วันที่ 29 ตุลาคม 2568 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีที่เคยร้องทุกข์กล่าวโทษ นักการเมือง ช. นักการเมืองฝั่งรัฐบาลชื่อดังในพื้นที่ภาคใต้ ว่ามีการรับเงินจากเว็บพนันออนไลน์มูลค่านับร้อยล้านบาทจากฝั่งประเทศกัมพูชา พร้อมทั้งเรียกร้องให้เปิดเผยเบื้องหลังตำรวจที่มีส่วนช่วยเหลือในการนำสำนวนคดีไปซ่อน
นายอัจฉริยะกล่าวว่า กรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน เคยออกมาเปิดเผยรายชื่อ 7 นักการเมืองที่เกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์และเว็บพนันออนไลน์ ตนจึงขออาสาออกมาเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดและพร้อมรับผิดชอบเพียงผู้เดียวหากมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น
สำหรับนักการเมือง ช. นายอัจฉริยะยืนยันว่าไม่ใช่ นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แต่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่จังหวัดสงขลา โดยเส้นทางการเงินชี้ชัดและไม่สามารถปฏิเสธได้ จากแผนผังจะเห็นว่านักการเมือง ช. มีความเชื่อมโยงกับบัญชีม้าที่เกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์และเว็บพนันออนไลน์ เส้นทางเงินไหลเข้าสู่นักการเมือง ช. และบุตรชายของนักการเมืองรายนี้ซึ่งเคยก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่บริเวณหน่วยเลือกตั้ง

นอกจากนี้ ยังมีเจ้าของเว็บพนันรายใหญ่ในภาคใต้และนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ของประเทศที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน โดยเส้นทางการเงินเชื่อมโยงทั้งจากยาเสพติดและเว็บพนันออนไลน์ไปยังนักการเมืองสองรายจากพรรคการเมืองชื่อดัง รวมถึงนักการเมือง ช. นายอัจฉริยะตั้งคำถามถึงความเหมาะสมที่บุคคลเหล่านี้จะยังคงดำรงตำแหน่ง ส.ส. และคณะกรรมาธิการในรัฐบาลชุดนี้ต่อไป
นายอัจฉริยะกล่าวต่อว่า คดีของนักการเมือง ช. เคยถูกตำรวจชุด PCT 4 ภายใต้การกำกับของ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ในขณะดำรงตำแหน่งหัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT ร่วมกับตำรวจไซเบอร์ ออกหมายจับในข้อหาเป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ แต่คดีหลุดไปที่จังหวัดสงขลา เนื่องจากมีลูกน้องของ พล.ต.ท.ไตรรงค์ กลับคำให้การในชั้นสอบสวน

ทั้งนี้ นายอัจฉริยะได้แสดงแผนผังการรับโอนเงินจากเจ้าของเว็บพนันและบุคคลที่เคยถูกจับในคดีเว็บพนันและคดีของดีเอสไอ พบว่ามีการโอนเงินไปยังนักการเมือง ช. รวมกว่า 72 ล้านบาท โดยคดีนี้เคยถูกร้องต่อดีเอสไอในปี 2567 ซึ่งดีเอสไอได้ส่งหนังสือคดีไปยังศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) แต่กลับไม่มีการดำเนินคดีและมีการซ่อนสำนวน ทั้งที่มีหลักฐานเส้นทางการเงินชัดเจน
นายอัจฉริยะยืนยันว่าไม่เกรงกลัวต่อการถูกฟ้องร้องจากนักการเมือง ช. และการมายื่นหนังสือที่กระทรวงยุติธรรมในครั้งนี้ไม่ได้ร้องขอทีมคุ้มครองพยาน เนื่องจากตนไม่เคยกลัวตาย พร้อมประกาศว่าหากถูกข่มขู่มากเท่าใดก็จะยิ่งเปิดเผยข้อมูลมากขึ้นเท่านั้น





















