Home ข่าว ข่าวสังคม ย้อนรอยบทเรียนจากโศกนาฏกรรม “ไคล์ พลัช” เด็ก 16 ปีที่เสียชีวิตในรถยนต์อย่างน่าหดหู่

ย้อนรอยบทเรียนจากโศกนาฏกรรม “ไคล์ พลัช” เด็ก 16 ปีที่เสียชีวิตในรถยนต์อย่างน่าหดหู่

20

ย้อนกลับไปในปี 2018 โลกได้เห็นเหตุการณ์หนึ่งที่ไม่มีใครคาดคิดว่า “การเอื้อมมือหยิบของในรถ” จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องเศร้าที่ไม่มีวันลืม

เด็กชายวัย 16 ปีชื่อ ไคล์ พลัช (Kyle Plush) จากเมืองซินซินเนติ สหรัฐอเมริกา ต้องเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในรถมินิแวนของครอบครัวตนเอง แต่สิ่งที่สะเทือนใจที่สุดคือ เขาพยายามขอความช่วยเหลือจนถึงวินาทีสุดท้าย

kyle_plush

วินาทีที่ทุกอย่างผิดพลาด

วันนั้น ไคล์ เดินไปที่รถ Honda Odyssey รุ่นปี 2004 เพื่อหยิบอุปกรณ์เทนนิสที่เบาะหลัง แต่เบาะแถวที่สามซึ่งพับเก็บได้เกิดดีดกลับมาทับหน้าอกของเขาอย่างแรง ร่างของเขาถูกกดคาอยู่ระหว่างเบาะกับพื้นรถ จนไม่สามารถขยับหรือหายใจได้

แม้จะอยู่ในสภาพติดอยู่เพียงลำพัง แต่ ไคล์ ยังคงมีสติ เขาใช้คำสั่งเสียง Siri บน iPhone โทรแจ้งเหตุฉุกเฉินไปยัง 911 ถึงสองครั้ง เสียงของเขาในสายนั้นเต็มไปด้วยความหวังและความสิ้นหวังในเวลาเดียวกัน

“ผมติดอยู่ในรถตู้ Honda Odyssey สีทอง… ในลานจอดของโรงเรียน Seven Hills Hillsdale”

“ผมคงไม่มีเวลามากแล้ว ถ้าผมตาย… ช่วยบอกแม่ด้วยว่า ผมรักเธอ”

ข้อความเหล่านี้คือสิ่งสุดท้ายที่เขาทิ้งไว้ในระบบบันทึกเสียงของ 911 ก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบลง

1761102261520

ระบบที่ควรช่วยชีวิต กลับกลายเป็นต้นเหตุของความสูญเสีย

แม้ ไคล์ จะให้ข้อมูลครบถ้วน ทั้งสถานที่และรายละเอียดของรถ แต่สายด่วน 911 กลับล้มเหลวอย่างไม่น่าให้อภัย เจ้าหน้าที่รับสายระบุว่า “ไม่ได้ยินข้อมูลสำคัญ” และอ้างว่า “ระบบคอมพิวเตอร์ค้าง” ก่อนจะส่งข้อมูลผิดพลาดไปยังตำรวจ โดยรายงานว่าเป็น “หญิงชราติดอยู่ในรถ”

ตำรวจสองนายที่ได้รับแจ้งเหตุ ขับรถมาตรวจบริเวณลานจอด ใช้เวลาประมาณ 11 นาที แต่จากภาพกล้องบอดี้แคมพบว่า พวกเขาไม่เคยลงจากรถเพื่อเดินค้นหารถต้องสงสัยแม้แต่คันเดียว สุดท้าย พวกเขาขับออกไปโดยเชื่อว่า “ไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

t_c9ce048685ff440b9762aaf98cf

เมื่อพ่อคือคนแรกที่พบความจริง

หลายชั่วโมงต่อมา เมื่อ ไคล์ ไม่กลับบ้าน พ่อของเขาเริ่มรู้สึกผิดปกติ จึงใช้แอป Find My iPhone เพื่อตามหาสัญญาณโทรศัพท์ของลูกชาย เขาขับรถตามพิกัดไปจนถึงลานจอดของโรงเรียน และนั่นคือจุดที่เขาพบร่างของลูกชายที่ไร้ลมหายใจอยู่ในรถคันเดิม รถที่ ไคล์ ระบุไว้กับ 911 อย่างแม่นยำ

ผลการชันสูตรยืนยันว่าเขาเสียชีวิตจาก “การขาดอากาศหายใจเนื่องจากแรงกดทับที่ทรวงอก” หากความช่วยเหลือมาถึงเพียงไม่กี่นาทีก่อนหน้านั้น เด็กชายวัย 16 คนนี้อาจยังมีชีวิตอยู่

29e148ee-2d14-4448-a1b4-7f96e

เสียงสุดท้ายที่เปลี่ยนเมืองทั้งเมือง

เหตุการณ์นี้กลายเป็นข่าวใหญ่ทั่วสหรัฐฯ และกลายเป็นสัญญาณเตือนครั้งสำคัญถึงช่องโหว่ของระบบแจ้งเหตุฉุกเฉิน เมืองซินซินเนติจึงต้องเร่งปรับนโยบายครั้งใหญ่ ตำรวจทุกนายถูกกำหนดให้ “ลงจากรถและตรวจสอบพื้นที่ด้วยตนเอง” ทุกครั้งที่ได้รับแจ้งเหตุ และหากสาย 911 ถูกตัดโดยไม่ทราบสาเหตุ ต้องมีการติดตามซ้ำทันที

ระบบ 911 เองก็ได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่ ทั้งซอฟต์แวร์แผนที่ในรถตำรวจ ระบบ GPS ที่แม่นยำขึ้น และโปรแกรมฝึกเจ้าหน้าที่ให้รับมือกับสายแจ้งเหตุที่มีความเสี่ยงสูงอย่างมีประสิทธิภาพ

ในปี 2021 เมืองซินซินเนติได้ชดเชยความสูญเสียให้ครอบครัวพลัชด้วยเงินจำนวน 6 ล้านดอลลาร์ พร้อมให้คำมั่นว่าจะปรับปรุงระบบ 911 ต่อเนื่องภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญอีก 5 ปี เพื่อไม่ให้ความผิดพลาดแบบเดิมเกิดขึ้นอีก

38533798_229260634584450_6039

บทเรียนที่ไม่ควรถูกลืม

แม้ไม่มีสิ่งใดสามารถนำชีวิตของ ไคล์ พลัช กลับคืนมาได้ แต่เสียงร้องขอความช่วยเหลือครั้งสุดท้ายของเขาได้กลายเป็นแรงสั่นสะเทือนที่เปลี่ยนแปลงระบบความปลอดภัยของทั้งเมือง และอาจช่วยชีวิตผู้คนอีกนับไม่ถ้วนในอนาคต

ทุกครั้งที่มีคนโทรหา 911 แล้วได้รับความช่วยเหลือทันเวลา นั่นอาจเป็นผลจาก “เสียงสุดท้ายของเด็กชายวัย 16 ปี” ที่ไม่เคยถูกลืมเลยแม้แต่น้อย