ยังคงเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากชาวโซเชียลสำหรับคู่รักของ เป๊ก เศรณี ชาญวีรกูล และ เพลง ชนม์ทิดา ที่ได้จบลงอย่างชัดเจน ล่าสุด อาจารย์หมอสุรัตน์ เจ้าของเพจดัง สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์ ได้ออกมาโพสต์วิเคราะห์ปรากฏการณ์หมดรักแบบฉับพลันว่า สิ่งที่ตรงข้ามกับความรัก ไม่ใช่ความเกลียด แต่คือความเฉยเมย – Elie Wiesel

แม้จะดูเหมือนว่าใครบางคน เปลี่ยนไป หรือ เลิกรัก อย่างกะทันหัน แต่งานวิจัยและการสแกนสมองชี้ว่า ความรักไม่หายไปในชั่วข้ามคืน แต่มันค่อยๆ จางลงอย่างเงียบๆ ดร.เฮเลน ฟิชเชอร์ (Helen Fisher) นักมานุษยวิทยาชีวภาพ และผู้เชี่ยวชาญด้านความรัก พบว่า ความรักเกี่ยวข้องกับระบบรางวัลในสมอง โดยเฉพาะบริเวณ Ventral Tegmental Area (VTA) ซึ่งเป็นบริเวณเดียวกับที่ถูกกระตุ้นโดยสารเสพติดอย่างโคเคน
ตอนรักแรกเริ่ม สมองจะหลั่งสารแห่งความสุขออกมามากมาย เช่น โดพามีน ออกซิโทซิน และเซโรโทนิน ทำให้เรารู้สึก ติด ความรัก เหมือนยาเสพติด แต่เมื่อเวลาผ่านไป สมองก็เริ่ม ปรับสมดุล และความรู้สึกก็จะค่อยๆ เบาลง ความรักวูบวาบ ไฟไหม้ฟาง เมื่อใจเริ่มห่าง สมองเริ่มปิด มีงานวิจัยใน Journal of Social and Personal Relationships (Sprecher, 1999) ที่พบว่า การเลิกรักมักเป็นกระบวนการสะสม ไม่ใช่เหตุการณ์จุดเดียว

มันเริ่มจากความไม่พอใจเล็กๆ น้อยๆ กลายเป็นความห่างเหินทางอารมณ์ จากนั้นกลายเป็นการเลิกสื่อสาร และสุดท้ายคือ หมดใจ โดยไม่ต้องพูดอะไรมาก กระบวนการนี้เรียกว่า การถอยห่างทางอารมณ์ (Emotional Distancing) ซึ่งสมองทำเพื่อป้องกันความเจ็บปวด เหมือนกับว่าใจไม่ไหวแล้ว สมองเลยค่อยๆ ดึงปลั๊กความรู้สึกออกทีละนิด
แล้วทำไมบางคนถึง หมดรักแบบฉับพลัน เพราะบางครั้ง มีสิ่งที่เรียกว่า ตัวกระตุ้น (Trigger Event) เช่น การโกหก การนอกใจ หรือคำพูดรุนแรง ซึ่งไม่ใช่ต้นเหตุของการหมดรักโดยตรง แต่เป็นเหมือน ฟางเส้นสุดท้าย ที่ทำให้สมองสั่ง พอเถอะ งานวิจัยใน Psychological Bulletin (2021) พบว่า คนเรามัก ตัดสินใจเลิก หลังจากที่สะสมความขัดแย้งในใจมานาน แล้วเจอเหตุการณ์ที่ทำให้ความอดทนหมดลง
























