วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 รศ.ดร.จักษ์ พันธ์ชูเพชร สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า ยามสงคราม ทหารรบข้าศึก – ยามสงบ พรรคส้มรบทหาร
ความช่วยเหลือชายแดน
คำที่คนไทยจำนวนมากเข้าใจตรงกันว่า…คือ น้ำใจ แต่สำหรับบางพรรค…มันคือ หนามยอกอกภาพคนไทยบริจาคเงิน บริจาคของ
เพื่อให้ทหารมีลวดหนาม บังเกอร์ ล้อยาง พร้อมใช้
กลายเป็นภาพที่พรรคส้มรีบคว้าไป ปั่น ทันที
บอกว่า ทำไมไม่ใช้งบรัฐ?
รัฐบาลไม่มีเงินหรือยังไง?
พูดเหมือนเข้าใจราชการ แต่จริงๆ ไม่รู้แม้แต่ขั้นตอนเบิกจ่ายงบหลวง
หรืออาจรู้…แต่ แกล้งไม่รู้ เพื่อจะได้เอามาเล่นการเมือง
เคส ลวดหนามชายแดน จำได้ไหม?
งบมีอยู่แล้ว แต่ติดขั้นตอนราชการ
เอกสารต้องผ่านลำดับชั้น
ต้องตรวจ ต้องเซ็น ต้องอนุมัติ
แต่ชายแดนไม่รอเวลา – ศัตรูไม่รอเอกสาร
ชาวบ้านเลยช่วยซื้อให้ ใช้ได้ทันที
วันต่อมาทหารมีลวดหนามพร้อมตั้งแนวป้องกัน
นั่นไม่ใช่ การบริจาคเพราะรัฐจน
แต่มันคือ การบริจาคเพราะคนไทยไม่ทอดทิ้งกัน
แต่พรรคส้ม…กลับมองไม่เห็น (หรือพยายามไม่เห็น) ความงดงามของความสามัคคี
เพราะในสายตาพวกเขา ทุกเรื่องต้องมีการเมือง
แล้วทำไมต้องจี้แต่ พี่กัน จอมพลัง?
ทั้งที่มีมูลนิธิและองค์กรเอกชนอีกมากที่ทำแบบเดียวกัน
หรือเพราะ กัน ช่วยคนมากเกินไป
จนภาพมันไปขวางทาง การตลาดทางการเมือง ของพรรคส้ม?
ก็แน่น่ะสิ…
คนไทยเริ่มเห็นแล้วว่า การช่วยเหลือจริง
มันทำได้โดยไม่ต้อง พูดให้เท่ หรือ โชว์ความดี บนเวทีอภิปราย
วันนี้พรรคส้มลากเรื่องนี้เข้า กมธ.ทหาร
ใช้งบประมาณแผ่นดิน
เพื่อ ตรวจสอบทหาร ที่ป้องกันแผ่นดิน
ทั้งที่เป้าหมายไม่ใช่หาความจริง
แต่ดูเหมือนเพื่อ ทำลายความศรัทธาของประชาชน
และ ลดคะแนนนิยมของคู่แข่งทางการเมือง
ถามจริงเถอะ..
ยามที่เขมรกำลังยิ้ม เพราะเห็นคนไทยทะเลาะกันเอง
พรรคส้มรู้ตัวไหมว่า คุณกำลังรบกับชาติของตัวเอง?
ทหาร – รบกับข้าศึกภายนอก
แต่ต้องมาถูก ส้มบางพรรค รบในยามสงบ
รบด้วยวาทกรรม รบด้วยเฟคนิวส์
รบด้วยความอิจฉาที่คนอื่นทำดีแล้วคนชอบ
นี่หรือพรรคคนรุ่นใหม่?
หรือแค่ พรรคคนรุ่นรบ – รบกับทุกอย่างที่ขัดใจตัวเอง
สุดท้าย
ความสามัคคีไม่ใช่งานการเมือง
แต่มันคือหัวใจของ คนรักชาติ
อย่าปล่อยให้ความช่วยเหลือที่เกิดจาก น้ำใจคนไทย
กลายเป็น น้ำลายพรรคส้ม ที่สาดใส่ชาติ
เพราะ ยามสงคราม ทหารรบข้าศึก
แต่ ยามสงบ พรรคส้ม – รบทหาร
จักษ์ พันธ์ชูเพชร
๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๘




















