คดีของ “นานา ไรบีนา” ยังคงทวีความร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในรายการ โหนกระแส วันที่ 4 ธันวาคม 2568 หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ได้นำประเด็นการจับกุมนานามาเปิดเผยเพิ่มเติม หลังถูกตำรวจสอบสวนกลางจับกุมในข้อหาฉ้อโกงและความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน โดยมีความเสียหายเบื้องต้นสูงถึง 195 ล้านบาท และต้องใช้หลักทรัพย์ประกันตัวถึง 50 ล้านบาท แต่หาไม่ทัน ทำให้นานาถูกนำตัวไปฝากขังในชั้นสอบสวน

ทนายสวัสดิ์ เจริญผล ตัวแทนฝ่ายผู้เสียหาย ได้เปิดเผยพฤติการณ์หลายอย่างที่ส่อเจตนาไม่สุจริต โดยหนึ่งในประเด็นสำคัญคือกรณีของ “ข้าวโพด” ผู้เสียหายรายใหญ่ที่ลงทุนไปกว่า 116 ล้านบาท แม้ฝั่งนานาจะอ้างว่าคืนเงินไปแล้วกว่า 71 ล้านบาท แต่ทนายชี้ว่าเป็นลักษณะการนำเงินใหม่มาหมุนจ่ายเหมือนแชร์ลูกโซ่เพื่อให้ผู้ลงทุนตายใจ นอกจากนี้หลักฐานสลิปโอนเงินที่นานาส่งให้ผู้เสียหายยังพบพิรุธหนัก เพราะมี เลขที่อ้างอิง (Reference Number) เหมือนกันทุกใบ ต่างกันเพียงยอดเงินและเวลา ส่อว่ามีการปลอมแปลงเอกสารเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

จุดแตกหักสำคัญอีกประเด็นคือช่วงที่เริ่มมีปัญหาการจ่ายเงินคืน นานาได้เรียกผู้เสียหาย รวมถึงข้าวโพด ไปพบที่บ้านย่านเอกมัย พร้อมอ้างว่าเงินสะดุดเพราะถูกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อายัดบัญชี และนำภาพเอกสารจากโทรศัพท์มาโชว์เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ แต่เมื่อผู้เสียหายตรวจสอบกับ ปปง. โดยตรง กลับพบว่า ไม่เคยมีการอายัดบัญชีของนานาหรือบุคคลใกล้ชิดเลย ทำให้ข้ออ้างทั้งหมดถูกมองว่าเป็นเพียงเรื่องที่สร้างขึ้นเพื่อเลี่ยงไม่จ่ายเงินเท่านั้น
จากข้อมูลดังกล่าวทำเอา “ดีเจบอย ฌาฆฤณ ชุมมิ่ง” อีกหนึ่งเพื่อนสนิทยังไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นจริงๆ



















