Home ข่าว ข่าวสังคม ดช. 10 ขวบกับ 12 ขวบ เดินเก็บขวดขาย เหนื่อยล้า แวะนอนพักที่วัด พบกำพร้าพ่อแม่ อยู่กับยายในแฟลตตำรวจร้าง

ดช. 10 ขวบกับ 12 ขวบ เดินเก็บขวดขาย เหนื่อยล้า แวะนอนพักที่วัด พบกำพร้าพ่อแม่ อยู่กับยายในแฟลตตำรวจร้าง

39

วานนี้ (13 พ.ย. 2568) ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งจากสัปเหร่อวัดโพธิวราราม ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี พบเด็กเยาวชนนอนพักอยู่ภายในวัด 3 คน ไม่รู้เป็นใครมาจากไหน ขอให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.พงษ์พล ผิวผ่อง รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบทันที โดยที่ศาลาธรรมสังเวชข้างเมรุเผาศพภายในวัดดังกล่าว

พบเด็กชาย 3 คน อายุ 12 ปี, อายุ 11 ปี และอายุ 10 ปี กำลังนอนหลับสนิทอยู่บริเวณศาลา เจ้าหน้าที่ได้ปลุกขึ้นมา สอบถามเบื้องต้น ทราบว่า ทั้งสามคนออกจากบ้าน มาเพื่อฝึกซ้อมเชิดสิงโตที่ศาลเจ้าปู่ย่า ซ้อมเสร็จได้เก็บพากันออกหาเก็บขวดและของเก่าขาย ได้เงินมา 25 บาท นำไปซื้อข้าวเหนียวไก่ย่างกิน ก่อนจะมานอนพักที่วัดโดยไม่ได้กลับบ้าน

จากการสอบถามเพิ่มเติมทราบว่า เด็กชาย อายุ 11 ปี อาศัยอยู่กับผู้ปกครองในชุมชนวัดโพธิวราราม ส่วนเด็กชายอายุ 12 ปี และอายุ 10 ปี เป็นพี่น้องกันอาศัยอยู่กับยายภายในอาคารร้างของตำรวจรถไฟ เขตเทศบาลนครอุดรธานี ส่วนพ่อและแม่เสียชีวิต จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาเด็กทั้ง 3 คนส่งคืนญาติ พร้อมกำชับให้ผู้ปกครองดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้นอีก

นายแดง สัปเหร่อวัดโพธิวราราม เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ขณะกำลังจะมาทำความสะอาดศาลาธรรมสังเวช เพื่อเตรียมสถานที่จัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพ พอมาถึงก็พบเด็กชาย 3 คนนอนกองรวมกันอยู่บริเวณศาลาในสภาพน่าสงสาร หนาวสั่นไปทั้งตัว จึงเข้าไปปลุกและสอบถาม ทราบว่าเด็กทั้งหมดมีบ้านและอยู่ในวัยเรียน แต่ไม่ไปโรงเรียนตามปกติ

นายแดง กล่าวต่อว่า พื้นที่ศาลาธรรมสังเวชมักมีคนไร้บ้านหรือเร่ร่อนเข้ามานอนพักอยู่เป็นประจำ จึงรู้สึกหดหู่ใจเมื่อเห็นเด็กเล็กๆ ต้องมานอนอยู่เช่นนี้ ทั้งที่ควรได้รับการดูแล เอาใจใส่ และมีโอกาสได้ศึกษาเล่าเรียนเหมือนเด็กทั่วไป จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาช่วยเหลือและตรวจสอบทันที

ทางด้าน ร.ต.อ.พงษ์พล ผิวผ่อง รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า ภายหลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีเด็กและเยาวชนมานอนค้างอยู่ภายในวัดโพธิวรารามตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา จึงนำกำลังออกตรวจสอบ พบเด็กชายทั้ง 3 คนอยู่บริเวณศาลาธรรมสังเวช สอบถามเด็กทั้งหมดให้การตรงกันว่า ออกจากบ้านตั้งแต่เมื่อวานเพื่อไปฝึกซ้อมเชิดสิงโตมังกรที่ศาลเจ้าปู่ย่า หลังซ้อมเสร็จได้ชักชวนกันไปเก็บของเก่าขายได้เงิน 25 บาท นำไปซื้อข้าวเหนียวไก่ย่างรับประทาน ก่อนจะพากันมานอนพักที่วัด เนื่องจากรู้สึกเหนื่อยล้า โดยเด็กทั้ง 3 รายยืนยันว่ามีผู้ปกครอง และอ้างว่าผู้ปกครองทราบเรื่องที่มานอนที่วัด

ร.ต.อ.พงษ์พล กล่าวอีกว่า หลังตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเด็กทั้งหมดมีที่อยู่ชัดเจน จะได้พาไปส่งคืนผู้ปกครอง พร้อมกำชับให้ดูแลเอาใจใส่บุตรหลานอย่างใกล้ชิด เพราะเด็กในวัยนี้ยังขาดวุฒิภาวะและการตัดสินใจ อาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพหรือผู้ไม่หวังดีได้ หากผู้ปกครองปล่อยปละละเลย

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาเด็กทั้ง 3 คนขึ้นรถสายตรวจ เพื่อนำไปส่งถึงมือผู้ปกครอง โดยรายแรก เด็กชาย อายุ 11 ปี เจ้าหน้าที่ได้พาไปส่งที่บ้านในชุมชนวัดโพธิวราราม ซึ่งอยู่ห่างจากวัดเพียงประมาณ 500 เมตร โดยอาศัยอยู่กับปู่ จากนั้นได้พาสองเด็กชายพี่น้อง ซึ่งว่าพ่อแม่เสียชีวิต อาศัยอยู่กับยายที่อาคารร้างแฟลตตำรวจรถไฟ ริมทางรถไฟ ภายในเขตเทศบาลนครอุดรธานี

โอกาสนี้ ร.ต.อ.พงษ์พล อบรมและตักเตือนผู้ปกครองของเด็กทั้ง 3 ราย ให้ช่วยกันดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิด ไม่ควรปล่อยปละละเลย เพราะเด็กยังอยู่ในวัยเยาว์และขาดความยับยั้งชั่งใจ อาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพหรือผู้ไม่หวังดีได้ โดยผู้ปกครองของเด็กทั้ง 3 รายต่างน้อมรับคำแนะนำและกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมขอโทษที่ดูแลเด็กไม่ทั่วถึง ขณะเดียวกัน ร.ต.อ.พงษ์พล ยังได้มอบเงินให้เด็กทั้งสามคนไว้คนละ 20 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ สร้างรอยยิ้มให้กับเด็กๆ ก่อนเดินทางออกตรวจในพื้นที่ต่อไป