กลายเป็นประเด็นที่สร้างความเสื่อมเสียให้กับภาพลักษณ์นักท่องเที่ยวไทยในระดับสากล เมื่อ “แจ็กแปปโฮ” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง ได้สร้างวีรกรรมฉาวด้วยการ ปีนขึ้นไปเต้นบนหลังคารถยนต์ บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อที่ขึ้นชื่อเรื่องวิวภูเขาไฟฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต้องต่อคิว

คลิปวิดีโอการกระทำที่ไม่เหมาะสมดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่และถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ จนสร้างความไม่พอใจให้กับชาวไทยส่วนใหญ่อย่างรุนแรง เนื่องจากหวั่นเกรงว่าการกระทำที่ขาดจิตสำนึกนี้จะ “กระทบภาพลักษณ์นักท่องเที่ยวไทย” ในสายตาของชาวญี่ปุ่นและทั่วโลก
สิ่งที่ตอกย้ำความไม่พอใจของสังคมไทยคือการรวมตัวกันของชาวเน็ต แห่เข้าไปคอมเมนต์ในเพจเฟซบุ๊ก Embassy of Japan in Thailand/สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เพื่อเรียกร้องให้มีการจัดการกับยูทูบเบอร์คนดังกล่าวอย่างเด็ดขาด โดยคอมเมนต์ส่วนใหญ่มีเนื้อหาที่รุนแรงและชัดเจน
เรียกร้องให้ตำรวจหรือ ต.ม. ญี่ปุ่นดำเนินคดีถึงที่สุด เสนอให้สถานทูตญี่ปุ่น “แบนการเข้าประเทศญี่ปุ่นตลอดชีวิต” กับบุคคลที่ทำให้ประเทศไทยเสียชื่อเสียง
ขณะเดียวกัน ก็มีชาวไทยจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาร่วมแสดงความเสียใจและขอโทษแทนยูทูบเบอร์รายนี้ โดยระบุว่า “การกระทำนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ที่คนส่วนใหญ่ของประเทศไทยไม่เห็นด้วย” และแสดงความชื่นชมในความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ

กระทบคนไทยในญี่ปุ่นแค่ไหน?
ประเด็นดราม่านี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่การวิจารณ์ยูทูบเบอร์ แต่ได้ลุกลามไปสู่ความกังวลในวงกว้าง โดยเฉพาะในกลุ่มคนไทยที่พำนักอาศัยและทำงานในญี่ปุ่น:
ภาพลักษณ์นักท่องเที่ยวไทย: ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวระบุว่า การกระทำที่ไร้มารยาทและละเลยกฎระเบียบเช่นนี้ จะถูกจดจำและสร้างความรู้สึกเชิงลบต่อ “ภาพรวม” ของนักท่องเที่ยวจากประเทศไทย ซึ่งอาจส่งผลให้ชาวญี่ปุ่นบางส่วนเกิดทัศนคติที่เฝ้าระวังหรือเข้มงวดกับคนไทยมากขึ้น ความเข้มงวดของ ตม. ญี่ปุ่น: แม้การกระทำนี้จะยังไม่มีรายงานการดำเนินคดีอาญาอย่างเป็นทางการ แต่การกระทำที่สร้างความเดือดร้อนต่อสาธารณะในพื้นที่ไวต่อกฎระเบียบของญี่ปุ่น อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยให้ ตม. ญี่ปุ่นพิจารณาถึงความเหมาะสมในการเข้าประเทศในครั้งต่อไป ซึ่งหากมีการขึ้นบัญชีดำจริง ก็จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเจ้าตัวและเป็นกรณีศึกษาที่รุนแรง ผลกระทบต่อคนไทยอาศัยในญี่ปุ่น: คนไทยที่ทำตามกฎหมายและพำนักอยู่ในญี่ปุ่นอย่างถูกต้องตามกฎหมาย อาจได้รับผลกระทบทางอ้อม จากการที่หน่วยงานท้องถิ่นอาจเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบการดำเนินการของคนไทยในพื้นที่สาธารณะ เพื่อป้องกันพฤติกรรมเลียนแบบ
เหตุการณ์นี้จึงเป็นบทเรียนครั้งสำคัญที่สะท้อนให้เห็นว่า พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเพียงคนเดียว สามารถสร้างผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของคนทั้งชาติได้ในยุคที่ข้อมูลแพร่กระจายอย่างรวดเร็วบนโลกออนไลน์




















