กลายประเด็นดราม่าร้อนฉ่าในสังคมไทย เมื่อทาง “กัน จอมพลัง” ได้ออกมาชี้แจง ในกรณีที่ไม่ได้มีชื่อเป็นประธานมูลนิมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ รวมถึงเป็นคณะกรรมการมูลนิธิ เป็นเพียงที่ปรึกษา เพราะอยากให้องค์กรให้เป็นระบบ ไม่ได้ยึดโยงกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง พร้อมยืนยันมูลนิธิไม่มีส่วนได้ส่วนเสียหรือรับส่วนต่างใดๆ แต่ก็ได้มีอีกประเด็นระอุขึ้นมาอีก ถ้ามูลนิธิต้องเลิกล้มไป ทรัพย์สินทั้งหมดของมูลนิธิที่เหลืออยู่ให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า

โดยในเฟซบุ๊คของ นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์เอกสารส่วนหนึ่งของ มูลนิธิ “กันจอมพลังช่วยสู้” ในหมวดที่ 10 การแก้ไข เพิ่มติมข้อบังคับของมูลนิธิ ซึ่งไฮไลต์สำคัญคือ ในหมวดที่ 11 เรื่องการเลิกมูลนิธิ ข้อที่39

พร้อมข้อความ ตามข้อบังคับของมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ ข้อ 39 กำหนดว่า ถ้ามูลนิธิต้องเลิกล้มไป ทรัพย์สินทั้งหมดจะตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่ “มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า”

ซึ่งทาง “ไอซ์”รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน ก็ได้แชร์โพสต์ดังกล่าวของ ทนายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม พร้อมมีข้อความว่า
งานแต่ง : นัสดังได้เพราะกัน ส่วนกันก็อาศัยอำนาจบารมีนัสเราเกื้อกูล
ออกงาน : หน้าเฟซบุ๊คนัสมีกัน หน้าเฟซบุ๊คกันมีนัส ออกสื่อรักใคร่ ออกงานกระทรวงเกษตรขึ้นเวทีบอกมีวันนี้เพราะพี่นัส พี่ทำให้ผมผมก็อยากทำให้พี่ ให้ทุกคนปรบมือ แฮปปี้
การงาน : เคยทำมาหากินกับกองสลาก ที่ธรรมนัสได้ชื่อว่าเป็น 5เสือ รับงานกระทรวงเกษตรประปราย
ให้สัมภาษณ์ : กัน-นัส ไม่ใช่ลูกพี่ลูกน้อง แต่รักกันเหมือนพี่น้อง ถ้ามีใครทำอะไรกันก็เหมือนทำนัสด้วย

จัดตั้งมูลนิธิ : ถ้ามูลนิธิต้องล้มเลิกไป ทรัพย์สินทั้งหมดของมูลนิธิมอบให้ “มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า”
ออกสรยุทธ์ : ไม่สนิท ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ถ้าสนิทก็คงสนิทเหมือนนักการเมืองคนอื่นๆ
ข้อสังเกต : การกระทำไม่สัมพันธ์กับคำพูด สนิทก็บอกสนิท ทำไมต้องโกหกออกอากาศ ทำไมต้องหลีกเลี่ยงความจริง

อย่างไรก็ตามล่าสุด มีการอัปเดตจาก กัน จอมพลัง ว่า ในส่วนข้อ 39 หากเลิกมูลนิธิ กันจอมพลัง ตอนนี้ผมให้ทีมงานดำเนินการเปลี่ยน ให้ทรัพย์สินทั้งหมดไปเป็นของมูลนิธิที่มีความน่าเชื่อถือและมั่นคงแห่งนึง ซึ่งปัจจุบันมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ก็ยังไม่ได้เลิกยังคงทำงานอยู่ และปัจจุบันไม่มีเงินออกไปที่มูลนิธิธรรมนัส เวลาจะคัดคนครับ

cr.นรเศรษฐ์ นาหนองตูม





















