Home ข่าว สุขภาพ ลูกชาย 1 ขวบ เกาหัวบ่อยๆ พ่อแม่คิดว่าแค่เล่น สุดท้ายรู้ความจริงสยอง เกือบเสียการได้ยิน!

ลูกชาย 1 ขวบ เกาหัวบ่อยๆ พ่อแม่คิดว่าแค่เล่น สุดท้ายรู้ความจริงสยอง เกือบเสียการได้ยิน!

90

ลูกชายวัย 1 ขวบ เกาหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า พ่อแม่คิดว่าเป็นแค่พฤติกรรมธรรมดา จนกว่าจะรู้ความจริงชวนสยอง
สำหรับพ่อแม่หลายคน พฤติกรรมของลูกเล็กที่ดูเหมือนไม่มีอะไร เช่น เกาหัว เบา ๆ อาจถูกมองว่าเป็นเรื่องปกติ แต่กรณีของเด็กชายวัย 1 ขวบคนหนึ่งที่ประเทศจีน ทำให้หลายคนต้องตระหนักว่า บางครั้งสิ่งที่ดูธรรมดาอาจแฝงอันตรายอยู่เบื้องหลัง

เด็กชายชื่อ “อันอัน” (An An) เมื่ออายุได้ 1 ปี มักจะเอามือเกาหัวใกล้ ๆ บริเวณหูเป็นประจำ พ่อแม่แรก ๆ ไม่ได้ให้ความสนใจมาก เพราะคิดว่าเป็นเพียงการสำรวจตัวเอง หรือเป็นนิสัยเด็กปกติที่เด็กหลายคนมี

สัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม และผลวินิจฉัยที่ทำให้ตกใจ
หลังผ่านไประยะหนึ่ง พ่อแม่เริ่มสังเกตเห็นอาการเพิ่มเติม เช่น อันอันดูหงุดหงิด แสดงสีหน้าคับข้องใจขณะเกาหัว ความรู้สึกไม่สบายตัว และเริ่มร้องไห้บ่อยขึ้น ทำให้พ่อแม่ตัดสินใจพาไปหาหมอ

แพทย์ระบุว่า เด็กมี โรคติดเชื้อในหูชั้นกลาง รุนแรง และมีสัญญาณของการอักเสบ ซึ่งหากปล่อยไว้นานอาจส่งผลเสียต่อการได้ยินและพัฒนาการทางภาษาได้ พ่อแม่จึงรู้สึกเสียใจ ที่ไม่ทันสังเกตอาการเหล่านี้ให้เร็วกว่านี้

อะไรบ้างที่เป็นสาเหตุของโรคนี้
โรคหูชั้นกลางอักเสบ (Otitis Media) เกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้

การติดเชื้อจากไวรัสหรือแบคทีเรีย โดยเฉพาะหลังจากที่เด็กมีอาการหวัดหรือติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ
น้ำเข้าหู หรือความชื้นในหูที่สะสม
ระบบภูมิคุ้มกันที่ยังไม่ได้พัฒนาเต็มที่ในเด็กเล็ก
สิ่งเร้าจากสิ่งแวดล้อม เช่น ควันบุหรี่ หรืออากาศที่มีฝุ่นมาก
สัญญาณที่ผู้ปกครองควรเฝ้าสังเกต
ถ้าลูกมีพฤติกรรมหรืออาการต่อไปนี้ ควรหาคำปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

เกาหรือดึงหูบ่อย ดูเหมือนมีอาการเจ็บ
ร้องไห้หรือโวยวายเฉพาะเวลากลางคืน
มีไข้สูงอย่างต่อเนื่อง
น้ำไหลจากหู
การนอนหลับถูกรบกวนหรือนอนหลับยาก
เบื่ออาหาร กินอาหารน้อยลง

ผลกระทบหากไม่ได้รับการรักษา
หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา โรคหูชั้นกลางอักเสบอาจนำไปสู่

การสูญเสียการได้ยิน ชั่วคราว หรือถ้ารุนแรงอาจพัฒนาถึงระดับถาวร
อาการอักเสบเรื้อรังที่รักษาให้หายยาก
ส่งผลต่อการพัฒนาภาษาและการสื่อสาร เนื่องจากได้ยินเสียงได้ไม่ชัดเจน
อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อแพร่กระจาย เป็นต้น
วิธีป้องกันที่ผู้ปกครองควรรู้
เพื่อช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันไม่ให้อาการลุกลาม ต่อไปนี้คือแนวทางที่พ่อแม่สามารถทำได้

รักษาความสะอาดและความแห้งของหู ให้หูเด็กไม่เปียกชื้น
ให้เด็กได้รับวัคซีนที่เกี่ยวข้อง เช่น วัคซีนไข้หวัด วัคซีนปอดบวม ฯลฯ
หลีกเลี่ยงการสูดควันบุหรี่หรืออยู่ในพื้นที่อากาศสกปรก
เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะนมแม่มีสารภูมิต้านทาน
พาเด็กไปตรวจสุขภาพตามนัดหมาย และติดต่อแพทย์ทันทีเมื่อเห็นสัญญาณผิดปกติ
พฤติกรรมที่ดูเหมือนไม่มีอะไรอย่างการเกาหัวซ้ำ ๆ อาจเป็นสัญญาณเตือนของอาการป่วยในเด็ก โดยเฉพาะ โรคหูชั้นกลางอักเสบ ที่ถ้าปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจมีผลกระทบรุนแรง ผู้ปกครองควรสังเกตอาการเล็กๆ ให้ดี ตั้งใจฟัง เข้าใจลูก และไม่รีรอหากมีความสงสัย เพื่อให้เด็กได้รับการดูแลทันเวลา