Home ข่าว ข่าวสังคม “นิค ชมงาม” ชี้จุดแปลกเคสงูเห่ากัดหลานยาย มันไม่ปกติมาก

“นิค ชมงาม” ชี้จุดแปลกเคสงูเห่ากัดหลานยาย มันไม่ปกติมาก

82

“นิค อสรพิษวิทยา” ชายวัย 39 ปี โทรบอกรักยายหลังถูกงูเห่ากัดดับคาบ้าน ชี้เคสนี้มีหลายจุดที่ค่อนข้างแปลก อุบัติเหตุหรือจงใจ จากเหตุสะเทือนใจในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธง เข้าตรวจสอบบ้านหลังหนึ่งหลังได้รับแจ้งว่าพบชายวัย 39 ปี เสียชีวิตภายในบ้าน โดยที่ข้อมือซ้ายมีรอยเขี้ยวงู คาดว่าถูกงูเห่ากัดและเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่าสองชั่วโมง

นิค ชมงาม ชี้จุดแปลกเคสงูเห่ากัดหลานยาย มันไม่ปกติมาก

หญิงวัย 74 ปี ซึ่งเป็นยายของผู้เสียชีวิต เล่าทั้งน้ำตาว่า เวลาประมาณ 06.40 น. หลานชายโทรศัพท์มาหา พูดด้วยเสียงสั่นว่า “ยายรักหลานไหม” ก่อนจะบอกว่าถูกงูเห่ากัด และขอให้ยายช่วยจัดการเรื่องต่าง ๆ หากตนเป็นอะไรไป จากนั้นเสียงเริ่มสั่นเครือ พูดไม่ชัด ก่อนสายจะเงียบไป ญาติรีบมาที่บ้านและพบว่าหลานชายหมดลมหายใจแล้ว แม้จะพยายามปั๊มหัวใจและเรียกกู้ภัยแต่ก็ไม่ทันการณ์

เจ้าหน้าที่จึงประสานอาสาสมัครผู้เชี่ยวชาญด้านการจับงูเข้าตรวจสอบ พบงูเห่าขนาดใหญ่ยาวเกือบ 1 เมตร อยู่ภายในบ้าน จึงจับใส่ถุงซิปล็อก ส่งมอบให้องค์การบริหารส่วนตำบลบางโฉลง เพื่อส่งต่อให้สถานเสาวภาผลิตเซรุ่มพิษงูต่อไป

ภายหลังเหตุการณ์นี้ นิรุทธ์ ชมงาม หรือที่รู้จักกันในชื่อ “นิค อสรพิษวิทยา” ได้ออกมาให้ความรู้และชี้ประเด็นที่น่าสงสัย พร้อมโพสต์คลิปอธิบายเหตุการณ์ผ่านช่องยูทูบ พร้อมข้อความว่า

“เคสงูเห่ากัดคนที่สมุทรปราการ เห็นคอมเมนต์ต่อว่าเพราะการอนุรักษ์ หรือการจับงูแล้วปล่อยกันอีกแล้ว กลายเป็นไปโทษอาสาที่เขาไปช่วยจับงูเฉยเลย โดยยังไม่ได้ดูองค์ประกอบให้ดีๆ คลิปนี้คือการวิเคราะห์เหตุการณ์ครับ เข้ารับชมได้ที่ https://youtu.be/RwHg0JZoEfw”

นิค ชมงาม ชี้จุดแปลกเคสงูเห่ากัดหลานยาย มันไม่ปกติมาก

นิคระบุว่า เคสนี้มีร่องรอยการกัดหลายเขี้ยว ซึ่งถือว่าไม่ปกติ โดยในคลิปได้อธิบายประเด็นที่น่าสงสัยไว้ 3 จุดหลัก ได้แก่

พฤติกรรมก่อนเสียชีวิตแปลก – แทนที่จะรีบขอความช่วยเหลือ กลับโทรหาคุณยายและพูดคล้ายสั่งเสีย ถูกกัดบนชั้น 2 – ปกติงูเห่าไม่ค่อยขึ้นที่สูง เว้นแต่มีปัจจัยอย่างน้ำท่วมหรือหนูหนีขึ้นไป รอยกัดหลายจุดผิดปกติ – งูเห่ามักกัดเพียง 1–2 ครั้ง ไม่ฉกซ้ำหลายรอย อาจเป็นไปได้ว่าผู้ตายพยายามจับงูเองแล้วถูกกัดหลายครั้ง นิคยังกล่าวถึงประเด็นที่สังคมกำลังตั้งคำถามว่า “การจับงูไปปล่อยเพื่ออนุรักษ์” เป็นสาเหตุให้งูย้อนกลับมากัดคนหรือไม่ โดยยืนยันว่า อาสาสมัครไม่ได้ปล่อยงูแบบสุ่มสี่สุ่มห้า แต่จะนำไปปล่อยในพื้นที่ห่างไกล ไม่ทำร้ายสัตว์ และส่วนใหญ่ก็ทำงานฟรี ไม่มีผลตอบแทน

นิค ชมงาม ชี้จุดแปลกเคสงูเห่ากัดหลานยาย มันไม่ปกติมาก

เขาเสนอว่า แทนที่จะตำหนิอาสาสมัคร ควรเรียกร้องให้ภาครัฐเข้ามาจัดการปัญหาอย่างจริงจัง เพราะงูไม่ได้ตั้งใจทำร้ายคน มันก็กลัวเช่นกัน ส่วนคนที่จำเป็นต้องฆ่างูเพื่อปกป้องลูกหรือสัตว์เลี้ยงในบ้าน ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้

นิคยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า งูพิษที่ “คุ้มครองตามกฎหมาย” มีเพียง 2 ชนิด คือ งูจงอาง และ งูหางแห้มกา ขณะที่งูเห่า งูกะปะ หรือ งูเขียวหางไหม้ ไม่ได้เป็นสัตว์อนุรักษ์แต่อย่างใด

เขาทิ้งท้ายว่า วิธีอยู่ร่วมกับงูอย่างปลอดภัยคือ จัดการพื้นที่รอบบ้านไม่ให้รกร้าง กำจัดหนูและโพรงซึ่งเป็นแหล่งอาหารของงู และไม่ควรคิดว่า “ฆ่างูหมดแล้วจะปลอดภัย” เพราะหากจำนวนงูลดลง อาหารจะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ประชากรงูที่เหลือฟื้นตัวกลับมาในที่สุด

นิคย้ำว่า “การให้ความรู้เรื่องงูสำคัญกว่าการไล่ล่าหรือฆ่างู” เพราะทางออกระยะยาวของปัญหานี้อยู่ที่ความเข้าใจระบบนิเวศและการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล

นิค ชมงาม ชี้จุดแปลกเคสงูเห่ากัดหลานยาย มันไม่ปกติมาก