หมอเหรียญทอง บุก สปสช. ปมหยุดให้บริการผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง ลั่นกำลังใช้ผู้ป่วยเป็นตัวประกันและไม่มีความจริงใจในการแก้ปัญหา
กรณี พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความแจ้งจะหยุดให้บริการผู้ป่วยสิทธิ์บัตรทองของโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติค้างชำระค่าบริการรวมเป็นเงินกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งต่อมาทางกลุ่มประชาสัมพันธ์ของ สปสช. แจ้งสื่อมวลชนจะเปิดแถลงข่าวชี้แจงกรณีดังกล่าวโดย ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จะเป็นผู้แถลงข่าว
และในเวลาต่อมาประมาณช่วงเที่ยง วันที่ 8 ต.ค.68 ได้รับข้อมูลว่า พล.ต.นพ.เหรียญทอง จะเดินทางมาร่วมฟังการแถลงพร้อมกับทวงถามมาตรการจาก สปสช. ทำให้ในช่วง 13.00 น. ทางทีมประชาสัมพันธ์ สปสช. มีการแจ้งยกเลิกการแถลงข่าวกับสื่อมวลชน แต่ทั้งนี้ในเวลา 15.00 น.พล.ต.นพ.เหรียญทอง ได้เดินทางมายังสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและเพิ่งได้รับทราบว่าการแถลงข่าวถูกยกเลิก รู้สึกโกรธ
พร้อมกลับให้สัมภาษณ์สื่อหน่วยระบุว่าวันนี้ตามความตั้งใจต้องการมาเพื่อรับฟังการแถลงข่าวแต่เมื่อมายกเลิกกะทันหันมองว่าผู้บริหารของ สปสช. ไม่มีความจริงใจเหมือนเช่นที่ผ่านมาหลายครั้งที่ตนเคยทวงถามการชำระเงินค่ารักษาผู้ป่วยก็ไม่ได้รับคำตอบเช่นกัน
สำหรับโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะเปิดรับให้บริการสิทธิ์บัตรทอง ในปี 2563 ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงที่ สปสช. มีการยกเลิกหน่วยบริการคลินิกหลายแห่ง จึงได้รับการประสานจาก สปสช. ให้โรงพยาบาลช่วยรับผู้ป่วยสิทธิ์บัตรทองเข้ารับบริการ และต่อมาก็พบปัญหาการเบิกจ่ายจากคลินิกปฐมภูมิซึ่งในครั้งนั้นมียอดค้างจ่ายของ สปสช. กับทางโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ประมาณ 13 ล้านบาท
ซึ่งทางโรงพยาบาลก็ดำเนินการตามขั้นตอนและขณะนี้เรื่องยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาไต่สวนของศาลปกครอง ขณะที่ในปี 2567 เป็นต้นมาก็พบปัญหาเดิมคือ สปสช. ชำระค่าบริการให้หน่วยบริการล่าช้า ทำให้มียอดค้างชำระอีก ซึ่งทางโรงพยาบาลพยายามทวงเรื่อยมาแต่ไม่ได้รับคำชี้แจงหรือความจริงใจจาก สปสช. และยังมีการ ปรับเกณฑ์ค่าใช้จ่ายการเบิกจ่ายของผู้ป่วยนอกใหม่ โดยไม่แจ้งให้หน่วยบริการทราบล่วงหน้าด้วย
ทำให้ มียอดหนี้คงค้างรวมประมาณ 40 ล้านบาท และ จนถึงปีงบประมาณ 2568 ที่มีการค้างชำระเพิ่มเติมอีกจึงทำให้ขณะนี้มียอดรวม 110 ล้านบาท
พล.ต.นพ.เหรียญทอง กล่าวอีกว่าหากตอนนี้ทางโรงพยาบาลยังให้การรักษาผู้ป่วยต่อไปอาจส่งผลให้เกิดปัญหาและกระทบสภาพคล่องทางการเงินของโรงพยาบาลที่ในขณะนี้เองก็อยู่ในระดับวิกฤต จึงมีความจำเป็นต้องหยุดการให้บริการผู้ป่วยสิทธิ์บัตรทองก่อน จนกว่าจะได้รับเงิน ที่ค้างอยู่ ซึ่งการหยุดให้บริการนี้อาจส่งผลกระทบกับผู้ป่วย โดยจะยังคงให้การดูแลผู้ป่วยกลุ่มวิกฤตผู้ป่วยในที่มีความจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาตัวอยู่
อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์นี้มองว่า สปสช. กำลังใช้ผู้ป่วยเป็นตัวประกันและไม่มีความจริงใจในการแก้ปัญหา ยืนยันที่ผ่านมาโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะดำเนินการทุกอย่างอย่างโปร่งใสตรงไปตรงมา
ซึ่งหากรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ก็จะไม่ขอรับผู้ป่วยสิทธิ์บัตรทองตั้งแต่เริ่ม ทุกครั้งที่ติดต่อเพื่อทวงถามเรื่องเงินผู้บริหาร อย่าง นายแพทย์จะเด็จ ธรรมทัศน์อารี เลขาธิการ สปสช. ก็พูดจาแบบสุนัข หายหัว ติดต่อไม่ได้ วันนี้ที่มาก็ต้องการจะมาเจอพูดคุยกลับไม่ได้เจออีก
ผมต้องการอยากจะเจอเพื่อมาพูดคุยกันว่าจะจ่ายหนี้ผมอย่างไร จะทยอยผ่อนจ่ายก็รับ มีอะไรก็ขอมาพูด ที่ผ่านมาไม่มีการพูดไม่มีการส่งสัญญาณ มีแต่หลบ เป็นหนี้ต้องใช้ ผมเองก็ต้องกินต้องใช้มีลูกน้องต้องดูแล จนตอนนี้ผมต้องไปกู้เงินธนาคารมาเพื่อจ่ายเงินเดือนพนักงานทั้งที่ในชีวิตไม่เคยต้องเป็นหนี้