Home ข่าว ข่าวสังคม ผบช.น. สั่ง พ.ต.ท. ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบสวน หลังพบพัวพันคดีแก๊งคอล

ผบช.น. สั่ง พ.ต.ท. ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบสวน หลังพบพัวพันคดีแก๊งคอล

75

วันที่ 28 ตุลาคม 2568 เวลา 11.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.2 มีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการทางวินัยร้ายแรง และให้ออกจากราชการนายตำรวจสังกัด บก.น.2 จำนวน 1 นาย ตำแหน่งรองผู้กำกับการ (สอบสวน) สน.ดอนเมือง

สืบเนื่องจากกรณีที่พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท. ได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา หมายเลขที่ 5865/2568 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2568 ซึ่งออกตามคำร้องของพนักงานสอบสวนให้จับกุมตัวนายตำรวจรายดังกล่าว ในข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ รวมถึงข้อหาสมคบและร่วมกันฟอกเงิน

เหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2568 ผู้เสียหายพบเห็นโฆษณาชักชวนลงทุนในแพลตฟอร์ม “FINNIXMAX” ผ่านเฟซบุ๊ก โดยอ้างว่าเป็นการเทรดหุ้นออนไลน์ ช่วงแรกสามารถถอนเงินได้ตามปกติ แต่ต่อมาเมื่อมีการลงทุนเพิ่ม กลับไม่สามารถถอนเงินได้ จึงเชื่อว่าถูกหลอก มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 1.2 ล้านบาท

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน จนนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีจำนวน 24 ราย จับกุมได้แล้ว 16 ราย และอายัดตัวผู้ต้องหาในเรือนจำอีก 1 ราย พร้อมตรวจยึดของกลาง เช่น รถยนต์ 9 คัน, กระเป๋าและเครื่องประดับแบรนด์เนม 48 รายการ, เงินสดหลายสกุลรวมประมาณ 295,920 บาท, โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 23 รายการ และสมุดบัญชี/บัตรเอทีเอ็ม 92 รายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 21 ล้านบาท

เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติมอีก 5 ราย โดยเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ปอท. ร่วมกับ กก.1 บก.ปอท. ได้บูรณาการกำลังตรวจค้นเป้าหมายรวม 6 จุดในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดอุดรธานี เพื่อขยายผลและตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว

ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองบัญชาการตำรวจนครบาลยืนยันว่า การดำเนินการทางวินัยและคดีอาญาจะเป็นไปตามพยานหลักฐานอย่างโปร่งใสและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย โดยจะไม่ละเว้นหากพบเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด