม่ของเสี่ยวลี่ไม่ได้ลงโทษลูกด้วยความรุนแรง แต่เลือกใช้วิธีให้ลูกได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง และเข้าใจผลลัพธ์ของการกระทำผิด เธออธิบายว่า ความซื่อสัตย์ไม่ใช่แค่การพูดความจริง แต่คือการทำในสิ่งที่ถูกต้อง แม้จะไม่มีใครเห็นก็ตาม

“แม่ไม่อยากให้ลูกรู้สึกอับอายกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่อยากให้ลูกรู้ว่า การเลือกทางผิดอาจทำให้สูญเสียความไว้ใจจากคนรอบข้าง และสูญเสียความภาคภูมิใจในตัวเอง” แม่กล่าวด้วยความเมตตา เสี่ยวลี่ถึงกับหลั่งน้ำตา และสัญญาว่าจะไม่ทำผิดอีก

ทำไมเด็กควรควรปลูกฝังความซื่อสัตย์ตั้งแต่ยังเล็ก?
เหตุการณ์ของเสี่ยวลี่สะท้อนว่า การสอนเรื่อง ความซื่อสัตย์ ไม่จำเป็นต้องใช้การลงโทษ แต่ควรใช้ความเข้าใจและการสื่อสารอย่างลึกซึ้ง เพราะสิ่งนี้จะช่วยหล่อหลอมให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตสำนึกและรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง
1. เข้าใจคุณค่าของความซื่อสัตย์
เด็กจะเรียนรู้ว่า ความซื่อสัตย์ไม่ใช่แค่การพูดความจริง แต่คือการทำในสิ่งที่ถูกต้อง แม้ไม่มีใครเฝ้าดู

2. เรียนรู้การรับผิดชอบต่อการกระทำ
การเผชิญหน้ากับผลของความผิดพลาด จะช่วยให้เด็กรู้ว่าทุกการตัดสินใจมีผลตามมา และเรียนรู้ที่จะคิดก่อนทำ

3. สร้างความไว้ใจและความเคารพ
ความซื่อสัตย์คือรากฐานของความสัมพันธ์ที่มั่นคง เด็กจะเข้าใจว่า การโกหกหรือหลอกลวงจะทำลายความไว้ใจจากครอบครัวและสังคม

4. พัฒนาแนวคิดและการตัดสินใจอย่างมีจริยธรรม
ประสบการณ์ตรงจะช่วยให้เด็กมองเห็นว่า ความสำเร็จที่ได้มาด้วยวิธีที่ผิดนั้นไม่มีคุณค่าจริง

5. เตรียมพร้อมสำหรับอนาคต
เด็กที่เติบโตมาพร้อมกับความเข้าใจเรื่องความซื่อสัตย์ จะมีภูมิคุ้มกันต่อแรงกดดัน และสามารถยึดมั่นในหลักการที่ถูกต้องได้แม้ในสถานการณ์ยากลำบาก

ท้ายที่สุด บทเรียนของเสี่ยวลี่เป็นเครื่องเตือนใจว่า การสอนลูกเรื่องความซื่อสัตย์ตั้งแต่ยังเล็ก คือการมอบ “เข็มทิศชีวิต” ให้เขาเติบโตอย่างมีคุณธรรม ไม่ใช่แค่ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่ยังสามารถภาคภูมิใจในทุกก้าวของตัวเองได้อย่างแท้จริง