จากกรณีวานนี้ (3 ธ.ค.68) จ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. ได้นำหมายค้นของศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าตรวจค้นบ้านพักผู้ต้องหาในหมู่บ้านหรู ซอยเอกมัย เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร และสามารถจับกุม นางไรบีนา บุคคลตามหมายจับได้ พร้อมทั้งได้ตรวจยึดพยานเอกสารและพยานวัตถุ ที่น่าสนใจดังนี้

รายการตรวจยึดที่น่าสนใจ
1.โทรศัพท์ iphone 7 เครื่อง
2.art toy bearbrick และอื่นๆ 11 กล่อง
3.ledger-nano-x (hardware wallet) 1 ชิ้น
4.กระเป๋า hermes berkin 1 ใบ
5.กระเป๋า หิ้ว louis vuitton 1 ใบ
6.จิวเวอรี่ แบรนด์ต่างๆ ประมาณ 50 ชิ้น
7.รถยนต์ mini coper รุ่น aceman สีขาว 1 คัน

นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบการถือครองอสังหาริมทรัพย์ โฉนดที่ดิน จ.อ่างทอง จำนวน 1 แปลง พื้นที่ 64 ตร.วา จ.อ่างทอง และโฉนดที่ดิน กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 แปลง พื้นที่ 87.9 ตร.วา ซึ่งจะได้ดำเนินการตรวจสอบการได้มา และได้นำตัวผู้ต้องหา พร้อมสิ่งของตรวจยึด นำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาเพจดัง “ท่านเปา” ออกมาโพสต์เปิดข้อมูลสำคัญว่า หนึ่งในของกลางที่ตำรวจพบภายในบ้าน “นานา ไรบีนา” คือ Ledger Nano อุปกรณ์เก็บเงินคริปโตที่ขึ้นชื่อว่า “ซ่อนเงินได้เนียนที่สุด” จนหลายคนสงสัยว่าเครื่องเล็ก ๆ เหมือนแฟลชไดรฟ์นี้… สำคัญกับคดีอย่างไร?

Ledger Nano คือ “ตู้เซฟดิจิทัล” ของนักลงทุนคริปโตทั่วโลก
มีลักษณะคล้ายแฟลชไดรฟ์ แต่สามารถเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่าหลักร้อยล้านได้ โดยเงินจะถูกเก็บในกระเป๋าที่ไม่ผูกกับชื่อเจ้าของ และไม่สามารถตรวจสอบเส้นทางได้ง่าย ทำให้การติดตามเงินของผู้เสียหายเป็นเรื่อง “ยากมาก”
อย่างไรก็ตาม หากเงินยังคงถูกเก็บอยู่ใน Ledger นี้ ตำรวจยังมีโอกาส ตรวจสอบเส้นทางเงิน และอาจนำไปสู่การคืนเงินให้ผู้เสียหายได้ แต่ถ้าเงินถูกโอนไปหลายชั้นก่อนถูกจับ โอกาสก็แทบเป็นศูนย์ เพราะคริปโตย้ายข้ามประเทศได้ในไม่กี่วินาที และตามรอยได้ยากสุด ๆ เหมือนกรณี “เจ๊แอน”
จุดสำคัญสุดของคดีอยู่ที่ “รหัส + คำกู้คืน 24 คำ”
Ledger จะเปิดใช้งานได้ก็ต่อเมื่อมีรหัสและ Recovery Phrase 24 คำ ซึ่งเป็นชุดคำลับสำหรับกู้คีย์กระเป๋าเงิน หากผู้ต้องหาไม่ยอมเปิดปากบอกคำเหล่านี้ ต่อให้ตำรวจยึด Ledger ได้ ก็ เปิดไม่ได้ -เสมือน “ยึดตู้เซฟที่ไม่มีกุญแจ”
สรุปคือ คดีนี้จะคืบหน้าหรือไม่ เงินผู้เสียหายจะได้คืนหรือเปล่า ทุกอย่างผูกอยู่กับ “24 คำ” เดียวเท่านั้น

ขอบคุณ ท่านเปา


















