วิศวกรถูกเลิกจ้าง หลังใช้เวลานานในห้องน้ำ 14 ครั้งต่อเดือน ครั้งละ 4 ชั่วโมง อ้าง “ริดสีดวง” แต่ศาลงัดหลักฐานโต้กลับ
เมื่อเร็วๆ นี้ ศาลประชาชนของเขตสวนอุตสาหกรรมซูโจวได้พิจารณาคดีเกี่ยวกับข้อพิพาทแรงงานที่ดึงดูดความสนใจจากสังคม วิศวกรชาวจีนคนหนึ่งชื่อ “หลี่” ทำงานที่บริษัทเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง ถูกกล่าวหาว่าหยุดงานบ่อยครั้งโดยใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำเป็นเวลานาน เขามักจะใช้เวลาถึง 4 ชั่วโมงในห้องน้ำในบางครั้ง และใน 1 เดือนมีถึง 14 ครั้ง จนถูกบริษัทสั่งเลิกจ้างเพราะถูกมองว่าเป็นการขาดงานอย่างรุนแรง
หลี่ไม่เห็นด้วยกับการเลิกจ้างดังกล่าว จึงยื่นคำร้องขอการอนุญาโตตุลาการและฟ้องร้องต่อศาล คดีนี้ได้รับการแก้ไขในที่สุดโดยศาลที่ทำการไกล่เกลี่ย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
หลี่เริ่มทำงานกับบริษัทนี้ในปี 2010 และในปี 2014 ได้เซ็นสัญญาจ้างงานแบบไม่มีกำหนด และในปี 2020 ได้รับคู่มือพนักงานฉบับใหม่ ซึ่งระบุไว้อย่างชัดเจนว่า การหายไปจากที่ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตเกินระยะเวลาที่กำหนดถือเป็นการขาดงาน และหากขาดงานติดต่อกัน 3 วันภายในระยะเวลา 6 เดือน บริษัทสามารถยกเลิกสัญญาจ้างได้ทันที
![]()
เหตุผลที่หลี่ให้การป้องกันตัว
หลี่อ้างว่าเขาต้องอยู่ในห้องน้ำเป็นเวลานานเพราะมีอาการป่วยเป็นโรคริดสีดวงทวาร จึงต้องดูแลตัวเองอย่างเร่งด่วน เขาได้นำหลักฐานจากการซื้อยาและบันทึกการผ่าตัดมาพิสูจน์ แต่ศาลพบว่าเขาไม่ได้รายงานอาการป่วยหรือขอวันลาป่วยจากบริษัทในช่วงเวลาดังกล่าว
การตัดสินของศาล
ศาลพบว่า หลี่ไม่ได้ขอวันลาป่วยจากบริษัท และข้อมูลที่เขาได้ยื่นเป็นหลักฐานนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่เขาถูกเลิกจ้างแล้ว นอกจากนี้บริษัทมีสิทธิ์ในการยกเลิกสัญญาจ้าง เนื่องจากมีการละเมิดกฎระเบียบที่กำหนดไว้ในคู่มือพนักงาน โดยการขาดงานเป็นเวลานานทำให้การทำงานล่าช้าและสร้างความเสียหายต่อบริษัท
ในที่สุด ศาลได้ตัดสินให้หลี่ไม่ได้รับค่าชดเชยจำนวน 320,000 หยวน (ประมาณ 1.42 ล้านบาท) ตามที่เขาฟ้องร้อง และได้เปิดการเจรจาเพื่อหาข้อตกลงที่เป็นธรรม โดยบริษัทได้ตกลงจ่ายค่าชดเชยจำนวน 30,000 หยวน (ประมาณ 133,000 บาท) เป็นเงินช่วยเหลือเพื่อยุติคดี
















