สองสามีภรรยาคนบันเทิง อย่าง มิค บรมวุฒิ และเบนซ์ พรชิตา ที่วันนี้จะมาอัปเดตความคืบหน้าหลังโดนข้อหาในความผิดโฆษณาเกินจริง พร้อมเปิดใจปัญหาหลังจากนั้นทำให้มิคคิดจะบวชแบบไม่มีกำหนดสึก อีกทั้งยังเปิดเรื่องพีค ทั้งคู่เดินสายมูเตลูไหว้พระ จนพ้นเคราะห์ พ้นโศก ผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One31
ไปขึ้นศาลมาเป็นยังไงบ้าง?
มิค “ถ้าเรื่องขึ้นศาลเราจ่ายค่าปรับแล้วเรียบร้อย ถ้าพูดภาษาชาวบ้านได้ถูกลงโทษตามระบบ ก็คือโดนปรับจากคดีที่เราพูดโฆษณาเกินจริง แต่ศาลท่านน่ารักมาก ท่านบอกว่าดูพวกคุณมาตลอด เพราะพวกคุณมีรายการสด พวกคุณไม่ได้พูดเกินจริง พูดตามจริง แต่คุณแค่พูดเกินที่กฎหมายกำหนด” แสดงว่าสิ่งที่ทำไปมันไม่ได้ผิดหรอก แต่ข้อกฎหมายมันกำหนดไว้แบบนี้ ซึ่งเราเองอาจจะไม่ได้รู้ข้อกฎหมายทั้งหมด?
มิค “ใช่ ใครที่อยู่ในวงการขายของ ต้องศึกษาให้ถูกต้อง เพราะเราอยู่บ้านเมืองที่มีกฎ กติกา ดังนั้นการที่พูดเกินไป ทำปุ๊บแล้วจะเกิดแบบนี้เลย อันนี้คือพูดไม่ได้ คือมันต้องศึกษาสิ่งที่ห้ามพูด แล้วไม่พูดเลย มันง่ายที่สุด อย่าเลี่ยงเลย”
ตอนนี้ทุกคนเป็นแม่ค้าขายของกันทั้งหมด มันก็เสี่ยงกันทุกคน ไม่ต้องเป็นดาราหรอก?แล้วเขาจะไปรู้ได้ยังไงว่าอันไหนคือคำพูดที่ห้าม?
มิค “มิคเพิ่งไปประชุมกับทาง อย. มา ทาง อย. จะมีคลิปออกมาเรื่อยๆ มีการสัมมนาเรื่อยๆ ซึ่งมิคเพิ่งเสนอเขาไปว่าจัดเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ก็ดี เพราะเชื่อว่าหลายคนอยากจะมาเรียนรู้ สิ่งที่ถูกต้องว่าเราพูดได้ขนาดไหน เชื่อว่าไม่มีใครอยากทำผิดกฎหรอก แต่แค่ไม่รู้ แค่นั้นเอง” แล้วเรื่องนี้อยู่ในขั้นตอนไหนหรือว่าจบแล้ว?
มิค “เราถูกรอลงอาญาครับ 1 ปี คือห้ามทำความผิดเดิมภายใน 1 ปี ถ้าทำอีกมีสิทธิ์ติดคุก 6 เดือน เพราะการพูดโฆษณาเกินจริงเป็นคดีอาญาไม่ใช่คดีแพ่ง”
เรียกว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตวงการบันเทิงที่เป็นเรื่องหนัก ทุกคนเปลี่ยนไป โดยเฉพาะเบนซ์เปลี่ยนไปเยอะมาก หลายคนที่ทำงานด้วยเป็นห่วง?
เบนซ์ “เบนซ์เป็นคนไม่พูดอยู่แล้ว ถ้ามีอะไรก็เลือกที่จะเงียบ เวลาอธิบายก็กลัวว่าจะอธิบายไม่ตรงกับความรู้สึกที่เราคิด และบรรยากาศในบ้านยิ่งหนักเข้าไปอีก พอมันมีปัญหาถ้าได้คุยได้พูด มันก็จะดีขึ้น แต่เผอิญความที่เบนซ์เป็นคนไม่พูดอยู่แล้ว พอยิ่งมีปัญหาก็ยิ่งเงียบเข้าไปอีก”
มันเลยทำให้บรรยากาศในบ้านดูอึมครึมเข้าไปอีก พี่มิคเองก็เครียด?
มิค “เครียดครับ ผมจะเป็นคนรับเรื่องทุกฝ่ายอยู่แล้ว แล้วกลับมา บางเรื่องรู้ว่าเขาน่าจะอ่อนไหวกว่าเรา พอเขารู้อะไรบางอย่าง บรรยากาศในบ้านมันเละพังไปหมด ลูกทำอะไรนิดหน่อยก็ด่าเขา ซึ่งปกติไม่เคยดุ เราเลยเลือกที่จะแบกเรื่องใหญ่ๆ ไว้ทั้งหมด อันนี้อยู่ในจุดที่รู้ในเรื่องที่จำเป็นต้องรู้”
พอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น คนใกล้ตัวที่เราเห็นชัดมันยังไง? เบนซ์ “คือบรรยากาศในบ้านไม่โอเคเลย มันเหมือนเราจะทะเลาะกันตลอดเวลาทั้งที่ไม่ได้คุยกัน แล้วมันจะไปถึงลูกๆ ด้วยนะ เพราะจากที่แม่ชอบแกล้ง ชอบแหย่ กับพ่อที่คอยเล่นกัน มันก็จะเงียบ”
แล้วปัญหาชีวิตคู่ล่ะ?
มิค “หนักเลย”
เบนซ์ “จากที่ดีขึ้นมาแล้วนะ”
มิค “ทุกคนจะรู้ 8 ปี ที่มีปริม เขาเอาแต่ลูก เขาไม่สนใจผม แล้วพอเขามั่นใจในตัวเขามากขึ้น ชีวิตคู่เริ่มดี”
พอเบนซ์มีลูก เบนซ์อ้วนขึ้นเลยไม่มั่นใจ?
เบนซ์ “เสียเซลฟ์”
พอเบนซ์กลับมาดูแลตัวเอง เริ่มมีงาน ชีวิตคู่ก็เริ่มดีขึ้น?
มิค “ดีอยู่ประมาณ 4-5 เดือน พอมีเรื่องนี้ 6 เดือนที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ แต่เพิ่งจะกลับมาดี”
เบนซ์ “มันก็ดีบ้าง แต่ใจไม่ได้ บรรยากาศมันไม่รู้อธิบายไม่ถูก เป็นคนแบบว่าชีวิตถ้ามีอะไรนิดนึงจะไม่ได้เลย”
พี่มิคพยายามสะกิด แต่พี่ก็เมินเฉย?
เบนซ์ “สงสารอะ คือเบนซ์เอาลูกนอน”
มิค “คือสะกิดก็แล้ว แต่มีช่วงนึงโอเคๆ คืนนี้มาเจอ อะหลับใส่ แต่แค่เขาพูดว่าเดี๋ยวคืนนี้ ออกมาเจอ เราก็ดีใจแล้ว เพราะเริ่มมีการตอบสนอง แต่หลังๆ มาเริ่มมีการผลัดไปเรื่อยๆ เป็นอย่างนี้ประมาณ 4-5 วันติด จนเราเอ๊ะ เริ่มหาข้ออ้างทุกคืนหรือเปล่า เพราะมีปัญหาทุกวัน ผมเป็นคนตรง มาถึงคืนนี้นะ เขาบอกยุ่งอยู่ไม่สะดวก”
เบนซ์ “หนูทำหน้าเฉยๆ ใส่ แต่บางทีก็ไม่มองหน้าด้วย”
มิค “จนผมรู้สึกเขารังเกียจผมหรือเปล่า ที่สำคัญเพื่อนบอกว่าก็ออกนอกบ้านสิ แต่ประเด็นคือไม่ชอบออกนอกบ้าน”
เบนซ์ไม่กลัวหรอ ปฏิเสธไปเรื่อยๆ แล้วเขาออกไปนอกบ้านจริงๆ?
เบนซ์ “เอาจริงๆ ก็กลัวนะ แต่เบนซ์ก็เชื่อในตัวเขา แกต้องเป็นคนดีสิอ้วน”
มิค “ฉันเป็นคนดี แต่เธอต้องเลิกคิดแบบนี้ ไม่ใช่รู้ว่าเราไม่ไปไหน แล้วปล่อยผ่าน แต่ตอนนี้เริ่มดีขึ้นมาหน่อย”
มันเป็นความเครียด?
เบนซ์ “ใช่”
ชื่นชมคู่นี้นะ ต่อให้มีความเครียด บางคู่ชีวิตคู่พัง เพราะใช้ความเครียดเป็นข้ออ้างในการทำสิ่งที่ไม่ควรทำ แต่กรณีนี้เขายังอยู่ โดยเฉพาะพี่มิค ต้องชื่นชม?
เบนซ์ “ขอบคุณเขาหลายรอบมากเลยนะ”
มิค “ให้เขาเปลี่ยนคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้ไหม”
เบนซ์ “ไปเคลียร์กันที่บ้าน พอคุยกันไม่รู้เรื่อง เอะอะฟ้องผู้ชม เอาจริงๆ ที่เราเครียดๆ กัน มันก็มีจังหวะไปทริปกับทางคุยแซ่บ เราไปหลายทริปติดกัน ทั้งพม่า ลาว การที่เราไปไหว้ มันเหมือนทำให้รู้สึกดีขึ้น”
มิค “ทริปแรกที่ไปพม่ากับคุยแซ่บ นั่นคือหลังทันทีที่เพิ่งเกิดเรื่องเลย”
มิน่าหลังๆ เห็นเบนซ์-มิค เดินสายทำบุญ มูเยอะมาก ทั้งลาว พม่า ต่างจังหวัดทุกที่ที่ไหนเขาว่าดีไปหมด เพราะอะไร?
มิค “มันเหมือนกับเราไม่รู้จะหันไปทางไหน”
มันคือที่พึ่งทางใจ?
เบนซ์ “ใช่”
มิค “แล้วเราไม่ได้อยากให้ครอบครัวแตกแยก แต่สิ่งที่ยึดเหนี่ยวเราได้คือไปทำบุญกันไหม พอไปทำบุญมันรู้สึกเติมเต็ม มีความสุขที่ได้ให้คนอื่น ไปสร้างนู้น สร้างนี่ สร้างนั้น การชวนไปทำบุญมันกลายเป็นกิจกรรมที่เราไม่ง๊องแง๊งใส่กันเลย แค่พูดปุ๊บไปไหม ไปเลย”
ระหว่างไปทำบุญ ทำไมมีเหตุการณ์ที่พี่มิคอยากบวชไม่สึก อันนี้จริงไหม?
มิค “จริง”
เบนซ์ “เบนซ์เพิ่งรู้”
มิค “เพราะผมไม่ได้บอกเขา”
มันเกิดอะไรขึ้น?
มิค “ผมแค่รู้สึกว่าสมมติในบ้านมันไม่เหลือกิเลสอะไรแล้ว ทุกอย่างปล่อยวางได้ เราก็นั่งคิดอยู่บ้านบางช่วง ช่วงที่แรงๆ หน่อย มันไม่ค่อยมีความสุข แล้วที่ไหนที่เรามีความสุข คิดไป คิดมา ทำไมเข้าวัดแล้วมีความสุขทุกครั้งเลย ก็เลยแอบคิดว่าอยากจะบวช”
แต่มีคนเคยดูดวงพี่มิคว่าถ้าพี่บวชแล้วศึกษาจริงจัง พี่จะไม่สึก?
มิค “ใช่ ก็คิดอยู่ว่าหรือมันจะถึงเวลาแล้ว”
เบนซ์ “ยังๆ หันมามองหน้า ลูก 3 คน”
มิค “เรื่องที่แปลกที่สุด มันมีความน้อยใจลูกๆ บ้าง เช่น เราเป็นคนออกไปทำงาน เบนซ์อยู่กับลูก พอเรากลับมาบ้านเบนซ์จะใช้เราเป็นเครื่องมือ ทำเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นพ่อดุนะ ให้พ่อจัดการนะ แทนที่จะให้พ่อเป็นที่รักของลูก แต่กลายเป็นเราคือตัวขู่ เบนซ์บอกพี่ดุลูกเลย พอเราดุเสร็จ แม่โอ๋ เราก็อ่าว แล้วลูกมันจะรักเรายังไง
เราไม่อยากได้ภาพแบบนี้ให้ลูกจำ มันสะสมมาสักพักใหญ่แล้ว สุดท้ายผมลองถามผู้จัดการผม ถ้ามิคจะบวชโอเคไหม อยู่ดีๆ นางก็ตอบ เพราะปกติ 2-3 ทุ่มนางหลับแล้ว นางก็ตอบว่านานไหม ได้สิ เดี๋ยวเคลียร์คิวให้ ยังไม่รู้ครับ อย่างน้อยสัก 6 เดือนหรือ 1 ปี พี่เขาเลยถามเกิดอะไรขึ้น มายาวเลยทีนี้”
เบนซ์ “เบนซ์ไม่รู้เรื่องเลย”
มิค “มิคบอกเอาอย่างนี้ มิคขอตัดสินใจเอง แต่ผมคิดไว้ในใจ ล่าสุดเพิ่งไปทำกฐิน ที่พิษณุโลก ผมคิดว่าผมอยากไปอยู่ที่นั่น เพราะผมไม่อยากอยู่กรุงเทพ”
หมายถึงจะไม่บอกใคร?
มิค “ใช่ ไม่ต้องมาใส่บาตรทุกวันด้วย”
เบนซ์ “นี่ไม่รู้เรื่องเลย อยู่กับพระอาจารย์นั่นแหละ ก็ถามพระอาจารย์เลย”
มิค “พระอาจารย์ครับ ผมมาบวชที่นี่ดีไหมครับ พูดแค่นี้นะ ปกติทั่วไปพระจะพูดว่ามาสิโยม ดีแล้วมาศึกษาพระธรรม แต่หลวงพ่อพูดว่า ไปเลี้ยงลูกให้โตก่อน ยังไม่ถึงเวลา มันเป็นปมในใจที่เราคิดเสมอว่าถ้าเราไปแล้วลูกๆ ทำยังไง ก็เลยพับเก็บไว้ ถ้าทุกอย่างมันเข้าที่ก็ไม่รู้”
เบนซ์ “จริงๆ เบนซ์เคยคิดว่าอยากให้เขาบวชเหมือนกันนะ แต่ไม่ได้ให้บวชไปเลย แค่รู้สึกว่ายังไม่เห็นเขาบวช แค่รู้สึกว่าบวชก็ดีนะ บางครั้งที่มีปัญหาเครียดๆ หลายอย่าง เขาจะได้พักบ้าง แต่ไม่ได้คิด อยู่ดีๆ ก็พูดขึ้นมาเลย”
ถ้าเกิดเขาไปบวชจริง จะทำยังไง?
เบนซ์ “ดึงไว้ก่อนค่ะ อย่าเพิ่งไป ลูก 3 เลี้ยงก่อนนะพ่อ”
มันเป็นความน้อยใจไง?
เบนซ์ “ต้องคุยๆ แต่พี่มิคดีอยู่อย่างนึงเขาไม่ใช่คนดื้อ หมายความว่าถ้าคุยกับเขาดีๆ แล้วฟังเขา”
พี่มิคเป็นคนขี้งอน?
เบนซ์ “ใช่ แต่เขาจะเป็นแบบนิดๆ ซึ่งเขาไม่รู้ตัวว่าเขาเป็นนะ ถ้าคุยดีๆ กับเขาได้ คนนี้เขาไม่ไปไหนหรอก แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ไม่คุยแล้วเอาแต่ตัวเราก่อน คือเรียบร้อย คืออะไรก็ได้ที่เห็นเขา สมมติทั้งวันเบนซ์เป็นคนไม่โทรศัพท์ ไม่ตาม ไม่ถามว่าทำอะไรอยู่ ถ้าวันไหนเบนซ์โทรถามเขาจะดีใจมาก วันนี้เมียคิดถึง”
เคสนี้พี่มิคแปลก?
มิค “จริงเหรอ”
เบนซ์ “ดูเงียบๆ ใช่ไหม”
มิค “เชื่อไหม เพื่อนรักผมกลับมาจากต่างประเทศ วันที่มันจะกลับ มันบอกขอพูดอะไรนิดเดียว มึงเปลี่ยนไป จนผมต้องไปถามคนรถผมว่าผมเปลี่ยนไปไหม เขาบอกเปลี่ยนครับ โดยที่ผมเองก็ไม่รู้ตัว ปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น มันกลายเป็นผมนิ่งขึ้น แล้วผมไม่ได้สนุกสนานเท่าเดิม โดยที่ไม่รู้ตัว ซึ่งผมก็ยังงง”
คอมเมนต์ที่มาเมนต์ด่าที่แบกไว้ กับตัวเองหรือเปล่า?
เบนซ์ “เขาไม่ได้ซีเรียสเรื่องคอมเมนต์หรอก แต่คนนี้เวลามีปัญหา หรือเวลาเขาเคืองใคร หรือไม่สบายใจ ไม่มีวันหลุดไปจากตัวเขาเลย มันจะฝังอยู่ข้างใน”
ขิงก็รา ข่าก็แรง เบนซ์ก็ไม่ธรรมดา ไม่เอาคำมาประโลม?
มิค “คือถ้าแบบนี้หายทันที นางรู้จักผมดี แต่นางก็ไม่ทำ”
เบนซ์ “ถ้าคนเยอะๆ จะไม่รอด”
มิค “แต่ว่าตอนนี้ดีขึ้นแล้ว คือนี่เราพูดถึงช่วงที่รุมเร้า แต่ตอนนี้มันดีขึ้นแล้ว”
คืนนี้พี่ลองกลับไปทำดูนะ ก่อนจะอะไรใดๆ พี่ช่วยละมุนๆ แล้วมองตาเขาแล้วถามว่ารักผมไหม?
เบนซ์ “ไม่น่าได้ ใช้ไม่ได้กับหนู ไม่ได้เลย”
มิค “ครับ”
เบนซ์ “หนูเป็นคนหวานไม่รอดเลย”
เขาทำทุกวิถีทางแล้ว ถึงขั้นคิดว่าวางยานอนหลับ?
มิค “อาจารย์บอกว่าไม่ต้องห่วง เดี๋ยวอาจารย์จะเอาลูกๆ ไปเลี้ยงให้ แล้วเราก็ปล้ำเลย”
จริงๆ เอา 3 แสบมาทิ้งไว้บ้านพี่ก็ได้?
มิค “คำถามคือเขาลืมหรือเปล่าว่าเราลูก 3 ผมเอาลูกไปบ้านพี่ แต่ขอยืมห้องด้วยได้ไหม”
เบนซ์ “มันไม่ขนาดนั้น จะพยายาม”
มิค “ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว”
อันนี้มิคต้องเข้าใจ ผู้หญิงถ้าสูญเสียความมั่นใจในรูปร่าง เขาเคยเป็นคนที่สวยมาก เป๊ะมาก แล้ววันนึงเขาก็พลีชีพเพื่อลูกพี่ทั้ง 3 คน แต่วันนี้เขากลับมาแซ่บแล้ว?
เบนซ์ “จริงๆ มันเป็นเรื่องยากนะที่ทำให้ตัวเองกลับมาดูแลตัวเอง แต่จริงๆ ตอนนี้จะเรียกว่า พรชิตาคัมแบ็คก็ได้นะ หลายคนบอกภาพที่เขาแสดงละครมันดูสวยงาม แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว เบนซ์เชื่อว่าคุณแม่ที่มีลูกหลายคน แล้วสนใจลูกมันจะลืมตัวเองไปเลย”