วันที่ 1 ธ.ค.2568 เพจกองทัพภาคที่ 2 ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงถึงกรณีกระแสข่าวการเข้ามายึดพื้นที่บริเวณผาอินทรีย์ จังหวัดบุรีรัมย์ โดยระบุว่า
ชี้แจงต่อสาธารณชนเกี่ยวกับกระแสข่าวที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์กรณีมีกำลังทหารกัมพูชาเข้ามายึดพื้นที่บริเวณ ผาอินทรีย์ อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ โดยขอยืนยันว่าหน่วยงานด้านความมั่นคงที่รับผิดชอบพื้นที่ ได้แก่ ตชด.216 และฝ่ายปกครองอำเภอบ้านกรวด ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในวันนี้ เวลา 10.00 น. โดยใช้รถจักรยานยนต์
ในการเข้าถึงพื้นที่เนื่องจากสภาพเส้นทางไม่สามารถใช้ยานยนต์ขนาดใหญ่ได้ ทั้งนี้ ผาอินทรีย์ตั้งอยู่บริเวณสายตรี 6 ใต้ ตำบลบึงเจริญ อำเภอบ้านกรวด ห่างจากถนนสาย 224 ประมาณ 12 กิโลเมตร และเป็นพื้นที่ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของฐาน ตชด.216 ที่ยุบเลิกไปเมื่อปี พ.ศ. 2533 จึงเป็นพื้นที่ที่ทางราชการมีข้อมูลและประวัติการใช้ประโยชน์มาโดยชัดเจน
จากการตรวจสอบพื้นที่รอบแรกโดยเจ้าหน้าที่ ตชด.216 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ไม่พบหลักฐานหรือข้อบ่งชี้ว่ามีกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐาน ปรับสภาพพื้นที่ หรือก่อสร้างเส้นทางภายในเขตแดนไทยตามที่มีการกล่าวอ้าง ภาพถ่ายดาวเทียมและการสำรวจสภาพ ภูมิประเทศภาคสนามไม่ปรากฏการเคลื่อนกำลังหรือกิจกรรมเชิงยุทธวิธีของฝ่ายกัมพูชาในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้บริเวณโดยรอบยังคงเป็นป่ารกทึบและมีเพียงร่องรอยถนนเก่าที่ไม่ได้ใช้งาน เป็นเวลานาน
จึงสรุปเบื้องต้นได้ว่ายังไม่พบสิ่งบ่งชี้ที่เข้าข่ายการล่วงละเมิดอธิปไตยของไทย หรือเป็นภัยต่อความปลอดภัยของประชาชนที่อาศัยใกล้แนวชายแดนแต่อย่างใด ทั้งนี้ หน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ยังคงปฏิบัติการลาดตระเวนและตรวจสอบต่อเนื่องเพื่อยืนยันสถานการณ์ให้มีความชัดเจนสูงสุด
สำหรับข้อมูลที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ซึ่งอาจก่อให้เกิดความสับสนหรือความ ตื่นตระหนกนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและแหล่งที่มาของข้อมูลอย่างรอบด้านแล้ว เพื่อให้สามารถสื่อสารข้อเท็จจริงที่ถูกต้องแก่ประชาชนได้อย่างทันท่วงที
ทั้งนี้ผลการตรวจสอบในเบื้องต้นยังไม่ปรากฏสิ่งบ่งชี้ที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน หรือภารกิจด้านความมั่นคงชายแดนของฝ่ายไทย
กองทัพภาคที่ 2 ขอความร่วมมือให้ประชาชนติดตามข้อมูลจากหน่วยงานทางการเป็นหลัก และขอยืนยันว่ากองทัพภาคที่ 2 ยังคงปฏิบัติภารกิจในการดูแลพื้นที่ชายแดนด้วยความรอบคอบ เข้มแข็ง และมุ่งมั่นรักษาความสงบเรียบร้อย และความมั่นคงของชาติเป็นสำคัญ























