28 ส.ค. 2568 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Sopon Jongboriboon โพสต์คลิป โดยได้ระบุข้อความว่า เมื่อเช้าหลังจากที่เคารพธงชาติเสร็จ มีรถตำรวจมารับตัวนักเรียนไป เนื่องจากนักเรียนถูกแจ้งความในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
นักเรียนของผมแม่มีสัญชาติกัมพูชา ที่มีสามีเป็นคนไทยในอำเภอบัวเชด ได้นำลูกศิษย์ผมเข้ามาตั้งแต่วัยทารก และไม่เคยกลับเข้าไปที่กัมพูชาอีกเลย นักเรียนเติบโตและใช้ชีวิตที่นี่ตั้งแต่จำความได้ จนถึงปัจจุบัน อายุ 13 ปี โตที่ไทย เรียนที่ไทย พูดภาษาไทย ใช้ชีวิตทุกอย่างเหมือนคนไทยทุกคนที่เกิดและโตที่นี่ แม้แต่ภาษากัมพูชาก็อ่านไม่ได้ เขียนไม่ออก และสื่อสารไม่ได้ นักเรียนผมเป็นเด็กดี เรียนดี จบประถมศึกษาด้วยเกรดเฉลี่ย 4.00 เป็นคนมีความสามารถทางด้านดนตรี กีฬา รวมถึงวิชาการ
วันนี้ผมและเพื่อนครูใจสลายที่โรงพัก ไม่มีใครได้ตั้งตัวว่ามันจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ใช่อยู่ครับว่าเค้ามาแบบผิดกฎหมาย แต่อยากขอความเห็นใจในฐานะเพื่อนมนุษย์ ตราบใดที่เค้าไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ก็อย่างรังแกเค้าเลยครับ เด็กเค้าไม่รู้เรื่องเลย นักเรียนและแม่ร้องไห้ตลอดตอนที่อยู่ในโรงพัก แม่ไม่มีความรู้ กลัวไปหมดทุกอย่างจนตัวสั่น พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่ากลับไปก็ไม่รู้จะไปที่ไหน เพราะไม่มีบ้านอยู่ที่นั่น และก็ไกลมากด้วย จังหวัดกำปงจาม ไกลพอ ๆ กับไปกรุงเทพ
ในฐานะครูมันจุกอกเหลือเกินที่ต้องเห็นลูกศิษย์ เปลี่ยนชุดจากชุดลูกเสือเป็นชุดไปรเวทเพื่อเตรียมนำไปฝากขังไว้ที่ด่านกาบเชิงเพื่อส่งตัวกลับประเทศ ต้องอยู่ในห้องขังจนกว่าจะมีผู้ต้องหาครบ 10 คนแล้วค่อยส่งไปที่ด่านสระแก้ว ลองจินตนาการดูนะครับว่าเขาสองคนจะเจออะไรบ้างหลังจากนี้
ในขณะที่พวกคุณคนแจ้งความกินอิ่ม นอนหลับ ดูเด็ก 13 ขวบ ที่พวกคุณทำกับเขาสิครับ คุณกำลังพรากเขาไปจากครอบครัวที่นี่ พรากจากเพื่อนพรากจากครู หยุดล่าแม่มดกับคนที่เค้าบริสุทธิ์เถอะครับ ทั้งในชีวิตจริงและโลกโซเชียล อย่างไรก็ตาม ตำรวจทำหน้าที่ของเขาถูกแล้ว เพราะมีคนมาแจ้งความ ทุกคนเห็นอกเห็นใจแต่ต้องทำตามหน้าที่
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. ครูอัปเดตข้อมูลเพิ่มเติมว่า เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องไม่ให้เข้าใจผิดเป็นวงกว้าง หลักฐานใบเกิดพ่อแม่ของน้องเป็นคนกัมพูชาทั้งคู่ แม่เอาเข้ามาตั้งแต่เด็ก เบื้องต้นผู้บริหารสถานศึกษา กำลังประสานงานเพื่อช่วยเหลือเด็กในเบื้องต้น ทางเราไม่มีการขอรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือเหลือเด็ก โปรดระวังมิจฉาชีพด้วย
และชี้แจงเพิ่มเติมว่า ตามใบเกิดเบื้องต้นเราตรวจสอบแล้ว ชื่อพ่อไม่ใช่คนไทย สิ่งที่ครูทำได้ตอนนี้คือติดตามนักเรียน และหาวิธีการช่วยเหลือสนับสนุนแบบใกล้ชิด ทุกอย่างดำเนินตามขั้นตอนกระบวนการตามกฎหมาย