สวัสดีค่ะยินดีต้อนรับเข้าสู่ช่องนิมิตพิศวง์พบกับดิฉันอาจารย์ฟางวันนี้ดิฉันขอให้ทุกท่านตั้งใจฟังเรื่องนี้ให้ดีนะคะเพราะไม่ใช่แค่คำทำนายลอยๆแต่เป็นสิ่งที่หมอปร่ายพรายกระซิบพูดชัดเจนในรายการไทยรัฐทคและคนที่เธอพูดถึงไม่ใช่ให้ใครอื่นเป็นชื่อที่คนไทยได้ยินแล้วทุกคนก็รู้ว่าหมายถึงใครหมอปลายพูดว่าจะมีคนหนึ่งที่หนีไม่ทันและเธออธิบายว่าเขาเป็นคนที่เคยลี้ภัยออกนอกประเทศแล้วกลับเข้ามาในไทยอีกครั้งดิฉันถามแบบไม่อ้อมค้อม
เลยนะคะถ้าคุณได้ยินประโยคแบบนี้คุณนึกถึงใครตลอด20ปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีคนระดับชาติไม่กี่คนที่หนีแล้วกลับและชื่อหนึ่งเดียวที่ผุดขึ้นมาในใจคนส่วนใหญ่ก็คือคุณทักษิณชินวัตรหมอปลายไม่จำเป็นต้องพูดชื่อเพราะคำว่าวีภัยออกนอกประเทศกับคำว่ากลับมาอยู่ในประเทศอีกครั้งหมั่นฟังแล้วใครๆก็เชื่อมโยงได้เองแต่ประโยคที่แรงกว่านั้นคือเขาจะหนีไม่ทันอีกแล้วไม่ใช่หนีจากคดีไม่ใช่หนีจากคนแต่อาจจะหมายถึงเวลาของเขาหมดแล้วและนั่นไม่ใช่จุดจบ
ของคำทำนายค่ะเพราะหมอป่ายังพูดอีกว่าจะมีใครบางคนถูกผลักขึ้นมาเพื่อจัดการเรื่องนี้เขาไม่ใช่คนที่มีตำแหน่งไม่ใช่คนที่อยู่ในสายตาประชาชนแต่จะโผล่ขึ้นมาในวันที่ไม่มีใครกล้าทำถ้าได้ยินเรื่องแบบนี้คุณเริ่มรู้สึกเหมือนดิฉันมั้คะว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่แค่ข่าวลือแต่มันคือการเตือนล่วงหน้าที่น่าขนลุกคำถามที่เราต้องถามกันตรงๆก็คือแล้วใครกันแน่แน่ที่จะเป็นคนจัดการกับคุณทักษิณถ้าเรื่องที่หมอปรายพูดเป็นจริงและคนที่เคยลี้ภัยจะ
หนีไม่พ้นอีกมันก็ต้องมีมือใครบางคนที่ลุกขึ้นมาทำให้เกิดขึ้นจริงคนแบบไหนกันคะที่จะกล้าทำเพราะนี่ไม่ใช่แค่การดำเนินคดีธรรมดาแต่มันคือการแตะต้องคนที่ทั้งประเทศรู้จักคนที่เคยมีอำนาจเคยเป็นนายกเคยมีทั้งเสียงเชียร์และเสียงต้านในระดับสูงสุดคนธรรมดาคงไม่กล้าคนมีตำแหน่งหลายคนก็เลือกที่จะนิ่งแล้วแบบนี้ใครจะกล้าขยับหรือจะมีใครบางคนที่ไม่ได้อยู่ในสายตาแต่ในใจเขารอเวลาลุกอยู่ตลอดเวลาถ้ามีใครสักคนลุกขึ้นมาจัดการกับคุณทักษิณ
ดิฉันว่ามันก็ต้องมาจากไม่กี่ทางหรอกค่ะกลุ่มแรกคือคนในสายยุติธรรมพวกอัยการศาลหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับคดีโดยตรงเพราะถ้าขุดคดีขึ้นมาอีกหรือจะเดินหน้าคดีไหนที่เคยเงียบก็ต้องคนกลุ่มนี้แหละที่จะเป็นคนลงมือก่อนกลุ่มที่2คือฝ่ายความมั่นคงอย่างพวกทหารระดับสูงหรือตำรวจที่มีอำนาจพิเศษถ้าเขาเห็นว่าเรื่องมันกระทบกับประเทศจริงๆหรือทำให้เกิดความไม่สงบเขาอาจจะไม่อยู่เฉยกลุ่มที่3อันนี้แหละค่ะที่หมอปรายพูดถึงชัดที่สุดคือ
คนธรรมดาที่ไม่ได้อยู่ในสายตาใครเลยไม่ใช่คนดังไม่ใช่นักการเมืองไม่ใช่นายพลแต่เป็นคนที่รู้ว่าถึงเวลาแล้วต้องมีใครสักคนทำและเขานั่นแหละอาจจะเป็นตัวจริงหมอป่ายพูดไว้แบบนี้เลยนะคะเขาไม่ได้ขึ้นมาเพราะคนเลือกเาขึ้นมาเพราะไม่มีใครเหลือแล้วฟังแล้วมันเหมือนว่าคนที่ลุกขึ้นมาจริงๆอาจจะไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียงไม่ได้อยากดังไม่ได้หาเสียงแต่เพราะคนอื่นถอยหมดเเลยต้องลุกขึ้นเองคนแบบนี้นะคะบางทีเขาไม่อยากจะออกหน้าไม่อยากมีปัญหาแต่พอ
เห็นเรื่องมันค้างๆคาๆมันไม่ได้รับความยุติธรรมเขาก็เลยลุกขึ้นมาจัดการเองลองนึกภาพตามดิฉันนะคะวันหนึ่งข่าวก็เงียบไม่มีใครพูดถึงแล้วอยู่ดีๆก็มีชื่อคนนี้โผล่ขึ้นมาไม่ใช่ชื่อที่เคยเห็นในข่าวไม่ใช่คนที่เคยอยู่ในพรรคการเมืองใหญ่แต่เขากลับเป็นคนที่เดินหน้าเรื่องนี้ขึ้นมาจริงๆไม่มีคนหนุนไม่มีนักการเมืองอยู่ข้างหลังมีแค่ความตั้งใจที่จะปิดเรื่องที่ค้างอยู่ให้จบตอนที่หมอปรายพูดคำว่าหนีไม่ทันแล้วดิฉันขนลุกเลยค่ะเพราะถ้า
มองให้ลึกมันไม่ใช่แค่หมายถึงการหนีคดีหรือการบินหนีแต่มันหมายถึงเงื่อนไขที่เคยช่วยไว้มันหมดแล้วเหมือนโลกมันหมุนมาถึงจุดที่ไม่มีใครกันให้ได้ไม่มีใครจะช่วยประวิงเวลาอีกและสิ่งที่เคยพึ่งค่อยๆหายไปทีละอย่างหมอป่ายังบอกอีกนะคะว่าคนที่จะขึ้นมาแทนอาจจะไม่ได้มาจากการเลือกตั้งด้วยซ้ำไม่ต้องมีพรรคไม่ต้องหาเสียงแต่เหมือนถูกดันขึ้นมาเพราะบ้านเมืองมันถึงจุดอับแล้วเหมือนคนที่ยืนเงียบๆอยู่ข้างเวทีจู่ๆก็จะถูกผลักให้ขึ้นเวทีเพราะ
ไม่มีใครเหลือให้ขึ้นอีกแล้วดิฉันเคยเคยได้ยินคนแก่พูดว่าคนกล้าทำมักเป็นคนที่ไม่มีอะไรจะเสียคำนี้จริงมากค่ะบางคนเงียบบางคนโดนมองข้ามแต่ถึงเวลาสำคัญเขานี่แหละที่กล้าทำในสิ่งที่คนมีชื่อเสียงไม่กล้าเพราะคนแบบนี้เขาไม่ได้แคร์กระแสเขาไม่ได้มองว่าจะได้อะไรเขามองแค่ว่ามันควรจบได้แล้วพอมาถึงตรงนี้หลายคนเริ่มคิดตามแล้วใช่มั้ยคะว่าเรื่องที่หมอปลายพูดพูดมันไม่ได้เป็นแค่การเตือนธรรมดาแต่มันเหมือนเป็นการตั้งโจทย์ให้คนไทยทั้ง
ประเทศต้องคิดว่าแล้วใครล่ะที่จะหยุดเาได้จริงขอโทษนะคะดิฉันพูดตรงๆเลยขนาดรัฐบาลยังต้องเดินหมากกันอย่างระวังขนาดกระบวนการยุติธรรมยังไม่กล้าตรงเข้าไปถามว่าคนธรรมดาคนในระบบจะทำอะไรได้ดิฉันว่าคนที่จะหยุดเกมเขาได้ต้องไม่ใช่แค่คนที่มีอำนาจตามตำแหน่งแต่ต้องมีตำแหน่งที่อยู่เหนือเหนือทุกตำแหน่งต้องเป็นคนที่ทุกฝ่ายยอมรับไม่ว่าจะเหลืองแดงน้ำเงินต้องเป็นคนที่แม้แต่ผู้ที่ไม่ศรัทธารัฐบาลยังกลัวและเกรงใจและถ้าถามกันตรงๆ
แบบไม่อ้อมค้อมประเทศไทยมีคนแบบนั้นกี่คนถ้าเรามองลงไปให้ลึกคนที่ไม่มีตำแหน่งทางการเมืองไม่ต้องเลือกตั้งไม่ต้องหาเสียงไม่ต้องขอคะแนนใครแต่ทุกถ้อยคำของเขามีน้ำหนักจนทั้งประเทศหยุดได้คนๆนั้นถึงจะหยุดเกมนี้ได้จริงดิฉันไม่ได้พูดนะคะว่าเขาคือใครถ้าคุณฟังอยู่คุณก็พอจะเดาได้เองเพราะประเทศเรามีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถทำให้เจ้าหน้าที่ขยับทำให้ฝ่ายความมั่นคงเคลื่อนตัวและทำให้คนที่ไม่เคยกล้าลงมือกล้าก้าวออกมาทำหน้าที่
แล้วถ้าหมอปรายพูดถึงเขาจริงๆแปลว่ามันอาจจะมีสัญญาณบางอย่างอาจมีบางอย่างที่มองไม่เห็นกำลังเริ่มขึ้นแล้วไม่ใช่การรัฐประหารไม่ใช่การประท้วงแต่เป็นการเคลื่อนไหวเงียบๆที่เริ่มจากสายตาของคนหนึ่งที่กำลังจับตามองเรื่องนี้อยู่บางทีสิ่งที่จะหยุดได้อาจจะไม่ใช่ตำรวจอาจจะไม่ใช่ทหารแต่อาจเป็นท่านที่เราทุกคนรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ท่านขยับทุกอย่างจะเปลี่ยนหมอปรายไม่ได้พูดชื่อและดิฉันก็จะไม่พูดชื่อแต่คนไทยทุกคนฟังแล้วรู้เองค่ะ
รู้ว่าเขาคือใครและถ้าเรื่องนี้กำลังจะเกิดขึ้นจริงในปี256หรือในใกล้ๆนี้ประเทศไทยกำลังเดินเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวตอที่ต้องมีคน1คนขึ้นมายุติทุกอย่างก่อนมันจะเลยเถิดไปกว่านี้หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วจะมีใครลุกขึ้นมาจัดการเรื่องนี้จริงๆหรือไม่เพราะที่ผ่านมาเราก็เห็นแต่คนเงียบคนกลัวคนเลือกที่จะไม่แตะแต่ดิฉันเชื่อนะคะว่าบ้านเมืองเรามีจุดที่เงียบแต่ส่งพลังอยู่จริงไม่ต้องมีเสียงไม่ต้องมีประกาศแค่ขยับนิดเดียวก็
สะเทือนทั้งระบบคนที่เคยเดินออกจากบ้านเกิดโดยไม่หันกลับมาอาจจะกำลังเดินทางกลับแต่ระหว่างทางนั้นมีคนรอดักอยู่แล้วไม่ใช่ใครก็ได้หรอกค่ะที่จะทำแบบนั้นได้ต้องเป็นคนที่ไม่มีหนี้บุญคุณกับใครไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนและสำคัญที่สุดไม่กลัวแรงสั่นสะเทือนที่จะตามมาหลายคนพูดว่าจะหยุดคนที่มองตัวเองเหนือระบบก็ต้องเป็นคนที่ระบบไม่กล้าต่อต้านดิฉันไม่อยากจะเอ่ยชื่อนะคะแต่ทุกคนก็พอจะนึกออกว่าคนแบบนี้ในประเทศมีเพียงไม่กี่คนถ้าเขาลุกขึ้นมา
จริงๆทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปดิฉันอาจารย์ฟังขอลาไปก่อนนะคะแล้วพบกันใหม่ในคลิปหน้ากับเรื่องราวที่คุณอาจจะไม่เคยได้ยินจากสื่อไหนเพราะบางเรื่องเขาไม่พูดแต่ดิฉันกล้าพูดอย่าลืมกดติดตามช่องนิมิตพิศวง์เพราะที่นี่เราจะไม่บอกให้คุณเชื่อแต่เราจะเล่าให้คุณคิดตามแล้วพบกันใหม่ในตอนต่อไปสวัสดีค่ะ
 
                 
		