Home ข่าว ข่าวสังคม ชูวิทย์ ซัดรัฐล้มเหลว ปชช.สิ้นหวัง น้ำท่วมทุกปีแก้ไม่ได้

ชูวิทย์ ซัดรัฐล้มเหลว ปชช.สิ้นหวัง น้ำท่วมทุกปีแก้ไม่ได้

1

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แสดงความเห็นต่อสถานการณ์การเมืองไทย โดยระบุว่า รัฐบาลในปัจจุบันกำลังเดินหน้าไปสู่ภาวะ รัฐล้มเหลว เพราะขาดสิ่งสำคัญคือ คุณธรรม ซึ่งเป็นหลักที่รัฐทุกแห่งต้องมีเพื่อค้ำจุนระบบให้ดำรงอยู่ได้

นายชูวิทย์ตั้งคำถามต่อหลายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศ พร้อมชี้ว่าเมื่อรัฐมีปัญหาลักษณะดังต่อไปนี้ ไม่ควรเรียกว่าเป็น รัฐพัฒนา แต่เป็น รัฐล้มเหลว มากกว่า

เขาเริ่มจากกรณีเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ที่มีผู้หญิงเข้าไปให้บริการนักโทษถึงภายในเรือนจำ แต่รัฐกลับทำเพียงให้รัฐมนตรีและอธิบดีลงพื้นที่ตรวจ และย้ายผู้คุมโดยไม่เกิดความเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง ทั้งยังสะท้อนอิทธิพล ทุนสีเทา ที่ยังคงมีอำนาจเหนือระบบ

อีกปัญหาที่กล่าวถึงคือการซื้อขายตำแหน่งภายในสำนักงานตำรวจ ผู้ที่ต้องการเติบโตในสายงานกลับต้องขายทรัพย์สินหรือกู้เงินเพื่อซื้อตำแหน่ง ขณะที่กลุ่มผู้แสวงหาผลประโยชน์อย่าง คุณหญิงกำมะลอ ก็ถูกกล่าวหาว่าเดินสายขายตำแหน่งโดยไม่มีใครถูกลงโทษ

แม้มีกฎหมายและคณะกรรมการต่าง ๆ ภายใต้ชื่อที่อ้างถึง คุณธรรม แต่นายชูวิทย์ชี้ว่ากลับไม่ช่วยให้ตำรวจที่ตั้งใจทำงานเติบโตได้ ตรงกันข้ามตำแหน่งกลับตกอยู่ในมือของผู้ที่สามารถจ่ายเงินแทน

เขายังกล่าวถึงปัญหาทางการเมือง เช่น กรณีฝ่ายค้านยกคะแนนเสียงให้รัฐบาลเพื่อผลักดันการแก้กติกาการเลือกตั้ง พรรคการเมืองที่ไร้อุดมการณ์และมีเพียงเป้าหมายดึง ส.ส. จากกลุ่มต่าง ๆ เพื่อสร้างอำนาจรัฐ รวมถึงการแถลงข่าวจับมือชั่วคราวก่อนกลับมาขัดแย้งกันเองเมื่อถึงเวลาจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งนายชูวิทย์วิจารณ์ว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่ก่อประโยชน์ให้ประเทศ แม้มักอ้างว่าทำเพื่อชาติ

เขายังตั้งคำถามต่อความเป็นอิสระขององค์กรอิสระ ที่สุดท้ายก็ถูกชี้นำโดยอำนาจที่มองไม่เห็น โดยเฉพาะบทบาทของ ส.ว. ที่สามารถ ยกมือ ชี้ชะตาคุณสมบัติของบุคคลต่าง ๆ ได้ จึงสงสัยว่า อิสระ จริงหรือไม่

ในส่วนของปัญหาน้ำท่วม นายชูวิทย์วิจารณ์ว่าประเทศไทยประสบปัญหาแบบเดิมซ้ำทุกปี แม้จะใช้งบประมาณด้านการบริหารจัดการน้ำมหาศาลต่อเนื่องกว่า 30 ปี แต่สิ่งที่ประชาชนได้รับเมื่อเกิดน้ำท่วมมีเพียง ถุงยังชี” ซึ่งไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ

นอกจากนี้ยังกล่าวถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น โครงการคนละครึ่ง ที่มองว่าเป็นมาตรการระยะสั้นเพื่อหวังคะแนนเสียงเลือกตั้ง แต่เมื่อเกิดวิกฤตจริงอย่างน้ำท่วม กลับไม่สามารถบริหารจัดการได้ และต้องรอรัฐบาลชุดใหม่ประชาชนจึงต้องเผชิญความยากลำบากอย่างไร้ความหวัง

ท้ายที่สุด นายชูวิทย์สรุปว่า หลายเหตุการณ์สะท้อนว่าประเทศไทยกำลังอยู่ในภาวะ รัฐล้มเหลว และเชิญชวนประชาชนแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า ยังมีสิ่งใดอีกบ้างที่ ไม่เหมือนรัฐพัฒนาแล้ว เพื่อร่วมกันตั้งคำถามและสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมไทย