วันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยกรณีที่ทางการกัมพูชาและสื่อกัมพูชานำเสนอข้อมูลบิดเบือนต่อสาธารณะ จัดฉากสร้างภาพอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะประเด็นล่าสุดที่อ้างว่าทหารไทยยิงใส่พลเรือนบริเวณหมู่บ้านเปรยจัน จังหวัดบันเตียเมียนเจย เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง
โฆษกกองทัพบกตั้งข้อสังเกตหลายประการเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ดังนี้
1. กรณีร่างประชาชนกัมพูชาที่กล่าวอ้างว่าถูกยิงเสียชีวิตจากเหตุการณ์การปะทะ และได้ฌาปนกิจเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 ถือเป็นการกระทำที่ผิดวิสัย เนื่องจากเป็นการเสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติ แต่ควรมีการชันสูตรพลิกศพก่อน การกระทำดังกล่าวเหมือนจงใจปกปิดหลักฐานและบิดเบือนข้อมูล
2. ในเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หากกัมพูชาต้องการเรียกร้องความสนใจต่อสังคมโลกหรือกล่าวโทษฝ่ายไทย มักเปิดเผยหลักฐานและประโคมข่าวใหญ่โต แต่กรณีร่างผู้เสียชีวิตดังกล่าวกลับไม่กระทำ ทั้งที่มีคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) ลงพื้นที่ตรวจสอบหลักฐานในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 จากข้อสังเกตนี้อาจเป็นไปได้ว่า ไม่มีผู้เสียชีวิตจริงหรือไม่ใช่ผู้เสียชีวิตจากการปะทะตามที่กัมพูชากล่าวอ้าง
3. ทางการกัมพูชาควรชี้แจงประเด็นคลิปวิดีโอสัมภาษณ์ของผู้อำนวยการโรงพยาบาลสาธารณสุขจังหวัดบันเตียเมียนเจย ขณะต้อนรับคณะ AOT เข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บ และระบุว่า จากเหตุการณ์ปะทะที่ผ่านมา มีผู้บาดเจ็บจำนวน 3 คน และไม่มีผู้เสียชีวิต ขอให้สื่อได้นำเสนอข่าวที่ถูกต้องต่อสังคม ซึ่งขัดแย้งกับการนำเสนอข่าวของทางการกัมพูชาอย่างชัดเจน
4. จากการสังเกตภาพผู้บาดเจ็บและการนำส่งโรงพยาบาล พบว่าไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง บาดแผลที่เกิดจากอาวุธปืนทางทหารในระยะ 500 – 800 เมตร จะต้องรุนแรงและฉกรรจ์กว่าภาพที่ปรากฏ ขณะที่ผู้บาดเจ็บในโรงพยาบาลมีรอยยิ้มและอาการไม่เหมือนถูกยิงจากอาวุธปืน
โฆษกกองทัพบกระบุว่า ข้อเท็จจริงข้างต้นยืนยันว่ากัมพูชาพยายามสร้างสถานการณ์ จัดฉากและสร้างภาพละครบทเหยื่อจากฝ่ายไทย ทั้งที่จริงแล้วเป็นฝ่ายกัมพูชาเริ่มละเมิดปฏิญญาร่วมไทย-กัมพูชาและให้ข้อมูลบิดเบือนต่อสาธารณะอย่างต่อเนื่อง กองทัพบกขอให้กัมพูชาหยุดการกระทำที่จะสร้างความขัดแย้งและความเป็นปรปักษ์ในพื้นที่ชายแดนเพิ่มขึ้น
พร้อมยืนยันภารกิจของกองทัพบกที่มีความพร้อมในการพิทักษ์อธิปไตยและดูแลความปลอดภัยประชาชนอย่างเต็มกำลังหน่วยส่วนกลางและกองกำลังป้องกันชายแดนติดตามเฝ้าระวังความเคลื่อนไหวและเหตุการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด หากพบความผิดปกติหรือภัยคุกคามด้านความมั่นคง กองทัพบกพร้อมดำเนินการตามสิทธิ์ในการป้องกันตนเองตามมาตรา 51 แห่งกฎบัตรสหประชาชาติทันที
