กรณีสำนักข่าวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้นำเสนอข่าวว่า หญิงสาวชาวเบลารุส ชื่อ VERA KRAVTSOVA อายุ 26 ปี ถูกจ้างมาเป็น นางแบบ และเดินทางเข้าไทยช่วงเดือน ก.ย.2568 และถูกอุ้มไปเมียนมา ก่อนถูกบังคับให้รีดไถเงิน ในเว็บไซด์หาคู่ ถูกทรมาน และแบ่งตัดขายอวัยวะ ล่าสุด สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆแล้ว
ในวันที่ 21 ต.ค.68 พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี รอง ผบช.ฯ ช่วยราชการ สตม. ในฐานะ โฆษก สตม. เปิดเผยว่า พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้สั่งให้มีการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรของบุคคลดังกล่าวอย่างละเอียดแล้ว ผ่านระบบฐานข้อมูล Biometric
ผลการตรวจสอบพบว่ามีชื่อ Ms.VERA KRAUTSOVA สัญชาติ เบลารุส (BLR) ได้เดินทาง เข้ามาประเทศไทยเมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 เวลา 00.41 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และต่อมาได้เดินทางออกจากประเทศไทย ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG301 มื่อวันที่ 20ก.ย.68 เวลา 07.20 น. ผ่านจุดตรวจคนเข้าเมืองขาออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ปลายทางสนามบินย่างกุ้งประเทศเมียนมาร์
ซึ่งระบบ Biometric ยืนยันว่าเป็นบุคคลเดียวกัน โดย Ms. VERA ผ่านการตรวจหนังสือเดินทางด้วยระบบ Automatic Channel หรือเครื่อง ABC ซึ่งเป็นการผ่านระบบด้วยตนเอง ไม่ผ่านเจ้าหน้าที่ ตม. และจากภาพวงจรปิด พบว่า ไม่อยู่ในสภาวะถูกบังคับในการเดินทางแต่อย่างใด
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนางแบบดังกล่าวบินไปเมียนมาร์แล้ว จะเป็นอย่างไร ตนไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากเป็นข้อมูลที่อยู่นอกการควบคุมของประเทศไทย
นอกจากนี้ สตม. ยังได้นำภาพถ่ายที่ถูกบันทึกโดยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของ สตม. ที่บันทึก Ms.VERA เดินทางเข้าและออก ส่งให้สถานกงสุลเบลารุส ประจำประเทศไทย
อีกส่วนหนึ่งด้วย
ยืนยันว่า กรณีการหลอกเหยื่อผ่านไทย ไปยังพื้นที่สแกมเมอร์ประเทศเพื่อนบ้านลักษณะดังกล่าว ทาง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รอง ผบ.ตร. / ผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ตร.และพล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม.ได้ วางแนวทางในการคัดกรองคนต่างชาติไม่ให้ถูกหลอกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งแต่ สัมภาษณ์คัดกรองที่สนามบิน ลงข้อมูลที่พักในระบบ TDAC การตั้งด่านสกัดของทหาร ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ในพื้นที่ จว.ตาก รวมถึงการปฎิเสธการเข้าเมืองของบุคคลที่เสี่ยงต่อการเป็นกลุ่มขบวนการทึ่แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว
โดยใช้ Free Visa
ซึ่งตั้งแต่ต้นปีมาจนปัจจุบัน มีการปฎิเสธการเข้าเมืองไปแล้ว 34,000 รายจึงฝากสื่อมวลชน ช่วยสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้มั่นใจว่า ประเทศไทยมีความปลอดภัย ไม่มีการอุ้มคนต่างชาติเพื่อลักลอบพาไปค้ามนุษย์ในประเทศเพื่อนบ้านตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด