วันที่ 22 ตุลาคม 2568 เวลา 00.42 น. ร้อยตำรวจเอก นราศักดิ์ วงศ์โปรทา รองสารวัตร (สอบสวน) สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตจากการถูกแทงภายในบ้านพักย่านสุขสวัสดิ์ 38 แขวงบางประกอก เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร จึงนำกำลังพร้อมแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูรุดตรวจสอบทันที
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 38 มีรั้วรอบขอบชิด บริเวณห้องนอนภายในบ้านพบศพ นายมานิตย์ สุวอ อายุ 43 ปี อาชีพเก็บเงินกู้ นอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ขาสั้น ถุงเท้าสีดำ มีบาดแผลถูกแทงเข้าที่หน้าอกซ้ายและลำคอขวาเป็นแผลฉกรรจ์ เลือดนองพื้นทั่วห้อง ลักษณะคล้ายมีการต่อสู้รุนแรงก่อนเสียชีวิต
ส่วนผู้ก่อเหตุไม่หลบหนี ยืนรอมอบตัวอยู่ในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อ นายที (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี พร้อมลูกชาย 3 คน และเพื่อนลูกอีก 2 คน ซึ่งต่างได้รับบาดเจ็บจากของมีคมเล็กน้อย เจ้าหน้าที่อาสาได้ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
ใกล้กันพบ นางแหม่ม (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี ภรรยาของนายที มีบาดแผลฉกรรจ์ที่แขนซ้ายจากการถูกมีดบาดจนเป็นแผลเปิด เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือก่อนนำทั้งหมดไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สน.ราษฎร์บูรณะ
จากการสอบสวน น.ส.อาย (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี ลูกสาวผู้ก่อเหตุ ให้การว่า ผู้ตายมักมาหาพ่อของตนเพื่อขอยา “ได 10” ซึ่งเป็นยารักษาอาการทางจิต พอกินเข้าไปจะเกิดอาการเคลิบเคลิ้มคล้ายเมา วันเกิดเหตุผู้ตายเข้ามาในบ้านในสภาพคล้ายเมายา แล้วกล่าวหาว่าถูกขโมยโทรศัพท์ iPhone 14 จากนั้นเกิดอาละวาด ตบหน้าน้อง ๆ ของตน พร้อมชักมีดขู่ทุกคน เมื่อแม่เข้าไปห้ามก็ถูกมีดบาดแขนจนเลือดอาบ ทำให้พ่อและน้อง ๆ เข้าช่วยจนชุลมุน ก่อนจะเกิดเหตุแทงกันขึ้น
ด้านนางแหม่ม ภรรยานายที เผยว่า ผู้ตายมักมาหาเพื่อขอยาเสพติดจากสามี วันเกิดเหตุมาด้วยอาการหลอนและอ้างว่าโทรศัพท์หาย พอทุกคนปฏิเสธก็เกิดบันดาลโทสะ ใช้มีดข่มขู่และทำร้ายลูก ๆ ของตน ก่อนที่สามีจะเข้าไปช่วยและเกิดการต่อสู้ จนต้องแทงป้องกันตัว ยืนยันว่าผู้ตายเป็นฝ่ายเริ่มก่อเหตุ
ส่วนนายอามร์ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ลูกชายของนายที กล่าวเสริมว่า ขณะเกิดเหตุผู้ตายถือมีดขู่แม่และแทงพ่อของตน ตนกับพี่ชายพยายามเข้าช่วยแต่ถูกมีดฟันได้รับบาดเจ็บ
ขณะที่นายที ผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่า ตนมีโรคประจำตัวต้องกินยา “ได 10” จากโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยาเป็นประจำ ผู้ตายมาหาตนเพื่อขอยาดังกล่าว พอกินเข้าไปเกิดอาการเมา หาว่าโทรศัพท์ไอโฟนของตนหาย ก่อนยึดโทรศัพท์ของลูก ๆ ไปทั้งหมด 4 เครื่อง และขู่จะเอาคืนเมื่อได้ของตนกลับมา จนเกิดการโต้เถียงชุลมุน เมื่อเห็นภรรยาและลูกถูกทำร้าย จึงคว้ามีดแทงสวนไปโดยไม่ทันรู้ตัว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมเชิญผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดไปสอบปากคำเพิ่มเติม และจะตรวจสอบอาวุธที่ใช้ก่อเหตุอย่างละเอียด ขณะที่ศพผู้ตายถูกส่งชันสูตรยังนิติเวชโรงพยาบาลศิริราช ก่อนมอบให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา
ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวนหาสาเหตุแน่ชัด พร้อมเตรียมแจ้งข้อหานายที ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” แต่จะพิจารณาเรื่องการป้องกันตัวอีกครั้งจากผลการสอบสวนเพิ่มเติม