Home บันเทิง กวาดเรียบ! ป.ป.ช.โคราช เอาผิด 18 อดีตนายกฯ เอี่ยวทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง อบต. เทศบาล

กวาดเรียบ! ป.ป.ช.โคราช เอาผิด 18 อดีตนายกฯ เอี่ยวทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง อบต. เทศบาล

1

วันที่ 26 สิงหาคม 2568 ที่ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประจำจังหวัดนครราชสีมา น.ส.สุรีรัตน์ นวลฉิมพลี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานแถลงข่าวผลการดำเนินการของ ป.ป.ป.ประจำจังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2568

มีหลายภาคส่วน อาทิ สำนักงานส่งเสริมกรมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดนครราชสีมา, ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา, กรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดนครราชสีมา, ส.ว.ท.จังหวัดนครราชสีมา, สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา, ชมรม Strong จิตพอเพียงต้านทุจริต, สำนักงาน ป.ป.ท.เขต 3 รวมกว่า 30 คน ร่วมรับฟังการแถลงข่าว

น.ส.สุรีรัตน์ กล่าวว่า ผลงานปี 2568 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่รัฐที่ทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ไปแล้วถึง 43 เรื่อง และได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุดแล้ว 22 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นคดีที่เกิดขึ้นในองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และเทศบาล

สำหรับคดีสำคัญ ที่มีพฤติการณ์ซับซ้อนและสร้างความเสียหายอย่างชัดเจน มีดังนี้

คดีแรก กรณีนางวราภรณ์ ลิมปะพันธุ์ ขณะดำรงตำแหน่งนายก อบต.โตนด อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา มีส่วนได้เสียในโครงการก่อสร้าง 13 โครงการของ อบต. ในปีงบประมาณ 2552 โดยพบว่า หจก.โนนสูงการโยธา ซึ่งนางวราภรณ์ เคยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ได้เข้าเป็นคู่สัญญากับ อบต. ถึง 7 โครงการ

จากการไต่สวนพบหลักฐานว่า หุ้นส่วนผู้จัดการคนปัจจุบันมีอาชีพขายอาหารและไม่มีความรู้ด้านการก่อสร้าง อีกทั้งยังใช้เครื่องจักรจากบริษัทที่ตั้งอยู่ในบ้านของนางวราภรณ์เอง คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติว่านางวราภรณ์ มีความผิดทางอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงานมีส่วนได้เสียในกิจการ และได้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดดำเนินคดี รวมถึงแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัย และให้กรมบัญชีกลางขึ้นบัญชีดำ หจก.ดังกล่าวเป็นผู้ทิ้งงาน

คดีที่สอง ซึ่งสร้างความเสียหายให้รัฐอย่างมาก กรณีนางกองสิน จิตเจริญทิพย์ นายก อบต.บ้านแปรง อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา กับพวก ที่ร่วมกันทุจริตจัดซื้อที่ดินสำหรับก่อสร้างอาคาร อบต. แห่งใหม่ในปี 2556 โดยมีการสร้างหลักฐานเท็จเกี่ยวกับราคาที่ดินในท้องตลาด เพื่อจัดซื้อที่ดินจากน้องชายของผู้เกี่ยวข้องกับนายกฯ ในราคา 7,040,000 บาท หรือไร่ละ 320,000 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาประเมินที่ดินซึ่งอยู่ที่ไร่ละ 140,000 บาทอย่างมีนัยสำคัญ

ป.ป.ช. ได้ชี้มูลความผิดนางกองสินและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต และได้ส่งเรื่องดำเนินคดีอาญาและวินัย พร้อมทั้งแจ้งให้ อบต.บ้านแปรง เรียกร้องค่าเสียหายคืน

คดีที่สาม กรณีของนายเสรี ไชยกิตติ นายกเทศมนตรี ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา กับพวก ทุจริตจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายสนาม 79 รายการ วงเงินกว่า 4.4 ล้านบาท ในปีงบประมาณ 2555 การไต่สวนพบว่ากลุ่มบริษัท 3 แห่งที่ยื่นเสนอราคามีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน ทำให้เสนอราคาใกล้เคียงกันผิดปกติ

นอกจากนี้ยังพบการกำหนดคุณสมบัติและราคากลางในลักษณะที่เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการบางรายอย่างชัดเจน คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดนายเสรีและพวก ในข้อหาทุจริตต่อหน้าที่และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐฯ (พ.ร.บ.ฮั้วประมูล) และได้ส่งฟ้องคดีอาญาและเอาผิดทางวินัยเช่นกัน

ส่วนภาพรวม ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนครราชสีมา ได้ชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่รัฐไปแล้วถึง 43 เรื่อง กรณีที่น่าสนใจส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับผู้บริหารระดับสูงขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 18 ราย ที่ถูกชี้มูลความผิด ประกอบด้วย

1. นายแหลมทอง อดีตนายกเทศมนตรีตำบลโคกสูง

2. นางกองสิน อดีตนายก อบต.บ้านแปรง

3. นายเสรี อดีตนายกเทศมนตรีตำบลจอหอ

4. นายสุรชาติ อดีตนายก อบต.ตะขบ

5. นายเส่ง อดีตนายก อบต.ด่านขุนทด

6. นางสำรวย อดีตนายกเทศมนตรีตำบลบ้านใหม่

7. นายสมบูรณ์ อดีตนายก อบต.ครบุรี

8. นายเสถียร อดีตนายกเทศมนตรีตำบลรังกาใหญ่

9. นายสุเทพ อดีตนายก อบต.กฤษณา

10. นายวิรัช อดีตนายก อบต.เมืองพลับพลา

11. นายประเสริฐ อดีตนายก อบต.ท่าลาด (เสียชีวิตแล้ว)

12. ว่าที่ร้อยตรี ทศพล ปลัดเทศบาลปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์กลาง

13. นายปราโมทย์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลนกออก

14. นายวิรันด์ อดีตนายก อบต.ทับสวาย

15. นายสมบูรณ์ อดีตนายก อบต.บัวลาย

16. นายทศพร อดีตรองนายกเทศมนตรีตำบลโคกสูง

17. น.ส.สุนี อดีตนายกเทศมนตรีตำบลใหม่

18. ร.ต.อ.คมกฤช อดีตนายกเทศมนตรีตำบลปรุใหญ่

19. นางวราภรณ์ อดีตนายก อบต.โตนด

โดยมีพฤติการณ์ทุจริตหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การมีส่วนได้เสียในสัญญา, การจัดซื้อจัดจ้างในราคาที่สูงเกินจริง, การฮั้วประมูล, การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไปจนถึงการเบียดบังทรัพย์สินของทางราชการ

นอกจากนี้ ยังมีการชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานอีกจำนวนมาก ทั้งปลัด, ผู้อำนวยการกอง, และเจ้าหน้าที่พัสดุ ที่มีส่วนร่วมหรือให้การสนับสนุนการกระทำผิด สำหรับมูลค่าความเสียหายที่สามารถประเมินเป็นตัวเลขได้อย่างชัดเจนจากบางคดีนั้น มีมูลค่ารวมกันไม่ต่ำกว่า 23.7 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมความเสียหายในคดีอื่นๆ ที่ยากจะประเมินเป็นตัวเงินได้

น.ส.สุรีรัตน์ ย้ำว่า การชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช.ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหาทุกรายยังคงเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลถึงที่สุด นอกจากภารกิจด้านการปราบปรามแล้ว ในปีงบประมาณ 2568 สำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัดนครราชสีมา ยังได้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าหน้าที่รัฐในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวม 334 แห่ง โดยมีบัญชีที่ต้องยื่นทั้งสิ้น 2,328 บัญชี

จากการตรวจสอบพบผู้ที่จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ จำนวน 1 ราย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนครราชสีมา