Home ข่าว ข่าวสังคม นักศึกษา ม.ดัง เสียรู้เพื่อน ถูกอายัดบัญชี ไร้เงินจ่ายค่าหอ นอนใต้ตึกคณะ

นักศึกษา ม.ดัง เสียรู้เพื่อน ถูกอายัดบัญชี ไร้เงินจ่ายค่าหอ นอนใต้ตึกคณะ

16

นักศึกษา มหาวิทยาลัยดัง เสียรู้เพื่อน ถูกอายัดบัญชี ไม่มีเงินจ่ายค่าหอ เงิน กยศ.เข้ามาก็นำออกมาใช้ไม่ได้ ต้องนอนใต้ตึกคณะ หลังให้เลขบัญชีไปขายของออนไลน์

วันที่ 14 พ.ย.2568 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ นายทองแท้ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี หลังได้รับการร้องเรียนว่า โดนเพื่อนนักศึกษาชาวเวียดนาม ยืมบัญชีธนาคารไปขายของออนไลน์ แล้วบัญชีโดนอายัด ทำให้นำเงิน กยศ. ที่โอนเข้ามาแล้วนำออกมาใช้ไม่ได้

เพื่อนคนดังกล่าวก็หายหน้าไป พอโทรติดต่อไปยังพนักงานสอบสวนที่อายัดบัญชีที่ สภ.ปากเกร็ด ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้มาขอความช่วยเหลือจากตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ให้โทรติดต่อให้ก็ไม่ได้รับการแก้ไข ตนเดือดร้อนเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าหอพัก ต้องโดนไล่ออกจากหอพัก มานอนใต้ตึกคณะในมหาวิทยาลัย เพราะไม่มีที่ไป และไม่มีเงิน

นักศึกษา มหาวิทยาลัยดัง เสียรู้เพื่อน ถูกอายัดบัญชี ไม่มีเงินจ่ายค่าหอ เงิน กยศ.เข้ามาก็นำออกมาใช้ไม่ได้ ต้องนอนใต้ตึกคณะ หลังให้เลขบัญชีไปขายของออนไลน์

นายทองแท้ กล่าวว่า ตนเป็นชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ อาศัยอยู่กับยาย เพราะพ่อแม่แยกทางกัน ต่างคนก็ไปมีครอบครัวใหม่ ยายเลี้ยงดูและส่งเสียให้ตนเรียนด้วยเงินคนชรา พอเรียนจบ ม.6 ตนได้กู้ยืมเงิน กยศ.เรียนต่อมหาวิทยาลัยดังกล่าว

นอกจากเงินค่าเทอมแล้ว ก็มีเงินค่าใช้จ่ายเดือนละ 3,000 บาท ซึ่งจ่ายค่าหอพักเดือนละ 2,200 บาท รวมค่าน้ำค่าไฟก็หมดพอดี ส่วนค่าใช้จ่ายตนต้องไปหาทำงานพาร์ทไทม์ เช่น วันนี้ตนมารับจ้างทอดลูกชิ้นขายตั้งแต่เวลา 11.00-19.00 น. จะได้ค่าจ้างวัน 200 บาท ก็จะเก็บไว้ใช้จ่าย ทำให้ได้รู้จักกับนักศึกษาชายชาวเวียดนาม ชั้นปีที่ 4 แต่ไม่รู้จักชื่อ เพราะไม่สนิท ซึ่งมาทำงานพาร์ทไทม์เช่นเดียวกัน

ตอนปลายเดือนส.ค.เพื่อนนักศึกษาชาวเวียดนาม ได้มาขอยืมเลขที่บัญชีธนาคารจากตน อ้างว่าขายของออนไลน์ แต่ไม่มีเลขบัญชีให้ลูกค้าโอนเข้า ตนคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ก็ให้เลขที่บัญชีธนาคารกรุงไทยของตนไป

หลังจากนั้นก็มีเงินเข้าบัญชี 50,000 บาท ตนก็กดเงินให้เพื่อนชาวเวียดนามไป จากนั้น 2 สัปดาห์ บัญชีก็โดนอายัด ไม่สามารถทำธุรกรรมการเงินได้อีกเลย พอใกล้เปิดเทอมตนจึงไปปรึกษาตำรวจ ตำรวจแนะนำให้ตนโทรไปที่สถานีตำรวจที่อายัดบัญชี ก็คือ สภ.ปากเกร็ด ตนโทรไปครั้งแรกร้อยเวรเจ้าของคดีก็รับสาย แต่บอกว่ายังไม่สะดวกคุย พอตนโทรกลับไปอีกก็ไม่รับสายแล้ว

ด้วยที่ตนไม่ได้จ่ายเงินค่าหอพักมา 2 เดือนแล้ว ด้วยความเกรงใจ จึงขอย้ายออกจากห้อง ขอเวลาแก้ไขปัญหาเรื่องโดนอายัดบัญชีธนาคารได้แล้วจะนำเงินมาจ่ายค่าหอพัก 4,400 บาท โดยเอากระเป๋าเสื้อผ้าของตนฝากไว้ที่หอพัก

ตอนเช้าตนมาเรียนตามปกติ จนถึงเวลา 11.00 น.ตนก็จะเดินไปทำงานพาร์ทไทม์ที่ศูนย์การค้า แล้วเดินกลับมาที่มหาวิทยาลัย เพื่อสอบถามเพื่อน ๆ ว่ามีงานกลุ่มอะไรให้ทำ หากมีงานทำที่ใต้ถุนคณะก็จะทำช่วยเพื่อน ตกดึกก็จะนอนที่ใต้ถุนคณะ ซึ่งปกติก็จะไม่อนุญาตให้นักศึกษาค้างคืน แต่ตนไม่มีที่ไปก็ต้องนอนที่ใต้ถุนคณะ และรีบตื่นแต่เช้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ เพื่อเตรียมตัวไปเรียน

“เช้าวันนี้เดินจากมหาวิทยาลัยไปที่ สภ.เมืองอุดรธานี ประมาณ 1.5 กิโลเมตร ถึงเวลา 07.00 น. เพื่อขอคำปรึกษากับตำรวจ และขอความช่วยเหลือให้ตำรวจโทรประสานตำรวจที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อปลดล็อคบัญชีธนาคาร นำเงินมาจ่ายค่าหอพักและค่าใช้จ่าย

ซึ่งตำรวจก็พูดในทำนองว่า ผมนำบัญชีไปทำบัญชีม้า แต่ก็ยอมโทรติดต่อให้ แต่พูดแค่คำสองคำก็วางสาย ตำรวจได้แนะนำให้ผมใช้เงินสดไปก่อน แต่ก็แนะนำให้ไปสอบถามขอข้อมูลที่ห้องแจ้งความคดีออนไลน์ ก็จะได้ชื่อตำรวจเจ้าของคดีมา จากนั้นก็เดินไปทำงาน 2.2 กิโลเมตร เสร็จแล้วก็เดินกลับมานอนที่ใต้ถุนคณะ 3 กิโลเมตร ผมนอนมาแล้ว 2 คืน นอนแบบหลับ ๆ ตื่น ๆ เพราะโดนยุงกัดแต่ก็ต้องทน”

เรื่องนี้ยายก็รู้เรื่อง แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เพราะยายมีแค่เงินคนชราที่ใช้ดำรงชีพ ตนก็ไม่ขอรบกวนยาย ส่วนเพื่อนชาวเวียดนามที่ทำให้ตนต้องเดือดร้อน ก็ไม่อยากโทษเพื่อน ตนอยากโทษตัวเองมากกว่าที่ไปเชื่อใจไว้ใจคนอื่น

ตนคิดว่าเพื่อนชาวเวียดนามจากบ้านมาเรียน อยู่ห่างไกลบ้าน คงจะไม่มีอะไร เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นอุทาหรณ์ เป็นบทเรียน สอนให้ตนรู้ว่า อย่าเชื่อใจใครเป็นอันขาด แม้แต่เพื่อน เพราะจะทำให้เราเดือดร้อน