วันที่ 18 ต.ค. 256 ที่วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สถานที่ประกอบพิธีรดน้ำศพ สวดอภิธรรมบำเพ็ญกุศลอดีตพระเอกดัง หรือ นายอุดมพร คชหิรัญ ที่เสียชีวิตลงอย่างสงบเมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2568 สิริอายุ 79 ปี โดยมีคนบันเทิงอดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ต่างมาร่วมอาลัยด้วยความโศกเศร้า
โดยนักแสดงสาว ตู่ จารุศิริ ลูกสาว นาท ภูวนัย ได้ออกมาเปิดใจ เล่าการรักษา พร้อมเผยสาเหตุการเสียชีวิตของคุณพ่อว่า
คุณพ่อผ่าตัดลิ้นหัวใจรั่วมาเมื่อประมาณเกือบ 2 เดือนแล้ว คุณหมอได้บอกไว้อยู่แล้วว่าหัวใจคุณพ่อเหลือทำงานอยู่แค่ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ฉะนั้นในการผ่าตัดลิ้นหัวใจก็ 50:50 ตื่นมาเขาอาจจะฟื้นเป็นปกติ กับอีกอย่างคือเขาอาจจะไม่ฟื้น ณ ตอนนั้นเราต้องตัดสินใจกัน ตัวคุณพ่อจริงๆแกไม่อยากผ่า ท่านว่าท่านอายุเยอะแล้ว แต่ถ้าไม่ผ่าตัดคุณพ่อจะต้องมีอาการน้ำท่วมปอดไปทุกเดือน อาจจะอยู่ได้ประมาณ 5-6 เดือน ทุกคนลงความเห็นว่าพ่อผ่าเถอะ ผ่าพ่ออาจจะดีขึ้น ดีกว่ามาน้ำท่วมปอดทุกเดือนไปในเวลา 6 เดือน เราก็ทำใจไม่ได้ถ้าจะเป็นอย่างนั้น
คุณพ่อป่วยมาประมาณ2-3 ปีได้แล้ว ด้วยโรคหัวใจ แต่เพิ่งมาทราบทีหลังว่าเป็นลิ้นหัวใจรั่ว ก็จะมีอาการน้ำท่วมปอดมาตลอดทุกๆ2เดือน มา 2-3 ปี ไปรับละครก็ไปถ่ายได้ครั้งเดียว กลับบ้านแกก็บอกเหนื่อย เราก็เข้าใจว่าแกอาจจะแก่เลยเหนื่อย แต่จริงๆมันคืออาการของน้ำท่วมปอด ตัวคุณพ่อแกมีกำลังใจมากๆ หลังผ่าไป 2 อาทิตย์อาการแกก็ยังดีอยู่ จากนั้นแกเริ่มติดเชื้อ อาการแกเลยแย่ลง อาการแกก็จะขึ้นๆลงๆ
จนคุณพ่อไม่สามารถขับของเสียทางปัสสาวะออกมาได้ คุณหมอจึงลงความเห็นให้ฟอกไต จึงต้องทำการเปิดแผลที่หน้าท้อง ฟอกไปแล้วอาการเหมือนจะดีขึ้น 1 อาทิตย์ก่อนจะเสีย มาตรวจพบเลือดในช่องท้องเกือบครึ่งกระเพาะจากรอยโรค ทำให้ไม่สามารถฟอกไตทางหน้าท้องได้แล้ว ต้องหยุดทำการฟอกไต ไม่สามารถฟอกไตได้ คุณหมอให้ยาสลบคุณพ่อตลอด เพราะถ้าตื่นขึ้นมาท่านจะทรมาน แกจะเจ็บมาก ท่านก็จะหลับตลอด 1 อาทิตย์ คุณหมอบอกไม่ควรผ่าตัดแล้ว เพราะแกอายุเยอะ อาการแกไม่ได้ดีขึ้นมีแต่ทรงกับทรุด แกก็จะหลับตลอด คุณหมอแทบจะทำให้พวกเราหลอนโทรศัพท์ไปเลย ตี1 บ้าง ตี 3 บ้าง
1-2 อาทิตย์ที่ผ่านมาเราก็เตรียมใจเอาไว้บ้าง แต่เราไม่อยากคิด น้องชายโทรมาตอนนั้นโรงพยาบาลโทรมานะ เราทำใจไปแต่ใจมันก็ไม่อยากจะทำ มันเหมือนหลอกตัวเองว่าพ่อต้องอยู่ได้แหละ เดี๋ยวเขาก็ดีขึ้น ในช่วงนั้นตู่มีไปทำงานที่อุบลฯ มันก็เป็นหน้าที่ของเรา ก็ไปหาแกที่โรงพยาบาลบอกแกว่าพ่อต้องรอตู่กลับมานะ พอตู่กลับมา คุณหมอโทรให้คุณแม่กับพี่สาวรีบไปหาคุณพ่อตอนสายๆ ก็ไปยืนคุยกับพ่อ (ร้องไห้) ตู่มาหาตามสัญญาแล้ว พ่ออยากจะตื่นขึ้นมาคุยไหม พ่อไม่ต้องห่วงคุณแม่นะ ตู่จะดูแลแม่และคนที่บ้านให้ ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งสิ้นแล้ว ตู่รู้ว่าพ่ออยู่โรงพยาบาลมาเหนื่อยมากแล้ว จำได้ตอนท้ายสุดที่พ่อมีเสียงคุย แกอยากกินน้ำแข็ง เพราะแกไม่ได้กินอะไรทางปากเลย อันนั้นคือการพูดจากันครั้งสุดท้าย ถามพ่ออยากจะกินอะไร
ตอนที่เห็นจอคุณพ่อ อะไรๆมันค่อยๆลดลงก็เลยบอกเขาว่าแม่กำลังจะมา รอแม่ก่อน อย่าเพิ่งไปไหน พอทุกคนมาถึง แม่ก็บอกพ่อ ทำไมปาฏิหาริย์ไม่มีจริง ทำไมพ่อไม่อยู่ต่อหรือพ่อเหนื่อยแล้ว ถ้าพ่ออยากอยู่พ่อต้องสู้ แต่ถ้าพ่อเหนื่อยแล้วไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องห่วง จากนั้นหัวใจ ความดันคุณพ่อก็ค่อยๆลดลง เรามองหน้าพ่อ แกมีอาการชักเกรง คุณหมอบอกว่าเป็นเพราะยาที่ให้มันถึงขีดสุดแล้ว เราเห็นมอนิเตอร์หัวใจเป็นศูนย์ แต่ด้วยพ่อใส่เครื่องช่วยหายใจ การหายใจก็เลยยังทำงานอยู่ แต่จริงๆ คุณพ่อจากไปแล้ว
ตอนนั้นคุณแม่ก็เอาพระที่ท่านใส่ตลอดให้แกกำไว้ในมือ คุณหมอก็วัดชีพจร แล้วบอกว่าหัวใจพ่อไม่เต้นแล้ว สาเหตุการเสียชีวิต คุณหมอสันนิษฐานว่ามาจากการติดเชื้อ แกติดเชื้อทั้งหมด 3 ครั้ง แกอายุเยอะมากแล้วแกก็สู้ไม่ไหว ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก มันกะทันหันมากๆ เราเตรียมทุกอย่างไว้รอพ่อกลับบ้าน ไม่คิดเลย
ที่ตู่อยู่ในวงการมาได้ 25 ปีเพราะคุณพ่อเลย แกบอกตู่ทุกอย่าง การทำงานในวงการต้องทำตัวยังไง ที่เราทำมาตลอดคิดว่าท่านภูมิใจกับตัวลูกสาวมาก 24 ปีที่อยู่วงการยังมีงานตลอด จากนี้ก็จะเก็บไว้ 100 วัน พอดีว่าน้องสาวคุณพ่อเพิ่งผ่าตัด ท่านก็อยากจะมากราบลา เราเลยจะเก็บไว้ 100 วัน
ตู่ จารุศิริ ยังกล่าวอีกว่างานบำเพ็ญกุศลวันนี้จัดงานอย่างสมเกียรติ คุณพ่อได้รับพระราชทาน เครื่องเกียรติยศ ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น เป็นเกียรติครั้งสุดท้ายของคุณพ่อ คุณพ่อทำงานตรงนี้มานานมากจริงๆ