เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2568 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุหนุ่มวัย 19 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ขึ้นทางรถไฟโดยเปิด GPS นำทาง แต่เกิดเสียหลักล้ม ร่างไถลเข้าไปใต้ท้องรถกระบะที่กำลังขับสวนมา ถูกล้อรถทับเข้าที่บริเวณลำคอเสียชีวิตคาที่
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณจุดตัดทางรถไฟ หมู่ 7 ตำบลคลองเปรง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พร้อมทีมแพทย์และอาสาสมัครกู้ภัยฉะเชิงเทราเร่งเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบร่างผู้เสียชีวิตคือ นาย ภ. อายุ 19 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ข้างรถกระบะโตโยต้า รีโว้ สีเทา โดยมีนาย อ. อายุ 57 ปี คนขับรถกระบะยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ด้วยอาการตกใจ
อาสาสมัครกู้ภัยฉะเชิงเทรา เล่าว่า เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ชาวบ้านได้ช่วยกันดึงร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากใต้ท้องรถแล้ว เพื่อพยายามช่วยชีวิตด้วยการปั๊มหัวใจ แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ
ด้านคนขับรถกระบะ ให้การว่า ขณะที่ตนกำลังขับรถขึ้นเนินทางรถไฟ ได้มีรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตขี่มาด้วยความเร็วแล้วเกิดเสียหลักล้มลง ทำให้ร่างของผู้ขับขี่ไถลเข้ามาที่ล้อหน้ารถของตนอย่างกะทันหัน แม้จะพยายามเบรกแล้วแต่ก็ไม่ทัน ซึ่งเมื่อลงมาตรวจสอบก็พบว่ารถได้ทับเข้าที่บริเวณคอของผู้เสียชีวิต
นอกจากนี้ผู้โดยสารที่นั่งมากับรถกระบะเล่าว่า หลังจากเกิดเหตุได้พยายามช่วยกันดึงร่างผู้เสียชีวิตออกมาและพบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายตกอยู่บนถนน หน้าจอยังคงเปิดแอปพลิเคชัน GPS ค้างอยู่ จึงรีบใช้โทรศัพท์เครื่องดังกล่าวติดต่อหาญาติของผู้เสียชีวิตเพื่อแจ้งข่าว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้เสียชีวิตอาจไม่คุ้นเคยกับเส้นทาง จึงเปิด GPS นำทาง และในจังหวะที่ขี่รถขึ้นเนินตัดทางรถไฟ อาจก้มลงดูโทรศัพท์ ทำให้รถเสียหลักและเกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ส่งร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรที่โรงพยาบาลพุทธโสธรและจะได้เชิญตัวคนขับรถกระบะไปสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
