“อิชิอิโดนปลดฟ้าผ่า” กลายเป็นประเด็นร้อนในวงการฟุตบอลอย่างมาก เพราะดูท่าว่าการประกาศแยกทางในครั้งนี้ระหว่าง สมาคมฟุตบอลทีมชาติไทยฯ และ มาซาทาดะ อิชิอิ โค้ชชาวญี่ปุ่นวัย 58 ปี จะจบลงไม่สวยซะแล้ว เพราะหลังจากที่โดนปลดแบบไม่ทันตั้งตัว อิชิอิ ได้ระบายความรู็สึกผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวแบบเดือดปุดทีเดียว
โดยทาง สมาคมฟุตบอลทีมชาติไทยฯ ได้อธิบายเหตุผลว่า การปลดมาซาทาดะ อิชิอิ เพราะ ทางการทำงาน และ แนวทางการทำทีมที่ไม่ตรงกับ สมาคมฯ จากการพิจารณา ติดตาม และ ประเมิน โดยฝ่ายเทคนิคสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พร้อมทั้งบอกว่า ด้วยสาเหตุของปัญหา แนวทางการทำทีมในช่วงที่ผ่านมา ที่ไม่สอดคล้องกับการประเมินของฝ่ายเทคนิค รวมถึงผลงานภาพรวม ตั้งแต่เข้ามาคุมทัพช้างศึก เมื่อเดือน ธันวาคม 2023 ด้วยสถิติชนะ 16 จาก 30 นัด หรือคิดเป็น 53%
ทว่าทาง โค้ชญี่ปุ่นวัย 58 ปี กลับออกมาตอกกลับแบบร้อนยิ่งกว่าอากาศเมืองไทยว่า โดนถูกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยเรียกไป โดยบอกว่า “มาทบทวนสองนัดที่แข่งกับไต้หวันกันเถอะ!”
แต่หลังจากที่การประชุมทบทวนจบลง ฉันก็ถูกบอกอย่างกะทันหันว่า “วันนี้เราจะยกเลิกสัญญา” เหตุผลคือ “ต้องการเปลี่ยนทีมสตาฟฟ์ของแต่ละชุดทีมชาติ” แต่เพราะยังทำใจไม่ได้ จึงไม่ได้ตอบตกลงหรือเซ็นเอกสารใด ๆ โดยบอกเพียงว่า “ไว้คุยกันครั้งหน้า”
“แต่แล้วตอนบ่ายก็มีการประกาศปลดออกอย่างเป็นทางการ…ช่างเป็นการกระทำที่ไร้ความจริงใจเสียจริง
ถึงทุกคนที่ได้ให้การสนับสนุนทีมชาติไทยของพวกเรา
ผมขอขอบคุณจากใจจริงครับ”
แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้ให้แฟนบอลไทยไม่พอใจอย่างมาก ต่างวิพากาวิจารณ์กันอย่างต่อเนื่อง หลายคนถึงขั้นย้อนไปวันแรกตั้งแต่การคุมทีมของ อิชิอิ ว่า เป็นโค้ชต่างชาติคนแรกที่ แฟนบอลไทยรักมาก เพราะนอกจากจะรับไม้ต่อมาจาก มาโน่ โพลกิ้ง ในช่วงที่ทีมชาติไทยอาการหนักแล้ว การคุมทีม 30 นัด ชนะ 16 แพ้ 8 เสมอ 6 ในทุกรายการในระยะเวลาเกือบ 2 ปีถือว่าไม่แย่เกินไป อีกทั้งยังมีโอกาสลุ้นเข้ารอบเอเชียน คัพ 2027 อีก
แถมทุกครั้งที่เห็น มาซาทาดะ อิชิอิ ซึ่งเป็นคนญี่ปุ่นแท้ๆ แต่กลับร้องเพลงชาติไทยทุกครั้งที่ลงสนามและมีการเคารพเพลงชาติ ยิ่งทำให้คนไทยรักมาก เพราะไม่มีโค้ชต่างชาติคนไหนเคยทำมาก่อน ซึ่ง มาซาทาดะ อิชิอิ พยายามอย่างมากที่ฝึกร้องเพลงชาติไทยทุกวัน อีกทั้งในช่วงแรกๆ ยังถือโพยเพลงชาติไทยตามไปร้องร่วมกับลูกทีมและสต๊าฟฟ์ กระทั่งสามารถร้องเพลงชาติไทยได้แบบไม่ต้องอ่านเนื้อ แต่ไม่ทันจะได้คล่องปากดีก็มาโดนปลดกะทันทัน
และหลังเกมทุกครั้ง มาซาทาดะ อิชิอิ จะเข้าไปพูดคุยกับแฟนบอลทุกครั้ง เมื่อชนะจะเข้าไปทักทาย หรือ เวลาแพ้ ก็จะเข้าไปขอโทษแฟนบอลด้วยตนเอง ยิ่งทำให้แฟบอลไทยหลายกลุ่มยิ่งรักและพร้อมจะซัพพอร์ตโค้ชชาวญี่ปุ่นคนนี้ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตามต้องติดตามชมกันต่อไปว่า เส้นทางของ ทีมชาติไทย จะดำเนินไปในท้ศทางไหน เพราะยังเหลืองานยากอย่างช่วงฟีฟ่า เดย์ เดือนพฤศจิกายน เพื่อทำศึก เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก กลุ่ม D นัดที่ 5 ด้วยการออกไปเยือน ศรีลังกา ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 ก่อนจะตามด้วยนัดตัดสิน เจอ เติร์กเมนิสถาน ในวันที่ 31 มีนาคม 2569
