Home ต่างประเทศ กลั่นแกล้งหรือแย่กว่านั้น? ปริศนาคดี “ซาร่า” ย้อนไทม์ไลน์ เหตุใดต้องขุดศพเด็กอายุ 13 ขึ้นมา!

กลั่นแกล้งหรือแย่กว่านั้น? ปริศนาคดี “ซาร่า” ย้อนไทม์ไลน์ เหตุใดต้องขุดศพเด็กอายุ 13 ขึ้นมา!

91

เป็นการกลั่นแกล้งหรือแย่กว่านั้น? เปิดไทม์ไลน์ปริศนาคดี ‘ซาร่า’ เหตุใดต้องขุดศพเด็กอายุ 13 ขึ้นมา

คดีการเสียชีวิตของ ซาร่า ไครีนา มหาธีร์ เด็กหญิงวัย 13 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จากโรงเรียนประจำศาสนา Sekolah Menengah Kebangsaan Agama (SMKA) Tun Datu Mustapha ในมาเลเซีย ได้กลายเป็นประเด็นร้อนระดับประเทศ หลังครอบครัวตั้งข้อสงสัยถึงสาเหตุการเสียชีวิต พร้อมกับเรียกร้องให้มีการขุดศพลูกสาวขึ้นมาเพื่อชันสูตรอย่างละเอียด

จาก “อุบัติเหตุ” และการฝังศพโดยไม่มีการชันสูตร สู่คดีลึกลับแห่งปี

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 ช่วงเวลาประมาณตี 3 ถึงตี 4 ซาร่าถูกพบหมดสติอยู่บริเวณรางระบายน้ำใต้หอพักของโรงเรียน โดยมีร่องรอยบาดเจ็บอย่างรุนแรง และถูกส่งตัวรักษาอย่างเร่งด่วนที่โรงพยาบาล Queen Elizabeth I ก่อนเสียชีวิตในวันรุ่งขึ้น รายงานเบื้องต้นระบุว่า เธอ “พลัดตก” จากชั้น 3 ของหอพัก แต่ครอบครัวกลับไม่ปักใจเชื่อในข้อสรุปนั้น และเริ่มเปิดโปงรายละเอียดที่ชวนให้ตั้งคำถาม

ในวันที่ 18 กรกฎาคม ซาร่าถูกนำไปฝังโดยไม่มีการชันสูตรพลิกศพ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความเคลือบแคลง เมื่อแม่ของเธอ นางโนไรดา ลามัด สังเกตเห็นรอยฟกช้ำที่แผ่นหลังของลูกสาวระหว่างพิธี มานดิเจนาซะห์ แต่ไม่ได้รายงานต่อตำรวจในทันที

จากนั้นไม่นาน สื่อสังคมออนไลน์เริ่มแพร่ข่าวลือว่าซาร่าถูกกลั่นแกล้งโดยรุ่นพี่ และมีการพยายามปกปิดจากฝ่ายโรงเรียน รวมถึงโยงไปถึง “บุคคลระดับสูง” สร้างกระแสกดดันอย่างหนัก

เสียงบันทึกและคำขู่ “จุดเปลี่ยนของคดี” เสียงตอบจากภาครัฐ ต่อแรงกดดันจากสังคม

30 กรกฎาคม แม่ของซาร่ายื่นรายงานตำรวจอย่างเป็นทางการครั้งแรก พร้อมแนบคลิปเสียงการสนทนาความยาว 44 วินาที ระหว่างเธอกับลูกสาว ซึ่งเผยให้เห็นการถูกคุกคามอย่างต่อเนื่องจากรุ่นพี่ในโรงเรียน

หนึ่งในนั้นคือเด็กหญิงที่เรียกกันว่า “กัก เอ็ม” (Kak M) ที่มีถ้อยคำขู่ทำร้ายว่า “ถ้าฉันแตะเธอ เธอจะเลือดออก” ทำให้ครอบครัวยืนยันว่าต้องมีการตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง พร้อมเรียกร้องให้ขุดศพเพื่อชันสูตรโดยละเอียด

2 สิงหาคม กระทรวงมหาดไทยระบุว่า ได้ส่งเอกสารสอบสวนเบื้องต้นไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว แต่ไม่มีการพูดถึงเรื่องขุดศพในเวลานั้น

3 สิงหาคม โนไรดาเข้าแจ้งความครั้งที่สอง คราวนี้ระบุชัดเจนถึงร่องรอยฟกช้ำที่หลังของซาร่า และขอให้เปิดคดีใหม่

4 สิงหาคม นายกรัฐมนตรี ดาโต๊ะซรี อันวาร์ อิบราฮิม ออกแถลงการณ์ให้คำมั่นว่า คดีนี้จะต้องได้รับการสืบสวนอย่างโปร่งใส ไม่มีการละเว้นหากมีผู้กระทำผิดจริง พร้อมกับยืนยันว่าจะไม่มีใคร “อยู่เหนือกฎหมาย”

6 สิงหาคม ทนายความของครอบครัวยืนยันความถูกต้องของคลิปเสียง และเรียกร้องให้สังคมหยุดการตั้งข้อสันนิษฐานโดยไม่มีหลักฐาน แต่ควรมุ่งความสนใจไปที่การสอบสวนอย่างเป็นทางการ

“ขุดศพ” ความหวังสุดท้ายของครอบครัว และคำถามที่ยังไร้คำตอบ

8 สิงหาคม สำนักงานอัยการสูงสุดมีคำสั่งให้ขุดศพซาร่าขึ้นเพื่อดำเนินการชันสูตรอย่างเป็นทางการ โดยมีทีมแพทย์นิติเวชและเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมตรวจสอบ

9 สิงหาคม ศพของซาร่าถูกขุดขึ้นจากสุสาน ตันจุงอูบี มัสยิด ในหมู่บ้านเมซาโปล จังหวัดซิปิตัง และในวันรุ่งขึ้นมีการชันสูตรพลิกศพโดยผู้เชี่ยวชาญ

ทนายความของครอบครัวระบุว่า ผลการชันสูตรยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะการสืบสวนยังดำเนินอยู่ และจะเปิดเผยเฉพาะในชั้นศาลหากมีการเปิดไต่สวนโดยอัยการสูงสุด

แม้จะมีความเคลื่อนไหวจากเจ้าหน้าที่ระดับสูง และแรงกดดันจากสื่อสังคม แต่ปริศนาการเสียชีวิตของเด็กหญิงวัย 13 ปีก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน การเสียชีวิตของซาร่าได้จุดประเด็นคำถามที่สำคัญในสังคม

โรงเรียนประจำศาสนามีมาตรการป้องกันการกลั่นแกล้งมากน้อยเพียงใด?

เหตุใดจึงไม่มีการชันสูตรศพในทันที?

ซาร่าจากไปเพราะ “อุบัติเหตุ” หรือเพราะมีใครบางคนตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น?

สังคมยังรอฟังคำตอบ และคำตอบนั้นอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการปฏิรูประบบการศึกษาประจำศาสนาในมาเลเซีย