ข่าววันนี้

Home ข่าววันนี้

รายชื่อผู้เสียชีวิต เหตุรถไฟชนกระบะ ดับยกคัน

เวลา 10.30 น. พ.ต.ต ชินวงศ์ อินทร์ทอง สว.(สอบสวน) สภ.ละแม จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุรถไฟชนรถกระบะ บริเวณถนนทางตัดข้ามทางรถไฟบ้านหัวมาด ม.5 ต.ทุ่งหลวง อ.ละแม มีผู้เสียชีวิตหลายราย จึงรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษมชุมพร เร่งตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.ชัฎชฎาภา เจริญจริง อายุ 44 ปี, นางสายใจ ทวีศิลป์ อายุ 51 ปี และ นายประเจิด ทวีศิลป์ อายุ 57 ปี ร่างกระเด็นออกจากตัวรถห่างจากจุดทางตัดรถไฟประมาณ 200 เมตร

ห่างจากจุดพบผู้เสียชีวิตประมาณ 1 กม. พบรถกระบะสีขาว สภาพถูกรถไฟชนยับเสียเป็นเศษเหล็กทั้งคันอยู่ริมทางรถไฟ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ห่างจากซากรถกระบะประมาณ 30-40 เมตร พบขบวนรถไฟสปรินเตอร์ สุราษฎร์ธานี – กรุงเทพ จอดนิ่งอยู่ โดยมีพนักงานการรถไฟยืนรอให้การอยู่ท้ายขบวน

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อสรุปหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่แท้จริงต่อไป

มีรายงานเพิ่มว่า ทางตัดรถไฟดังกล่าวเป็นถนนลูกรังเล็ก ๆ ไม่มีสัญญาณไฟเตือน ซึ่งรถที่สัญจรไปมา ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูง โดยที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

ด่วน!! จังหวัดนครปฐม เร่งตั้งแนวกั้นน้ำท่าจีน

วันที่ 17 ก.ย. 67 ผู้สื่อรายงานสถานการณ์การเตรียมความพร้อมในการเตรียมรับมวลน้ำจากภาคเหนือที่จะผ่อนถ่ายมายังแม่น้ำท่าจีน ซึ่งในส่วนพื้นที่ภาคกลางจังหวัดนครปฐม มีพื้นที่ที่เป็นที่ลุ่มและน้ำท่วมมาแล้ว ซึ่งมีพื้นที่นาข้าว สวนเกษตรและงานประมง ในพื้นที่ซึ่งได้มีการติดตามข้อมูลจากจังหวัดเชียงรายซึ่งเป็นต้นน้ำ โดยได้คาดการณ์ว่าปีนี้น้ำจะเอ่อล้นแม่น้ำท่าจีน เข้ามาในพื้นที่ต่างๆ ที่จะสร้างความเสียหายให้กับเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่

โดยจุดต่างๆ เช่นตลาดน้ำวัดลำพญา ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังทางนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลลำพญา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและเร่งการดำเนินการในการตั้งแนวกระสอบทรายเพื่อป้องกันมวลน้ำอย่างเร่งด่วนซึ่งปีนี้ได้มีการยกระดับการใช้แนวกระสอบทรายวางกั้นมากกว่าทุกครั้งเพราะมีประสบกาณณ์ที่แนวกั้นทานแรงน้ำไม่ไหวและทำให้ทรุดตัวมีมวลน้ำทะลักเข้าในพื้นที่จนเกิดความเสียหายมาแล้ว

นายขจรเกียรติ นิพัฒน์โภคัย นายกเทศบาลตำบลลำพญา กล่าวว่า เมื่อต้นปีในพื้นที่อำเภอบางเลนก็ได้มีการรับมวลน้ำไปครั้งหนึ่งแล้ว จากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมา ซึ่งการติดตามข้อมูลจากกรมชลประทานทราบว่า ตอนนี้ปริมาณน้ำจะมีลักษณะเหมือนปี 64 ซึ่งเมื่อปี 65 ก็ได้มีการท่วมไปแล้วและคาดว่าปีนี้ก็จะคล้ายปี 65 ที่ผ่านมา

นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลลำพญา กล่าวต่อไปว่า ตอนนี้ในส่วนที่ลุ่มจะมีการเสริมแนวกระสอบทราย เป็น 4 ชั้น และมีความสูงตามพื้นที่ ส่วนอื่นก็จะตั้งแนวกำแพงตั้งรอรับไว้ซึ่งหากมีมรสุมเข้าตั้งแต่กลางเดือนกันยายนถึงช่วงปลายเดือน หากทางจังหวัดสุพรรณบุรีทำการเก็บเกี่ยวพืชผลไปแล้วและมีมรสุมเข้ามาอีกก็คาดว่าแม่น้ำท่าจีนมีโอกาสที่จะได้รับการผ่องถ่ายน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยามากขึ้น ก็จำเป็นจะต้องมีมาตรการป้องกันไว้ก่อน ซึ่งเป็นแผนของจังหวัดนครปฐมที่ทางนายอำเภอบางเลนก็ได้กำชับมาเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ราชการและสถานที่สำคัญต่างๆ โดยได้ประสานกับทางหน่วยงานเช่นการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจากโรงเรียนการบินกำแพงแสน ลูกจ้างของเทศบาลที่จะระดมกำลังในเรื่องของกระสอบทราย โดยช่วงนี้เป็นฤดูน้ำหลากประกอบกับแม่น้ำท่าจีนมีแรงหนุนจากน้ำทะเล ก็เชื่อว่าไม่นานนี้จะมีระดับที่สูงขึ้นกว่าปัจจุบันนี้แน่ๆ

สำหรับอำเภอบางเลน เป็นพื้นที่ของจังหวัดนครปฐม ซึ่งมีแม่น้ำท่าจีนไหลผ่านจากจังหวัดสุพรรณบุรี และมีอำเภอนครชัยศรี อำเภอสามพราน เป็นด่านสุดท้ายก่อนจะไปที่จังหวัดสมุทรสาครและระบายออกสู่ทะเลต่อไป ซึ่งเมื่อครั้งน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 54 ก็มีพื้นที่บางส่วนน้ำท่วมสูงถึง 4 เมตรและเมื่อปี 65 ก็มีระดับน้ำท่วมอีกครั้งแม้จะไม่เท่าปี 54 แต่ก็มีผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่เป็นวงกว้าง ในปีนี้มีสถานการณ์วิกฤติของจังหวัดเชียงราย หน่วยงานภาครัฐและเกษตรกร รวมถึงชาวบ้านจึงมีการจับตามวลน้ำรวมถึงพายุและมรสุมที่จะมีผลกระทบต่อไปจากนี้เป็นพิเศษ

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.นครปฐม รายงาน

ด่วน!! บุกจับกุมตัว สาวิกา

ตามนโยบายรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้ความสำคัญกับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 สั่งการให้ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3 เร่งรัดปราบปรามจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าว เพื่อลดความเดือดร้อนให้กับประชาชนจากการสูญเสียทรัพย์สินและตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

สืบเนื่องจากคดีนี้ ผู้เสียหายแจ้งว่าได้มีคนร้ายโทรมาอ้างเป็นเจ้าหน้าไปรษณีย์ไทย สำนักงานใหญ่ แจ้งว่ามีพัสดุผิดกฎหมายจัดส่งในนามผู้เสียหาย หลังจากนั้นได้โอนสายให้กับบุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แหลมฉบัง  โดยอ้างว่า ผู้เสียหายเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน และคดียาเสพติดจำนวน 20,000 เม็ด เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ให้ผู้กล่าวหาโอนเงินไปตรวจสอบ หากไม่เกี่ยวข้องจะได้รับการคุ้มครองจาก ปปง. และโอนเงินทั้งหมดคืนให้ผู้เสียหาย ผู้เสียหายหลงเชื่อกลอุบายของคนร้ายจึงได้โอนเงินไปให้คนร้ายจำนวน 2 ครั้ง รวมมูลค่าความเสียหายจำนวน 91,369.94  บาท

พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ผบช.สอท. สั่งการให้ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3  ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนดำเนินการสืบสวนและเร่งรัดจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดี

ต่อมาวันที่ 16 กันยายน 2567 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 นำโดย พ.ต.ท.สมพร บุตรวงศ์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3 ได้สืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวหลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และวางแผนจับกุม จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาดังกล่าวได้ คือ นางสาวสาวิกา อายุ 29 ปี ชาวอำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นตนอื่น,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่ง ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดย ประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน นำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.สอท.3 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล รายงาน

น่าตก ใจมาก “ทนายรณรงค์” เปิดข้อมูล ผลสอบกรณี“ครูเบญ” ล่าสุด

ความคืบหน้าล่าสุด กรณี “ครูเบญ” ครูสาวสอบติดครูอันดับ 1 ก่อนผ่านไป 3 วัน ชื่อหายปริศนา ตอนนี้ สพม.สระแก้ว ประกาศเลื่อน รายงานตัวพนักงานราชการครู จนกว่าผลสืบสวน ครูเบญ จะเสร็จสิ้น

และด้าน เพจ มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม – CRSJ Foundation ได้ออกมาโพสต์ข้อความดังนี้ #สอบเดือด เคสครูชื่อหาย

ทางมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้ข้อมูลมาว่าผลสอบตอนนี้ยังไม่พบการทุจริตเลยจ้าพบแต่ความประมาทเลินเล่อของเจ้าหน้าที่

น่าตกใจมาก

ส่วนการเปิดเผยข้อสอบครูและกระดาษคำตอบ ผู้ใหญ่ในกระทรวงท่านก็สั่งให้เปิดอยู่ แต่สพฐ.จะเปิดกี่โมง#ครูเบญ #เปิดข้อสอบแล้วบอกด้วย

น่าตกใจมาก "ทนายรณรงค์" เปิดข้อมูล ผลสอบกรณี "ครูเบญ" ล่าสุด

ทั้งนี้ นางพันทิพา สวาสุ รองผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว รักษาราชการแทน ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว ได้ลงนามในนังสือประกาศเลื่อนการรายงานตัวผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งครูผู้สอน

ตามที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว ได้ประกาศแก้ไขบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการสรรหา และเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งครูผู้สอน สังกัดสพม.สระแก้ว ประกาศวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา

ด้วยปรากฏตามที่ สพฐ.ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ในกรณีการดำเนินการสรรหา และเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งครูผู้สอน สังกัดสพม.สระแก้ว เพื่อให้เป็นไปโดยความถูกต้อง และเกิดความเป็นธรรม

น่าตกใจมาก "ทนายรณรงค์" เปิดข้อมูล ผลสอบกรณี "ครูเบญ" ล่าสุด

จึงให้เลื่อนกำหนดการรายงานตัวผู้ผ่านการสรรหา และเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งครูผู้สอน จำนวน 5 วิชาเอก ตามประกาศฉบับดังกล่าว ออกไปก่อน เมื่อดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นแล้วจะประกาศให้ทราบต่อไป

แม่ลี บริจาค 1 แสน ช่วยน้ำท่วมเชียงราย บอก แก้มบุ๋ม ไม่ต้องเสียใจโดนแซะ

แม่ลี บริจาค 1 แสน ช่วยน้ำท่วมเชียงราย ตอบปม แก้มบุ๋ม โดนแซะ เรื่องบริจาคช่วยน้ำท่วมน้อย บอกลูกสาวไม่ต้องเสียใจทำต่อไป มีเงินช่วยเหลือสังคม

‘แม่ลี’ ศริญญา สิทธาไชย หรือ คุณแม่ของดาราสาว แก้มบุ๋ม ปรียาดา เป็นอีกหนึ่งคนที่เดินทางมอบเงินบริจาค 1 แสนบาท ให้กับ บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ประธานองค์กรทำดี ในงานรวมตัวเฉพาะกิจของนักร้องลูกทุ่ง และองค์กรทำดี ไลฟ์สดเพื่อหารายได้ไปช่วยฟื้นฟูโรงเรียนที่ถูกน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ที่เซียร์รังสิต

แม่ลี บริจาค 1 แสน ช่วยน้ำท่วมเชียงราย บอก แก้มบุ๋ม ไม่ต้องเสียใจโดนแซะ

หลังจากนั้น ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงเรื่องที่ แก้มบุ๋ม ลูกสาวโดนชาวเน็ตแซะเรื่องบริจาคช่วยน้ำท่วมน้อย

มอบเงินบริจาค 100,000 บาทให้กับองค์กรทำดี? “ดีใจค่ะ แม่เป็นคนเตรียมตัวเรื่องการใช้จ่ายในชีวิต เพิ่งไปประเทศเกาหลีใต้ ที่โรงพยาบาลวิว แล้วได้เปอร์เซ็นออกมาตอนนี้ 60,000 หลังวันที่ 19 ก็ได้มาอีก 80,000 แม่ก็คิดว่าวันนี้เอาเงินที่แม่เป็นคนแก่แต่ดูแลสุขภาพเอามาช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมค่ะ”

แม่ลี บริจาค 1 แสน ช่วยน้ำท่วมเชียงราย บอก แก้มบุ๋ม ไม่ต้องเสียใจโดนแซะ

“ที่เลือกมาบริจาค องค์กรทำดี พี่บุ๋มพูดคำหนึ่งว่า ที่ประเทศไทยถ้าเรามีแสง เราเอาแสงมาช่วย แต่วันนี้คำพูดของแม่ลีก็คือ แสงรวมแสงสร้างความดี แม่ลีมีความรู้สึกว่าทุกคนหวงเงินหมด แต่แม่ลีด้วยอายุเราก็ต้องเก็บเงินไว้ใช้ แต่วันหนึ่งเราเอาเงินของเราออกมาช่วยคนแล้ว เราไม่เคยขอความช่วยเหลือใคร

วันนี้เห็นว่าแม่ลีจ่ายตังค์ช่วยจริงๆ แล้วแม่ลีจะโทรไปหาคนที่เขามีเงินขอความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่เชียงรายและอีกหลายจังหวัด เพราะเราต้องเอาเงินเราก่อนแล้วเราจะไปขอความช่วยเหลือมันพูดง่าย เพราะบางคนเขาจะบอกว่าตัวเองทำไมไม่ช่วยล่ะแล้วยังมาขอคนอื่น แม่ลีทำอะไรก็แล้วแต่ต้องเริ่มที่ตัวเองก่อน แล้วค่อยไปขอความช่วยเหลือกับคนอื่น”

แม่ลี บริจาค 1 แสน ช่วยน้ำท่วมเชียงราย บอก แก้มบุ๋ม ไม่ต้องเสียใจโดนแซะ

“ที่พูดว่าทำไมถึงช่วยคุณบุ๋ม คุณบุ๋มลงทั้งแรงทุกอย่างทั้งที่ร่างกายยังไม่พร้อม แต่แม่ลีไม่ได้ลงร่างกายแต่หาเงินได้ ตอนนี้เวลาเรามาถึงทุกคนเรียกเราว่าแม่ลี แม่ยังไงต้องควักเงินช่วยลูก”

“แก้มบุ๋มก็ช่วย เมื่อวานแก้มบุ๋มบอกว่าหนูออกคนละครึ่ง เราบอกไม่เป็นไรลูก แม่ลีผลิตยาสีฟัน ประมาณ 2000 หลอด ที่จะไปช่วยทุกคน เพราะเขากินอาหารแล้วไม่มีน้ำ เราทำยาสีฟันที่ไปจ้างเขาผลิต เราช่วยทั้งเงินและสิ่งที่เรามี แสงบวกแสง เราช่วยคนต้องมีหลักฐาน ก็ขอแสง

อยากให้กำลังใจทุกคน ไม่รู้ว่ากรุงเทพฯ จะโดนวันไหน อยากให้ทำร่างกายให้แข็งแรงพร้อมจะว่ายน้ำหนี เอาตัวเองให้รอดก่อน เอาชีวิตเราไว้แล้วสิ่งของต่างๆ เดี๋ยวค่อยสร้างใหม่ ของนอกกายที่พังไปกับน้ำทุกคนก็เสียดายแต่ถ้าเรามีชีวิตรอดแล้วเดี๋ยวหาใหม่ค่ะ แม่ลีให้กำลังใจค่ะ”

แต่แก้มบุ๋มก็โดนแซะเรื่องบริจาค?
“โดนแซะ ก็บอกลูกว่า ลูกต้องช่วยหมา ต้องช่วยอะไรอีกเยอะแยะ แล้วลูกต้องช่วยคน ส่วนแม่ลีแม่ลีนั่งในรถบ้านของแก้มบุ๋มตั้งแต่เดือนพฤษภา แต่เมื่อวานนี้มีเรื่องราวของแม่ลีนั่งในรถตู้อย่างสวยงาม เหมือนมีคนมาคอมเมนต์แม่ลีว่า ถ้าออกไปอย่างนั้นมันไม่ดี คนอื่นเขานอนในโคลนกันแต่ตัวเองมานอนรถตู้มานอนรถบ้าน แต่ไม่เป็นไรค่ะ เรานั่งนิ่งๆ ไม่ต้องยุ่งกับใคร ใครจะแซะยังไงเรามีตังค์ แล้วเรามีร่างกายที่แข็งแรง แล้วเราก็บอกลูกว่า ไม่ต้องเสียใจลูก แค่เรามีเงินแล้วทำงานช่วยเหลือคน ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์แค่นี้ก็มีความสุขแล้วลูก”

แม่ลี บริจาค 1 แสน ช่วยน้ำท่วมเชียงราย บอก แก้มบุ๋ม ไม่ต้องเสียใจโดนแซะ

แก้มบุ๋มเสียใจ?
เขาเสียใจเพราะว่าหมาเนี่ยต้องซื้อที่เป็นไร่เลี้ยง หมาเดินข้างถนน ขาหัก หมามดลูกพังเขาก็ต้องพาไปรักษาทีนึง 20,000 – 30,000 ไม่มีใครรู้ เวลาไปร้านอาหารมีหมามาสะกิดเขา รู้เลยว่าหมาตัวนี้มดลูกไม่ดี แล้วเขาก็เอาไปรักษา”

“แม่ลีมีแม่ที่นอนติดเตียง มีน้องที่ทำก่อสร้าง เพราะแม่ลีเป็นคนต่างจังหวัด เป็นคนไม่มีเงิน แต่เราเลี้ยงน้อง เลี้ยงแม่ แล้วก็ทำบุญ ที่เหลือเราช่วยสังคมแบ่งปัน แล้วบอกลูกว่าไม่เป็นไร ใครว่าอะไรลูกไม่ต้องเสียใจ บางคนพูดลบ แต่ความพูดลบของเขามันจะเป็นพลังของเรา เพราะเราไม่ได้ช่วยคนเดียว เงินหนึ่งแสนมันไม่พอ แต่เรารู้จักคนมากมายในประเทศไทยที่เขาเกรงใจเรา

และเราไม่เคยขอความช่วยเหลือใคร ณ วันนี้ที่แม่ลีมาอยู่ตรงนี้ ปกติแม่ลีจะแอบทำ ไม่ให้ใครรู้ แต่วันนี้แม่ลีออกมาเพื่อว่าจะไปขอเงินคนอื่นเพื่อเอามาสมทบทุน แต่ตัวเองต้องออกยาสีฟัน 2000 หลอดก่อน เงินอีกหนึ่งแสน แล้วก็ไปขอคนอื่นมันจะน่ารัก แต่ถ้าเราไปขอคนโน้นคนนี้แล้วตัวเองล่ะ มันไม่ได้ แสงบวกแสงสร้างความดี”

เมียนมายังวิกฤต! ดับพุ่ง 230 ศพ กระทบกว่า 6.3 แสนคน ไร้อาหาร-น้ำ-ยารักษาโรค

เมียนมายังวิกฤต! – วันที่ 17 ก.ย. เอเอฟพี รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยครั้งใหญ่ใน ประเทศเมียนมา (พม่า) เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากก่อนหน้านี้ที่ 113 ราย เป็นอย่างน้อย 226 ราย และยังมีผู้สูญหาย 77 ราย ด้านองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เตือนว่ามีประชาชนมากถึง 630,000 คนที่ต้องการความช่วยเหลือ

หลังพายุไต้ฝุ่นยางิพัดถล่มหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครอบคลุมตอนเหนือของเวียดนาม สปป.ลาว เมียนมา และไทยเมื่อกว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมและดินถล่มในอาเซียนเพิ่มเป็นกว่า 500 ราย

เมียนมายังวิกฤต! ดับพุ่ง 230 ศพ กระทบกว่า 6.3 แสนคน ไร้อาหาร-น้ำ-ยารักษาโรค

ด้านสถานีโทรทัศน์ของทางการเมียนมาระบุด้วยว่านาข้าวและพื้นที่เพาะปลูกพืชผลทางการเกษตรเกือบ 260,000 เฮกตาร์ หรือกว่า 1.6 ล้านไร่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมด้วย

สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (โอซีเอชเอ) เปิดเผยว่ามีผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในเมียนมาราว 631,000 คน ประชาชนต้องการอาหาร น้ำดื่ม ที่พักพิง และเสื้อผ้าอย่างเร่งด่วน แต่เพราะถนนหลายสายถูกน้ำท่วมและสะพานพังเสียหายซึ่งเป็นอุปสรรคต่อความพยายามในการช่วยเหลือ

หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ออฟเมียนมาระบุว่า บ้านเรือนราว 150,000 หลังถูกน้ำท่วม ส่วนรัฐบาลทหารจัดตั้งศูนย์บรรเทาทุกข์กว่า 400 แห่ง

และหลังจากรัฐบาลเผด็จการร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติปรากฏว่าจนถึงขณะนี้มีอินเดียเพียงประเทศเดียวที่ตอบสนองต่อคำร้อง โดยส่งสิ่งของจำเป็นจำนวน 10 ตัน รวมถึงอาหารแห้ง เสื้อผ้า และยารักษาโรค

เมียนมายังวิกฤต! ดับพุ่ง 230 ศพ กระทบกว่า 6.3 แสนคน ไร้อาหาร-น้ำ-ยารักษาโรค

เมียนมายังวิกฤต! ดับพุ่ง 230 ศพ กระทบกว่า 6.3 แสนคน ไร้อาหาร-น้ำ-ยารักษาโรค

เปิดรายชื่อ 3 จังหวัด ของไทย ดีเปรสชั่นลูกใหม่จ่อถล่ม เตรียมรับมือ

วันที่ 17 ก.ย. 2567 เพจเฟสบุ๊ก ฝ่าฝุ่น โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า อัพเดทสถานการณ์ของดีเปรสชั่น 98W ออกจากชายฝั่งฟิลิปปินส์มุ่งหน้าเวียดนามแล้ว กำลังผ่านน่านน้ำที่มีศักยภาพในการขุนพายุได้ดีที่สุดในโลกตอนนี้ ทำให้เราต้องเฝ้าติดตามพายุลูกนี้ให้ดี เส้นทางคือผ่านตอนกลางของเวียดนาม มายังลาว เข้าสู่อีสานเหนือ ไปยั่ง น่าน พะเยา และ เชียงราย (อีกแล้ว)

ในอนาคตเมื่อโลกเดือดขึ้นเรื่อยๆ เราจะประสบกับความเหวี่ยงของฝนจากแล้งๆเป็นฝนบอมป์หรือพายุที่รุนแรงทวีกำลังได้เร็วมาก และสภาพฝนเหวี่ยงแบบนี้จะรุนแรงชึ้นเรื่อยๆ เราคงหยุดโลกร้อนไม่ได้มากเพราะมันตั้งอยู่พื้นฐานของความรักสบาย เห็นแก่ตัว และ ทุนนิยม

ดังนั้นสำหรับคนไทยมีวิธีสร้างภูมิคุ้มกันคือ

1. ปรับตัวกับสภาพที่ต้องอยู่กับน้ำ คงเหมือนสมัยปู่ย่าตายายที่เราอยู่กับคลอง น้ำท่วม ฯลฯ ได้โดยไม่เดือดร้อนเท่าไร น้ำเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

2. บริหารจัดการน้ำให้เก่ง เริ่มจากระบบเล็กๆด้วยการบริหารห้วยหลังหมู่บ้าน ขุดบ่อเก็บน้ำ (ทำโดยชาวบ้าน) ไปจนถึงระบบขนาดกลางและใหญ่ (ทำโดยราชการ) ให้มีความสามารถในการเก็บและชะลอน้ำไว้ได้ ให้มันลงเก็บใต้ดิน เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางอาหารและทรัพยากรน้ำ

3. รักษาป่าไม้ให้สมบูรณ์

ขอบคุณ ฝ่าฝุ่น

ด่วน! เกิดอุบัติเหตุรถบัส ผู้โดยสารกว่า 20 ชีวิต จนท.เร่งนำสง รพ.

วันที่ 17 กันยายน 2567 มีรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. เกิดอุบัติเหตุ รถบัสโดยสาร ป.1 สายนครราชสีมา-ขอนแก่น อุดรธานี เสียหลักลงร่องกลางถนน ที่เกิดเหตุบริเวณถนนมิตรภาพ ขาขึ้นจังหวัดขอนแก่น บ้านทุ่งมน อ.บ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น เบื่องต้น มีผู้โดย 20 กว่าราย บาดเจ็บหลายราย จนท.นำส่งโรงพยาบาล 3 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บเล็กน้อยไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาล

ภาพจาก ข่าวบ้านไผ่

สอบถามทางด้านผู้โดยสารที่นั่งมาเผยว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงเหมือนรถยางแตก ก่อนที่รถจะส่ายและเสียหลักลงร่องกลางถนน ซึ่งจากจากตรวจสอบเบื่องต้นพบว่าที่บริเวณล้อหน้าขวายางแตก ขณะ จนท.ตำรวจ และ จนท.ทางหลวง ลงพื้นที่แล้ว

ภาพจาก ข่าวบ้านไผ่

เรียบเรียงโดย mumkhao

พ่อบุก รร. วีนฉ่ำ ลูกคิดเลข 4×5=20 ครูตรวจว่าผิด เฉลยคำตอบ 5×4=20 ยิ่งฉุน ต่างกันตรงไหน แต่ฟังครูอธิบายคำเดียว ต้องยอมขอโทษ

โจทย์คณิตศาสตร์ในบทเรียนของเด็กนักเรียนในสมัยนี้ แตกต่างจากรุ่นพ่อรุ่นแม่อย่างสิ้นเชิง หลายข้อต้องใช้สมองคิดวิเคราะห์อย่างหนัก แม้กระทั่งผู้ใหญ่ยังคิดไม่ออก เมื่อช่วยลูก ๆ แก้โจทย์การบ้าน และก็มีหลายครั้งที่กลายมาเป็นประเด็นถกเถียงกันไม่จบสิ้น ทั้งความไม่ชัดเจนของคำถาม วิธีคิดคำนวนที่แตกต่างกัน หรือแม้แต่ข้องใจว่าคุณครูอาจจะตรวจคำตอบผิดพลาด

ดังเช่นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ เมื่อคุณพ่อคนหนึ่งแสดงความไม่พอใจลงโซเชียลมีเดีย โดยชี้ให้เห็นว่าแบบทดสอบวิชาคณิตศาสตร์ของลูกที่กำลังเรียนชั้นประถมศึกษา ถูกคุณครูตรวจอย่างไม่ถูกต้อง ทำให้พลาดคะแนนในข้อดังกล่าวไป โดยโจทย์ข้อนี้มีอยู่ว่า มีนักเรียนนั่งเรียงกัน แต่ละแถวมี 5 คน เรียงกันเป็น 4 แถว รวมทั้งหมดมีนักเรียนกี่คน?

จากปัญหาข้างต้น ลูกของเจ้าของโพสต์จึงคำนวณได้ดังนี้ 4 x 5 = 20 คน แต่เมื่อส่งคำตอบไปกลับถูกครูขีดคำตอบดังกล่าวนั้น ผิด ซะงั้น พร้อมทั้งเฉลยวิธีคำนวณที่ถูกต้อง ว่าควรเป็น 5 x 4 = 20 คน ซึ่งก็ได้ผลลัพธ์เหมือน แต่ทำไมคุณครูจึงตรวจให้ผิด

อย่างไรก็ตาม โพสต์ของคุณพ่อคนนี้ ทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างดุเดือดในหมู่ชาวโซเชียลอย่างรวดเร็ว เพราะคนส่วนใหญ่ก็คิดเหมือนกันว่า สุดท้ายแล้วคำตอบคือ นักเรียน 20 คน ดังนั้น จึงไม่มีความแตกต่างว่าไม่ว่าจะใช่วิธีคำนวณ 4×5 หรือ 5×4

เมื่อเห็นเช่นนั้น คุณพ่อคนนี้จึงตัดสินใจไปสอบถามคุณครูถึงโรงเรียน หลังจากได้รับฟัง ครูประจำชั้นก็ยิ้มแล้วจึงอธิบายว่า หน่วยนี้ถามจำนวนคน เลยต้องใช้จำนวนคนคูณ ไม่ใช่จำนวนแถวที่จะคูณ คำตอบที่ถูกต้องก็สำคัญ แต่สิ่งสำคัญมากกว่า คือ นักเรียนเข้าใจปัญหาอย่างชัดเจน ในระดับผู้ใหญ่ 4×5 หรือ 5×4 ก็ไม่แตกต่างกัน แต่ในการเรียนระดับประถมศึกษา การคำนวณนี้จะต้องเป็น 5×4

ทั้งนี้ หลังจากได้ยินคำอธิบายและเข้าใจถึงวิธีการเรียนการสอนทั้งหมดแล้ว ผู้เป็นพ่อก็ได้แต่นิ่งและเขินอายกับความจริงตรงหน้า หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาได้เอ่ยปากกล่าวตำหนิคุณครูไปแบบผิด ๆ เพราะแท้จริงแล้วผู้ที่ต้องทบทวนความรู้ก็คือตัวเขาเอง

ข้อมูล soha

สาว24 ถูกเอเจนซี่ หลอกแต่งงาน กับชายจีน อ้างรวย สุดท้ายอยู่อย่างลำบากบนเขา

สาวถูกเอเจนซี่หาคู่ หลอกแต่งงาน กับชายชาวจีน อ้างโปรไฟล์หรู สุดท้ายอยู่อย่างลำบากบนเขา ก่อนตัดสินใจหนี ซ้ำเสียรู้ให้เอเจนซี่ฮุบเงินสินสอด ไปกว่า 7 แสนบาท

วันที่ 17 ก.ย.67 ที่สำนักงานเพจสายไหมต้องรอด นางสาวเฟิร์น (นามสมมติ) อายุ 24 ปี อดีตพนักงานต้อนรับ เดินทางมาขอปรึกษากับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด

หลังสาวถูกเอเจนซี่หาคู่ หลอกให้ไปแต่งงานกับชายชาวจีนที่อ้างว่าเป็นนักธุรกิจ โปรไฟล์ดีมีคอนโดหรูหรา อยู่ประเทศจีน แต่ปรากฏว่า เมื่อไปถึงต้องใช้ชีวิต อยู่อย่างลำบากในบ้านเก่าบนภูเขา ไม่มีห้องน้ำ จนต้องหนีกลับมาประเทศไทย ภายหลังพบว่าเอเจนซี่ยังได้ฮุบเงินค่าสินสอดไป กว่า 7 แสนบาท

ผู้เสียหาย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนมีคนรู้จักมาแนะนำว่า มีเอเจนซี่ที่จะช่วยหาคู่ให้ ไปแต่งงานกับชายชาวจีนที่อยากมีภรรยาเป็นคนไทย โดยจะได้ค่าสินสอดหลักแสน อยู่ดีกินดี มีครอบครัวที่ดี ตนจึงสนใจ และลองคุยกับฝ่ายชายผ่านทางแอปพลิเคชั่นวีแชท

โดยฝ่ายชายบอกโปรไฟล์ว่าเป็นนักธุรกิจ มีคอนโดหรูในเมือง ซึ่งคุยกันประมาณ 1 เดือน ก็คุยถูกคอตนจึงตอบตกลงที่จะไปจดทะเบียนสมรส และใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศจีน โดยเอเจนซี่ได้ให้เงินมา 9 หมื่นบาท ค่าสินสอด

สาว24 ถูกเอเจนซี่ หลอกแต่งงาน กับชายจีน อ้างรวย สุดท้ายอยู่อย่างลำบากบนเขา

โดยทางฝ่ายชายได้ออกค่าใช้จ่ายการเดินทางให้ทั้งหมด ตนเดินทางไปถึงวันที่ 20 ส.ค. พอไปถึงก็มีแฟนของเอเจนซี่พาฝ่ายชายมารับ จากนั้นก็ขับรถไป แต่ระหว่างทางเริ่มเป็นการขึ้นภูเขา ห่างไกลเมืองไปเรื่อย ๆ ตนก็แปลกใจว่าจะมีบ้านคนอยู่แถวนี้จริงๆ หรอ

พอไปถึงพบว่า เป็นบ้านหลังสุดท้ายบนภูเขา ห่างไกลจากชุมชนมาก ลักษณะเป็นฟาร์มแกะ ไร่ข้าวโพด ตนก็ถามฝ่ายชายว่าไหนบอกว่าจะพามาอยู่คอนโดหรูในเมือง ฝ่ายชายก็บอกว่าช่วงนี้เป็นช่วงเก็บเกี่ยว ต้องมาช่วยแม่ทำงานก่อน แล้วเดี๋ยวจะพากลับลงไปอยู่ในเมือง

ผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า ตอนนั้นตนไม่มีทางเลือกแล้วก็เลยลองอยู่ดูก่อน โดยฝ่ายชายได้พาไปจดทะเบียนสมรส แต่พอมาใช้ชีวิตอยู่ ปรากฏว่าลำบากมาก ไม่มีห้องน้ำต้องตักน้ำใส่กะละมังมาไว้ในห้องแล้วเอาผ้าชุบน้ำเช็ดตัวแทนการอาบน้ำ ถ้าจะสระผมต้องรอสัปดาห์ละครั้ง ที่ฝ่ายชายจะพาลงไปใช้ห้องน้ำในชุมชน ส่วนการเข้าห้องน้ำ ก็ต้องไปขุดหลุมในไร่ข้าวโพด ตนจึงกลั้นไว้รอตอนไปสระผม ทำให้ท้องผูก และก็ไม่มีน้ำสะอาดให้กินด้วย

นอกจากนี้ ฝ่ายชายยังไม่ค่อยอาบน้ำ ทำงานในไร่ในฟาร์ม กลับมาก็ถอดชุดแล้วนอนเลย ตนทนนอนด้วยไม่ได้ ต้องไปนอนที่โซฟา ฝ่ายชายก็ไปฟ้องเอเจนซี่ว่าตนไม่ยอมนอนด้วย ซึ่งตนก็อธิบายปัญหาให้ฟัง แต่เอเจนซี่ก็ไม่ช่วยเหลืออะไร

จนล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ก.ย. ตนสบโอกาสตอนที่แม่ฝ่ายชายเข้าไปในไร่ข้าวโพด ตนจึงหาทางหนีโดยต้องแอบเดินออกมาตามไร่ข้าวโพด ซึ่งเป็นขั้นบันไดที่มีเหวลึก ตอนนั้นรู้สึกเสี่ยงตาย แต่ถ้าอยู่ก็ไม่มีอะไร ดีจึงเดินมาเรื่อย ๆ ใช้เวลาเดินกว่าครึ่งวัน ก็มาพบกับชุมชน จึงขอให้ชาวบ้านช่วยมาส่งในเมือง และต่อรถบัส 4 ชั่วโมงมาที่สนามบินเพื่อรอเที่ยวบินกลับกรุงเทพ ฯ

อย่างไรก็ตาม ตอนที่ตนอาศัยอยู่กับฝ่ายชาย ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกาย แต่ถ้าหากทำอะไรไม่ได้ดั่งใจก็จะโดนต่อว่าพูดจาไม่ดี ทั้งนี้ตนก็รู้มาว่า มีกรณีของผู้หญิงคนอื่นที่หาคู่ผ่านเอเจนซี่รายเดียวกันนี้แต่เมื่อไปใช้ชีวิตที่ประเทศจีนแล้ว ถูกฝ่ายชายทำร้ายร่างกายด้วย

ต่อมาเมื่อตนเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว จึงได้ติดต่อหาเอเจนซี่ เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น ปรากฏว่าเอเจนซี่บังคับให้ตนกลับไป เพราะไม่เช่นนั้นจะต้องจ่ายค่าปรับให้กับฝ่ายชาย 350,000 บาท เพราะฝ่ายชายได้ให้เงินค่าสินสอดมาแล้ว

ขณะที่ฝ่ายชายก็พยายามติดต่อมาหาตน และบอกว่าทำไมถึงต้องหนี เพราะให้เงินค่าสินสอดไป 8 แสนบาท พอที่จะเลี้ยงดูทั้งครอบครัวได้แล้ว ยังไม่พอหรอ ทำให้ตนเพิ่งรู้ว่าเงินที่ฝ่ายชายให้มา เอเจนซี่เป็นคนเก็บไว้ และให้ตนมาแค่ 9 หมื่นบาท

จนถึงขณะนี้ตนก็ถูกเอเจนซี่ตามมาคุกคามและข่มขู่คนในครอบครัวว่า ถ้าไม่จ่ายค่าปรับก็จะฟ้องและบังคับให้เซ็นสัญญาเงินกู้ วันนี้จึงมาร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด เพื่อให้พาเข้าแจ้งความเอาผิดกับเอเจนซี่ จึงอยากฝากเตือนผู้หญิงที่กำลังคิดจะหาแฟนเป็นคนจีนว่าให้ระวังด้วย

ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า กรณีนี้จะต้องมีการตรวจสอบว่าเข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่ เพราะทางเอเจนซี่ได้รับเงินจากชายจีนมา 8 แสนบาท เพื่อทำการส่งหญิงไทยไป ซึ่งทีมงานจะพาผู้เสียหายไปแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์

ฝากถึงผู้หญิงไทยที่อยากมีสามีเป็นคนจีนว่าให้ระวัง เพราะเคยมีเคสที่ตนไปช่วยเหลือมาได้ เป็นหญิงชาวไทยที่ไปแต่งงานกับชายชาวจีน แต่มีลูกเป็นผู้หญิง จึงถูกทำร้ายทุบตีเพราะครอบครัวฝ่ายชายต้องการให้ได้ลูกชาย

Popular Posts

My Favorites

สาวโอนเงินผิดไปให้พ่อค้าน้ำแข็ง พอเข้าไปถามให้โอนคืน คำตอบที่ได้ เข่าแทบทรุด

0
เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 30 สิงหาคม 2567 นางบุหงา วิภักดี อายุ35ปี เจ้าของเขียงเนื้อวัวนำหลักฐานการโอนเงินและใบแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าร้องสื่ออยากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามเงินของตนมาคืนเพราะเดือนร้อนมากต้องใช้จ่ายในการหมุนเวียนซื้อของเข้าร้าน ด้านนางบุหงา วิภักดี อายุ35ปี เจ้าของเขียงเนื้อวัวได้กล่าว่าเมื่อวันที่27 สิงหาคม 2567 ตนได้โอนเงินเข้าไปผิดบัญชีจำนวนเงิน30,300บาทไปให้ นายพิเชษฐ ทองมา พ่อค้าน้ำแข็ง พอโอนไปผิดตนจึงโทร เข้าไปถามว่าโอนเงินไปจำนวน 30,300 บาทเข้าบัญชีและอยากให้นายพิเชษฐ์โอนเงินจำนวน...