วันที่ 12 พ.ย. 2568 ที่ผ่านมา นายวราดิศร อ่อนนุช รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ผู้อำนวยการจังหวัด ทำหนังสือแจ้งนายอำเภอทุกอำเภอ ระบุว่า ตามที่กรมชลประทาน แจ้งปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย.68 เวลา 16.00 น. ทยอยจากอัตรา 2,800 ลบ.ม./วินาที เป็นอัตรา 2,900 ลบ.ม./วินาที เวลา 02.00 น. (ชั่วโมงละ 10 ลบ.ม./วิ โดยประมาณ) และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่องนั้น

จากการระบายน้ำที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบให้บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบในอำเภออินทร์บุรี อำเภอเมืองสิงห์บุรี และอำเภอพรหมบุรี และปริมาณน้ำไหลข้ามถนนสาย 311 (สิงห์บุรี – ชัยนาท) ลงคลองบรมธาตุ และปริมาณน้ำที่เข้าท่วมพื้นพื้นที่ในอำเภอพรหมบุรี ข้ามถนนสาย 309 (สิงห์บุรี – อ่างทอง) ลงคลองบรมธาตุ และอาจมีปริมาณน้ำไหลเข้าพื้นที่ในอำเภอบางระจัน อำเภอค่ายบางระจัน อำเภอท่าช้าง ดังนี้
1. อำเภอบางระจัน ได้แก่ ตำบลแม่ลา ตำบลสิงห์ ตำบลโพชนไก่ ตำบลไม้ดัด ตำบลเชิงกลัด
2. อำเภอค่ายบางระจัน ได้แก่ ตำบลท่าข้าม ตำบลโพสังโฆ
3. อำเภอท่าช้าง ได้แก่ ตำบลพิกุลทอง ตำบลถอนสมอ ตำบลวิหารขาว ตำบลโพประจัก
ทางกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสิงห์บุรี จึงขอให้ดำเนินการ ดังนี้
1. ให้อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมืองสิงห์บุรี และอำเภอพรหมบุรี ดูแลประชาชนที่อพยพขึ้นมาอยู่บริเวณริมถนนสาย 311 (สิงห์บุรี – ชัยนาท) และถนนสาย 309 (สิงห์บุรี – อ่างทอง) พร้อมทั้งจัดระเบียบเต็นท์พักอาศัยให้อยู่บริเวณริมถนนในทิศทางเดียวกัน เพื่อความปลอดภัย
2. ให้อำเภอบางระจัน อำเภอค่ายบางระจัน และอำเภอท่าช้าง ให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ที่อาจจะได้รับผลกระทบ ให้เตรียมการป้องกันและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ให้เคลื่อนย้ายทรัพย์สินไว้บนที่สูง พ้นจากระดับน้ำที่จะเพิ่มสูงขึ้น และให้ติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเตรียมพร้อมอพยพในทันทีกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินเร่งด่วน























